วีรบุรุษผู้กล้า

วีรบุรุษผู้กล้า

การชิงดีชิงเด่น ต่อสู้แข่งขัน แก่งแย่งช่วงชิง คือธรรมชาติของมนุษย์ “บู๊” เป็นเรื่องธรรมดาในหล้าโลก สิ่งที่เหนือกว่าคือ “เฮียบ”

กล้าหาญถือคุณธรรม อันเป็นอุดมการณ์ของวีรบุรุษ  การบรรยายฉากต่อสู้และวิชาบู๊ที่พิสดาร แม้สร้างความสนุกสนานตื่นเต้น แต่อรรถรสที่ลึกซึ้งกินใจผู้อ่าน ย่อมเกิดจากคุณธรรมของวีรบุรุษผู้กล้าเป็นสำคัญ

มังกรหยกภาค 1 ของกิมย้งนำเสนออุดมคติของบู๊เฮียบได้สมบูรณ์ที่สุด ธีมเรื่องกล่าวถึงการช่วงชิงตำแหน่งยอดฝีมืออันดับ 1 ของยุทธจักรและยอดคนอันดับ 1 ของแผ่นดิน ตัวละครมีนิสัยใจคอและบุคลิกภาพโดดเด่น ทั้งแตกต่างและขับเน้นกันเอง ไม่เพียงสร้างการจดจำที่ลึกซึ้ง ทั้งยังสะท้อนถึงเส้นทางชีวิตที่แต่ละคนเลือกและผลสุดท้ายที่ได้รับ นิยายค่อย ๆ ขมวดปม คลี่คลาย และเฉลยความหมายของวีรบุรุษในที่สุด

ตัวเอกคือก๊วยเจ๋ง แม้ด้อยฝีมือและสมองโง่ทึบ แต่เขาก็คิดออกว่า การที่เฮ้งเตงเอี้ยง-ยอดฝีมืออันดับ 1 ไม่ยอมฝึกปรือคัมภีร์เก้าอิม แต่กลับเก็บซ่อนไว้ เพราะเห็นว่าคัมภีร์นี้คือสาเหตุให้ผู้คนเข่นฆ่ากันเอง ท่านประลองยุทธ์ ไม่ได้ต้องการเป็นที่ 1 แต่ต้องการยุติปัญหา เมื่อได้มา จึงไม่คิดฝึกปรือ อันที่จริง ต่อให้คัมภีร์สูงส่งล้ำค่ากว่านี้ แต่ถ้ามันทำลายชีวิตคน ก็สมควรทำลายทิ้ง เพียงแต่ท่านไม่อาจหักใจ จึงแค่เก็บซ่อนไว้  การที่ก๊วยเจ๋งคิดได้ขนาดนี้ แสดงถึงทัศนคติที่กว้างไกล จิตใจดีงาม และระดับคุณธรรมขั้นสูง ฉายแวววีรบุรุษตั้งแต่หนุ่ม

แล้วยอดคนอันดับ 1 ของแผ่นดินล่ะ เขามองอย่างไร ? ตอนท้ายเรื่อง ก๊วยเจ๋งถามเจงกีสข่านว่า “คนเราเมื่อตายแล้ว ต้องการพื้นที่ฝังศพเท่าใด ?” ข่านขยับแส้ม้าเป็นวง ๆ หนึ่ง ก๊วยเจ๋งจึงกล่าวว่า ตายแล้วได้พื้นที่แค่นี้ ท่านข่านทำสงครามขยายดินแดนเข่นฆ่าผู้คนมากมายเพื่ออะไร ?”  ในทัศนะกิมย้ง เจงกีสข่านแม้ยิ่งใหญ่ที่สุดในแผ่นดิน แต่ก็ไม่ใช่วีรบุรุษ เพราะเส้นทางที่ท่านเลือกต้องแลกด้วยชีวิตคนมากมาย

วีรบุรุษยื่นมือช่วยด้วยคุณธรรม ไม่หวังชื่อเสียงลาภยศ ไม่ทำลายล้างเพื่อตอบสนองอัตตาตัวเอง วีรบุรุษที่แท้จริงช่วยเหลือผู้คน มิใช่ฆ่าคน คล้ายดั่งปรัชญาของโกวเล้งที่ว่า สุดยอดกระบี่มิใช่กระบี่ฆ่าคน แต่เป็นกระบี่ช่วยชีวิตคน  เฮ้งเตงเอี้ยงเป็นวีรบุรุษ เจงกีสข่านเป็นแค่ผู้ยิ่งใหญ่ อุดมคติของบู๊เฮียบบอกเราเช่นนี้

ความงดงามอีกประการของมังกรหยกคือการนำเสนอสำนึกแห่งความรักชาติ ก๊วยเจ๋ง-เอี้ยคังเป็นลูกหลานชาวซ้อง (จีนกลางว่า “ซ่ง”) ที่ถูกภัยสงครามจนเป็นกำพร้า ก๊วยเจ๋งไปโตในมองโกล เอี้ยคังถูกเลี้ยงในวังอ๋องกิม แม้ถือเป็นพี่น้อง แต่ด้วยสิ่งแวดล้อมและนิสัยใจคอที่แตกต่าง ผลบั้นปลายจึงห่างไกลกันมาก

เอี้ยคังถูกเลี้ยงดูและได้รับการศึกษาอย่างดี จึงฉลาดปราดเปรียว แต่เขาทะเยอทะยาน หลงในลาภยศสรรเสริญ ปฏิเสธชาติกำเนิดตัวเอง ทรยศต่อแผ่นดิน ร่วมมือกับอ๋องกิมเตรียมบุกซ้องใต้ ส่วนก๊วยเจ๋งโตในทุ่งหญ้า เรียนน้อยไม่ทันคน แต่ซื่อสัตย์จริงใจ รู้จักแยกแยะผิดชอบชั่วดี แม้ตัวเองได้รับบุญคุณจากเจงกีสข่าน แต่เมื่อรู้แผนลับบุกซ้องของข่าน ก็ปฏิเสธและละทิ้งตำแหน่งอำนาจทั้งมวล ยอมทิ้งแม้ชีวิตเพื่อตอบแทนบุญคุณข่าน แต่ไม่ยอมทรยศต่อชาติบ้านเมือง ความรักชาติคือ “คุณธรรมใหญ่” ที่กิมย้งยกย่องอย่างสูง

คนเราไม่อาจวัดกันที่ภายนอก ชาติกำเนิด-ฐานะ-การศึกษา-ความฉลาด-ตำแหน่งอำนาจ ไม่ได้บอกถึงความดีงามของคนเสมอไป คุณธรรมไม่ได้ผูกขาดกับใครหรือกลุ่มใด วีรบุรุษที่แท้อาจธรรมดาสามัญกว่าทุกคน

วีรบุรุษผู้กล้า

สำนึกในรากเหง้าของตนและความรักชาติคือวัตถุประสงค์ที่แท้จริงของกิมย้ง หลังสิ้นสุดราชวงศ์ชิง 12 กุมภาพันธ์ 1912 จีนตกในวังวนของการแก่งแย่งอำนาจและสงครามทั้งกับญี่ปุ่นและชาวจีนกันเอง จนก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีนสำเร็จ 1 ตุลาคม 1949 จีนขณะนั้นอ่อนแอมาก อีก 9 เดือนต่อมา เกิดสงครามเกาหลีที่รบกันนานถึง 3 ปี โลกตึงเครียดด้วยสงครามเย็นและสงครามตัวแทน จีนเองไม่แน่ว่าจะรอดหรือไม่ กิมย้งที่เกิดเจ้อเจียงแต่มาอยู่ฮ่องกง จึงเขียนมังกรหยก 1 มกราคม 1957 เพื่อกระตุ้นให้ชาวจีนโพ้นทะเล (ที่จากบ้านเกิดเหมือนก๊วยเจ๋งและตน) ได้สำนึกถึงรากเหง้าและความเป็นเชื้อชาติเดียวกัน ช่วยเหลือและสนับสนุนจีนให้เอาตัวรอดให้ได้

หลักฐานคือชื่อตัวเอกที่มาจากคำว่า “เจ๋งคัง” ซึ่งหมายถึงรัชสมัยซ่งซินจงฮ่องเต้ที่ครองราชย์ 19 มกราคม 1126 แทนซ่งฮุยจงที่สละราชสมบัติในขณะที่ทัพกิมประชิดเมืองหลวง เปียนจิงถูกยึด 31 มกราคม ยึดแค่ 33 วันก็ถอยทัพ หลังจากซ่งซินจงยอมสงบศึก เสีย 3 เมืองและทรัพย์สินเงินทองมหาศาล กลางธันวาคม ทัพใหญ่กิมบุกอีกครั้ง เปียนจิงถูกตีแตก 9 มกราคม 1127 กิมปล้นทรัพย์สินไปจนหมดสิ้น ทั้งกวาดต้อนฮ่องเต้ทั้ง 2 และเชื้อพระวงศ์ไปเป็นเชลย ซ่งจินจงถูกปลดเป็นสามัญชน 20 มีนาคม ถือเป็นการสิ้นสุดราชวงศ์ซ้องเหนือ นักประวัติศาสตร์ขนานนามยุคนี้ว่า “ความอัปยศสมัยเจ๋งคัง”

ดวงดาวบอกล่วงหน้าชัดเจน วัฏจักรเสาร์มฤตยูเริ่มต้นใหม่ 6 มิถุนายน 1125 ที่ 19:14 องศาสิงห์ ชี้ถึงการทำลายโครงสร้าง (อำนาจ) เก่าเพื่อสร้างใหม่ ธันวาคม 1126 เกิดคราสถึง 3 ครั้ง จันทรคราสวันที่ 2 ที่ 4:33 องศาเมถุน สุริยคราสวันที่ 16 ที่ 18:55 องศาธนู และจันทรคราสวันที่ 31 ที่ 4:48 องศากรกฎ ทับจุดเริ่มต้นวัฏจักรมฤตยูพลูโต 8 กรกฎาคม 947 ที่ 6:43 องศากรกฎที่เป็นจุดกำเนิดราชวงศ์ซ้องสนิทพอดี คราสมีกำลังสูงสุดหน้า 7 หลัง 30 วัน ซ้องเหนือล่มสลาย 9 วันหลังคราสนี้

วันเมืองหลวงแตก คู่พฤหัสเสาร์วิกลคติพักรพร้อมกันที่ 17:50 และ 19:56 องศากันย์ กุมเนปจูนกันย์และ 90 ราหูเมถุนสนิทพอดี เนปจูน 150 พลูโตเมษสนิท พลูโต 90 พุธพักรในมังกร อังคารมังกรดับสนิท 150 ราหู ศุกร์ธนู 90 มฤตยูกันย์สนิท จันทร์นิจจ์ 45 เสาร์พอดี ดาวให้โทษครบถ้วนสมบูรณ์

จากเริ่มต้นสู่จุดสิ้นสุด สุดแท้แต่สวรรค์ลิขิต