Bitcoin ถึงจุดจบแล้ว?

Bitcoin ถึงจุดจบแล้ว?

Bitcoin Mining ที่เปิดใหม่ในช่วงสองสามปีนี้น่าจะเข้าสู่ภาวะขาดทุนกันเป็นส่วนใหญ่

นาทีที่ผมเขียนบทความนี้ ราคา Bitcoin และ Cryptocurrency อื่นๆต่างถูกเทขายอย่างหนัก โดยเฉพาะ Bitcoin ราคาได้ปรับตัวลดลงกว่าระดับ5,000 เหรียญไปเรียบร้อยแล้ว ระดับราคาดังกล่าวผมเคยเขียนถึงไปนานแล้วว่าเป็นระดับราคาที่มีนัยยะสำคัญ นอกจากในเชิงกราฟเทคนิคแล้วยังเป็นต้นทุนเฉลี่ยของสายขุด (Mining) อีกด้วย ทำให้แนวรับนี้สามารถรับแรงขายหนักๆมาได้ตลอด แต่ล่าสุดก็เอาไม่อยู่แล้ว หมายความว่า Bitcoin Mining ที่เปิดใหม่ในช่วงสองสามปีนี้น่าจะเข้าสู่ภาวะขาดทุนกันเป็นส่วนใหญ่หากไม่ได้ตั้งอยู่ในทำเลที่ต้นทุนค่าไฟฟ้าต่ำจริงๆ

ก่อนหน้านี้ ราคา Bitcoin และ Ethereum ที่ร่วงลงอย่างหนักทำให้ตลาดการลงทุน ICO เข้าสู่ภาวะหมีอย่างเต็มตัวมาก่อนแล้ว ล่าสุดได้ส่งผลกระทบต่อสายขุดเรียบร้อย คำถามต่อไปคือจะถึงจุดอวสานของ Bitcoin สิ่งที่ถูกคาดหมายว่าจะเป็นเงินตราแห่งยุคดิจิทัล รวมไปถึงคอนเซบท์ไร้ตัวกลาง (Decentralized) ที่จะมาเปลี่ยนแปลงโลก แล้วหรือไม่? 

ก่อนจะไปถึงคำตอบ ผมอยากให้ลองดู Cryptocurrency สกุลหนึ่งที่เริ่มมีมูลค่าเพิ่มขึ้นอย่างเงียบๆอย่าง Ripple (XRP) ซึ่งแซงหน้า Ethereum ขึ้นมามีมาร์เกตแคปอันดับที่สองรองจาก Bitcoin ได้และราคาในตลาดเริ่มมีเสถียรภาพมากขึ้น หลังจากปรับตัวลดลงพร้อมๆกับเหรียญอื่นๆ ซึ่งคุณสมบัติของ Ripple นั้นหลักๆถูกนำมาใช้กับภาคการเงินโดยใช้ในการโอนเงินระหว่างประเทศผ่าน Private Blockchain ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่มีตัวกลางควบคุมดูแล (โดยสถาบันการเงิน) ไม่ใช่ Decentralized และช่วงหลังมานี้เริ่มถูกนำมาพัฒนาให้ใช้งานได้จริงมากขึ้น

สิ่งที่ผมต้องการจะบอกคือ คอนเซบท์ของ Cryptocurrency และBlockchain จะมีมูลค่าในตัวขึ้นมาได้จะต้องถูกนำมาใช้งานในชีวิตจริงเท่านั้นซึ่งกำลังเกิดขึ้นกับ Ripple แม้ว่าเงินดิจิทัลสกุลนี้จะถูกค่อนขอดจากคนในวงการคริปโตบางส่วนว่าไม่ได้ใช้คอนเซบท์Decentralized อย่างแท้จริง แต่ด้วยคุณสมบัติในการโอนเงินระหว่างประเทศได้อย่างรวดเร็วและต้นทุนต่ำ เท่านี้ก็เพียงพอที่จะดึงสถาบันการเงินดั้งเดิมมาใช้งาน 

ตรงข้ามกับ Bitcoin ที่ตอนนี้ยังไม่ได้ทำผลงานในฐานะการเป็น “เงิน”ได้อย่างสมฐานะ เพราะราคาที่สวิงตัวรุนแรงในแต่ละวัน ทำให้เกิดปัญหาระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายไม่สามารถคุมความเสี่ยงของราคาได้ เช่น กำหนดราคาขายสินค้าไว้คงทีแต่ระหว่างโอนเงินโดยใช้ Bitcoin เป็นตัวกลางราคากลับเปลี่ยนแปลงรวดเร็วจนทำให้ผู้ขายขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยน 

ขณะที่อัตราแลกเปลี่ยน FX ในแต่ละวันจะเปลี่ยนแปลงไม่มากนักยกเว้นแต่มีข่าวทางเศรษฐกิจแรงๆเข้ามากระทบ แต่ Bitcoin ในหนึ่งวันราคาอาจขึ้นลงได้มากถึง 10% ทำให้ Bitcoin ไม่ถูกนำมาใช้แทนเงินอย่างแพร่หลาย บทบาทในตอนนี้จึงเป็นเพียงแค่สินค้าการเก็งกำไร ซึ่งปัจจุบันตลาดการลงทุนแบบดั้งเดิมมีทางเลือกให้เทรดมากมายอยู่แล้วยังไม่นับปัญหาการ Scam และการถูก Hack ที่เกิดขึ้นกับ Exchangeเทียบแล้วสัดส่วนการลงทุนใน Bitcoin ยังเล็กน้อยมากเมื่อเทียบกับตลาดอนุพันธ์ทั่วโลก

บทสรุปคือ Bitcoin ยังไม่ถึงจุดจบ (มุมมองส่วนตัวของผู้เขียน) แต่ต้องมีจุดยืนที่ชัดเจนได้แล้วว่าจะมีบทบาทเป็นอะไรกันแน่ระหว่างเป็นสื่อกลางแทนเงินหรือสินค้าเก็งกำไร ผมยังมองว่า Bitcoin คือทองคำในยุคดิจิทัลซึ่งยังพอมีค่าในตัวพอที่จะเป็นเงินสกุลหลักของโลกได้ ถ้าทฤษฎีสมคบคิดของผมเป็นจริง ช่วงเวลานี้คือช่วงที่ Big Player ระดับโลกกำลังทะยอยเก็บ Bitcoin อยู่ก็เป็นได้