ผู้บริหารอ่อนอาวุโส พนักงานมากอาวุโส

ผู้บริหารอ่อนอาวุโส พนักงานมากอาวุโส

เมื่่อสังคมมีคนสูงอายุมากขึ้น จะเริ่มเห็นผู้บริหารที่อ่อนอาวุโสกับพนักงานที่มากอาวุโสได้ชัดเจนยิ่งขึ้้น ซึ่งถ้ามีการบริหารกันแบบยึดตามอาวุโส

ใครแก่กว่าได้เป็นหัวหน้า ใครอ่อนกว่าต้องเป็นลูกน้อง น้องไม่แซงพี่ แบบที่เป็นอยู่ในบางวงการ ผู้น้อยก็ตามผู้ใหญ่เสมอ ปัญหาการงานก็ไม่ค่อยปรากฏให้เห็น น้องไม่พอใจก็เงียบไว้ รอเวลาให้พี่พ้นหน้าที่ไปแล้วค่อยไปแก้ไขกันอีกที แต่ถ้าเป็นวงการที่น้องบริหารได้ พี่กลายเป็นลูกน้องได้ หลายแห่งราบรื่น แบบพี่อยู่ส่วนพี่ น้องไม่ข้องแวะใดๆ โดยสถาปนาพี่ใหญ่ทั้งหลายไว้ในที่อันสมควร ส่วนใหญ่ก็เรียกกันให้ดูดีว่าท่านที่ปรึกษา แต่มักไม่ค่อยได้ปรึกษาอะไรกันนัก มีไว้ให้พี่ดูดีเท่านั้น ส่วนพี่ก็ปล่อยวาง อยากทำอะไรก็ทำกันไป หน่วยงานจะเป็นอะไรก็เป็นความรับผิดชอบของน้องที่บริหารอยู่ในขณะนั้น

ที่ไม่ค่อยราบรื่น คือ บางแห่งที่พี่ใหญ่ไม่ค่อยจะปล่อยวาง ท่านห่วงหน่วยงานของท่าน อุตสาห์เหนื่อยยากสร้างมากับมือ เลยไม่อยากปล่อยให้น้องทั้งหลายที่ทำท่าทางว่าเก่งสารพัด แต่ผลงานไม่เข้าตาพี่ใหญ่แต่ประการใด พี่ใหญ่เลยทำหน้าที่เป็นผู้คุ้มกฏ ในฐานะอุปนายกสภาบริหารบ้าง ผู้ทรงคุณวุฒิบ้าง น้องทั้งหลายเองก็คิดว่าตนเองแน่เหมือนกัน สงครามระหว่างคนต่างวัยก็มักเกิดขึ้นตามมา เรื่องไม่เป็นเรื่องก็กลายเป็นเรื่องขึ้นมาได้ เอาเป็นเอาตายกันแทบทุกเรื่อง แค่ตำแหน่งไหนต้องอายุไม่เกินเท่าไรก็ทุ่มเทสุดความสามารถเพื่อเอาชนะกันให้ได้ สงครามต่างวัยไม่ใช่แค่ทำให้เสียเวลาทำการงาน ยังทำให้คนทำงานแตกแยกกัน เพราะต่างคนต่างทำตัวเป็นกองเชียร์ของแต่ละฝ่าย คำว่ากลุ่มอำนาจเก่า กลุ่มอำนาจใหม่ ถูกปรุงแต่งขึ้นมาเพื่อแบ่งพวก เอาชนะกันและกัน ซึ่งทำไปทำมาก็แพ้ทั้งหมด เพราะกลายเป็นที่ที่ไม่สามารถใช้ความเก่งที่มีอยู่ในคนของหน่วยงานนั้นมาใช้ประโยชน์ได้เต็มที่ ผู้ใหญ่ก็ใช้กันเองเฉพาะบริวารที่มีศรัทธาต่อผู้ใหญ่ ส่วนน้องที่ทำตัวเป็นใหญ่ ก็ใช้ได้แค่กลุ่มนักท้าทายความอาวุโสเท่านั้น ต่างกลุ่มต่างปรุงแต่งเรื่องเล็กเรื่องน้อยให้กลายเป็นเรื่องใหญ่ เพื่อหาหนทางทำให้อีกกลุ่มหนึ่งแพ้พ่ายไปให้ได้ จนไม่เหลืออะไรไปสร้างความก้าวหน้าให้กับหน่วยงานได้

ผู้บริหารด้อยอาวุโส ทำงานให้ประสบความสำเร็จร่วมกับพนักงานมากอาวุโสได้ หากยึดหลักการที่ว่าผู้บริหารที่เก่งจริงเท่านั้น ที่สามารถใช้ความเก่งของทุกคน มาสร้างความก้าวหน้าให้กับหน่วยงานได้ ถ้าเชื่อหลักการนี้แล้ว ก็ดูว่าใครคนไหนเก่งเรื่องใด เอามาใช้ในเรื่องนั้นให้ได้ อย่าดูว่าใครแก่กว่า ใครอ่อนกว่า ถูกผิด ดีไม่ดี อยู่ที่หลักการ ไม่ได้อยู่ที่ถูกและดีคือสิ่งที่ผู้บริหารเป็นคนคิด เล่ากันว่ามีอธิการบดีท่านหนึ่ง ตัดปัญหาโดยเลือกผู้บริหารร่วมทีมเฉพาะคนที่อ่อนอาวุโสกว่า ทั้งๆที่ผู้คนที่เก่งกว่าทีมที่ท่านเลือกมีมากมาย เพียงแต่แก่กว่าท่าน แปลว่าผู้บริหารคนนี้เก่งไม่พอที่จะใช้คนเก่งทุกคนที่มี ยอมสละความเก่งที่มี เพียงเพราะไม่เชื่อว่าจะทำให้คนที่แก่กว่าท่านเชื่อท่านได้ ถูกผิดกลายเป็นอยู่ที่ใครเป็นคนคิด ขอให้ระลึกไว้เสมอว่าคนเก่งจริงเท่านั้น ที่กล้าใช้คนเก่งกว่ามาทำงาน ผู้บริหารเกรดบี เลือกเฉพาะคนเกรดซีและดีมาร่วมทีมงาน

ถ้าท่านเป็นผู้บริหารด้อยอาวุโส อย่าเผลอใช้พวกมากมาสนับสนุนท่าน ในการทำงานร่วมกับผู้อาวุโส เพราะสะท้อนว่าท่านกลัวที่จะเผชิญหน้ากับความเก่งของคนอื่น โดยอ้างความอาวุโสเพื่อรักษาหน้า ถ้าเชื่อว่าคนแก่เหล่านั้นไม่ได้เก่งกว่าท่าน ท่านต้องกล้าพอจะใช้ความเก่งของท่าน เพื่อชนะความเก่งของคนอื่น โปรดระลึกไว้เสมอว่า คนเก่งไม่จริงเท่านั้น ที่ต้องเอาพรรคพวกมาช่วยตนในการแข่งขันความเก่งกับผู้อื่น นักเลงจริงต้องไม่ใช้หมาหมู่ เหตุการณ์เช่นนี้พบเห็นกันเป็นประจำจะคุยอะไรสักอย่างก็ต้องมากันเป็นพรรคพวก คุยกันเดี่ยวๆ ไม่ได้ ในคณะหนึ่งเมื่อลูกศิษย์ได้ขึ้นเป็นคณบดี จะคุยกับอาจารย์ในคณะที่เคยสอนตนเอง คณบดีต้องยกพวกมาเป็นทีม เพราะกลัวอาจารย์ท่านจะไม่เห็นด้วยกับที่ตนเองอยากทำ

ไม่ว่าบริหารคนแก่ หรือคนหนุ่มสาว ไม่ควรอย่างยิ่งที่จะยึดมั่นกับ ฉันคิดคือถูก ผิดคือคนอื่นคิด

หรือมัวแต่หลอกหลอนตนเองอยู่กับเรื่อง อำนาจเก่า อำนาจใหม่