กระบวนการยุติธรรม กับความมั่นคงของพุทธศาสนา !!

กระบวนการยุติธรรม กับความมั่นคงของพุทธศาสนา !!

เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา ได้เห็นข่าวชิ้นหนึ่งปลิวว่อนอยู่ในโลกโซเซียลจากกรณี ผู้ใช้ชื่อกลุ่มชาวพุทธยื่นเรื่องต่อ บก.ปปป.

ดำเนินคดีอธิบดีดีเอสไอ. และผอ.กองคดีการเงินฯ ปฏิบัติหน้าที่มิชอบและละเว้นฯ จากการยึดทรัพย์มูลนิธิฯ วัดธรรมกาย เมื่อ ๖ ธันวาคมที่ผ่านมา โดยใช้ชื่อ กลุ่มชาวพุทธพลังแผ่นดิน และอ้างว่ามีเครือข่ายองค์กรชาวพุทธอื่นๆ ร่วมกัน... มุ่งความเป็นประโยชน์ส่วนตน หมู่คณะ ตามลัทธิอาจารวาท...

จริงๆ แล้ว เรื่องดังกล่าว... และอีกหลายเรื่องที่เกี่ยวกับแวดวงสงฆ์ในพุทธศาสนา เป็นเรื่องที่สืบเนื่องมาจากมูลเหตุต่างๆ นานา ที่ได้เข้าสู่การสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือหน่วยงานสอบสวนพิเศษ ดังปรากฏผลตามที่เป็นข่าว.. ซึ่งเป็นเรื่องที่อยู่ในความสนใจของประชาชน อันน่าจะเข้าสู่ระบบพิจารณาคดีความเป็นพิเศษ เพื่อความรวดเร็ว มีศาลที่เกี่ยวกับฝ่ายคดีความด้านศาสนา.. พร้อมการอำนวยความสะดวกในทุกด้านแก่ทุกฝ่ายที่ต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ซึ่งไม่ใช่ดำเนินไปเหมือนคดีปกติโดยทั่วไปตามกระบวนการยุติธรรมดังเช่นที่เป็นอยู่ โดยเฉพาะเกี่ยวกับพระภิกษุ ซึ่งหากโดนฟ้องร้องเป็นคดีไปแล้วจะมืดสิบด้านเลย มิใช่แค่แปดด้าน ด้วยความที่ไม่อยู่ในฐานะเกี่ยวข้องทางโลกมานาน จึงขาดความรู้ ความเข้าใจในกระบวนการทางกฎหมายของบ้านเมือง เว้นแต่ หลวงพ่อ พระอาจารย์ ที่มีคณะบุคคลศรัทธานิยมชมชอบเป็นส่วนตัว หรือมีลูกศิษย์ลูกหาจัดตั้งขึ้นเป็นกองกำลังสนับสนุนที่ถึงพร้อมในทุกด้าน ไม่ว่า เงินทอง เส้นสาย เครือข่าย และประโยชน์ที่ถึงกัน จนเกิดเป็นขบวนการพลังมวลชนชั้นเยี่ยม ที่สามารถบริหารจัดการให้เกิดเป็นองค์กรดุจกองทัพที่ยิ่งใหญ่ ที่นิยมเรียกกันว่า กองทัพธรรม !!

หากกล่าวถึงชื่อเสียงของ กองทัพธรรม ในลักษณะดังกล่าว คงไม่มีคณะใดเกินกลุ่มสันติอโศก ที่ใจถึง พึ่งได้ สู้ไม่ถอย สามารถระดมสมาชิกมาประกอบกิจกรรมได้อย่างพรึบพรับ ยามต้องออกมารวมตัวต่อสู้กับอำนาจทางการเมือง ... หรือแม้แต่ คณะมวลชนของธรรมกาย ที่แจ้งประจักษ์ในความเข้มแข็งครบทุกด้าน สมบูรณ์ในศักยภาพที่ถึงพร้อมทุกฐานกำลัง ดังเมื่อครั้งต้องสู้กับอำนาจรัฐ ที่พยายามส่งกำลังเข้าวัดพระธรรมกายเพื่อติดตามเอาตัวเจ้าสำนัก.. ซึ่งสามารถยับยั้งอำนาจรัฐไว้ได้.. จนต้องใช้วิธีการประนีประนอมดังที่ชาวพุทธส่วนใหญ่ทราบดี.. ด้วยเหตุผลของภาครัฐ คือ การไม่ขยายหรือแปรรูปปัญหาให้ไปเข้าทางกลุ่มการเมืองตรงข้ามที่รอคอยการเข้าร่วม...

แต่ในความเป็นจริงของประเทศพุทธศาสนาบ้านเรา หากพูดถึงกองทัพธรรมหรือกำลังชาวพุทธที่เข้มแข็งมั่นคงจริงๆ แล้ว คงไม่ใช่กำลังของคณะศรัทธาสำนักนั้น .. หลวงพ่อนี้ .. ซึ่งแม้จะรวมพลกันมากมายก็คงไม่ใช่พุทธศาสนิกชนส่วนใหญ่ของประเทศ ซึ่งแตกต่างกันมาหากจะวัดกำลังกัน ด้วยความเป็นกัลยาณชนมีอุดมการณ์ธรรม จึงเป็นกองทัพธรรมแท้จริงที่แสดงพลังสามัคคีธรรมมายาวนาน ในการสืบสานสืบเนื่องพระพุทธศาสนาด้วยจิตศรัทธามั่นคง ไม่หวั่นไหว ยิ่งกว่ากำลังศรัทธาของเจ้าสำนักทั้งหลายที่ก่อตั้งขึ้นมาตามกระแส มุ่งความเป็นประโยชน์ส่วนตัว... จึงมีศักยภาพต่างกันมาก หากเปรียบเทียบกับกองกำลังชาวพุทธส่วนใหญ่ ซึ่งเป็นเสียงส่วนใหญ่ของประเทศพระพุทธศาสนาอย่างเราที่กำลังเฝ้ารอดูกระบวนการยุติธรรมด้วยความเป็นห่วงเป็นใยในพระพุทธศาสนา ด้วยความประสงค์ที่ต้องการให้เรื่องราวทั้งหลายที่เกี่ยวข้องกับบุคคล องค์กรฯ ในพระพุทธศาสนาดำเนินไปอย่างเรียบร้อยรวดเร็ว เพื่อรักษาประโยชน์ของพระพุทธศาสนาและชาติบ้านเมืองเป็นที่สุด โดยศาสนิกชนส่วนใหญ่ยังดำรงอยู่ในความสงบ เคารพกฎหมายบ้านเมือง และมีความอดทนรอคอยการดำเนินการของกระบวนการยุติธรรมไทย... แม้จะล่าช้า ไม่ทันใจในฐานะชาวพุทธที่ห่วงใยต่อภาพลักษณ์ของสถาบันสงฆ์ในพุทธศาสนา .. และความเป็นประเทศพุทธศาสนาที่สืบมายาวนาน

ดังนั้น จะทำอย่างไร .. ให้การดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรมเป็นไปอย่างรวดเร็ว .. ถูกต้องชัดเจน มีความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และไม่ขัดแย้งกับพระธรรมวินัยในพุทธศาสนา ในกรณีเกี่ยวกับวัด .. และพระภิกษุ หรือพุทธบริษัท จึงเป็นโจทย์ที่ทุกฝ่ายในบ้านเมืองควรช่วยขบคิด เพื่อการรักษาไว้ซึ่งความมั่นคง สวยงาม ของสถาบันพระพุทธศาสนา... เพื่อการดำเนินไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ .. มีคุณภาพของพระพุทธศาสนา... จึงควรอย่างยิ่งที่ทุกกลไกของบ้านเมืองในฝ่ายอาณาจักร จะได้ช่วยกันคิดหามาตรการที่มีประสิทธิภาพ มีประโยชน์โดยธรรม มาช่วยบริหารจัดการให้การดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรม เป็นไปเพื่อเอื้อเฟื้อความมั่นคงในฝ่ายศาสนจักรให้สืบเนื่องต่อไป... หมายเหตุ.. กรุณานำไปคิดต่อด้วยนะ พ่อมหาจำเริญ .. จะได้เป็นบุญกุศลสืบไป !!

เจริญพร