เลือกตั้ง 2562​

เลือกตั้ง 2562​

เป็นธรรมดาของกระแสโลกที่ต้องเปลี่ยนแปลง ไม่มีสิ่งใดคงที่อยู่ได้ สรรพชีวิตล้วนแสวงหาหนทางใหม่ๆ เพื่อให้ชีวิตดีกว่าเดิม

หยุดนิ่งจะเน่าเปื่อยผุพัง ถอยหลังเท่ากับรอวันล่มสลาย ผู้นำที่ฉลาดปราดเปรื่องย่อมทำความเข้าใจกระแสความรู้สึกของผู้คนและประเมินสถานการณ์โดยรวมให้ถูกต้องตลอดเวลา ผู้ฝ่าฝืนจะตกอยู่ในอันตราย

หลังจากเสาร์วิกลคติเสริด (หยุดเพื่อเดินหน้า : Stationary-direct) 6 กันยายน 2561 ที่ 8:26 องศาธนู ทับพฤหัสเดิมในดวงเมืองสนิทพอดี เสาร์คือการเมือง พฤหัสคือกฎหมาย จุดวิกลคติของเสาร์มีผลหน้าหลัง 7 วัน วันที่ 12 กันยายน พฤหัสตุลย์เล็งลัคนาสนิทพอดี มีพระราชโองการโปรดเกล้า พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และ ส.ว. การเมืองไทยเดินหน้าอีกครั้ง

ประเทศไทยมีการเลือกตั้ง ส.ส.ครั้งสุดท้าย 3 กรกฎาคม 2554 (มีเลือกตั้งอีกครั้ง 2 กุมภาพันธ์ 2557 แต่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ) นั่นคือกว่า 7 ปีมาแล้ว ภายใต้สถานการณ์เศรษฐกิจปัจจุบันที่กลุ่มทุนใหญ่รุ่งเรืองเฟื่องฟูและสนุกกับสารพัดเมกะโปรเจคท์ของรัฐบาล แต่ภาคประชาชนและ SME กลับหมดหนทาง ฝืดเคือง และตกต่ำอย่างหนัก ความรู้สึกอึดอัดคับข้องใจของคนจำนวนมากผนึกรวมและก่อตัวเป็นกระแสที่ต้องการเลือกตั้ง เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงใหม่ขึ้นในบ้านเมือง กระแสนี้มีแนวโน้มแรงขึ้นและแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

พ.ร.ป.เลือกตั้ง ส.ส. มีผลบังคับใช้หลังประกาศในราชกิจจานุเบกษา 90 วัน นั่นคือวันที่ 11 ธันวาคม กกต.ต้องจัดเลือกตั้งภายใน 150 วัน หรือภายใน 9 พฤษภาคม 2562 จากนั้นประกาศผลภายใน 60 วัน ไทม์ไลน์การเมืองไทยเป็นดังนี้ กกต.เสนอให้วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562 เป็นวันเลือกตั้ง รัฐบาลไม่ได้เสนอเพิ่มเติมหรือทักท้วงใด มติมหาชนจึงยึดถือวันนี้เป็นหมายกำหนดการเลือกตั้งไปโดยปริยาย

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากยังไม่ได้ประกาศวันอย่างเป็นทางการ กอปรกับมีเสียงเรียกร้องจากพรรคเล็กหน้าใหม่ให้เลื่อนออกไป ทั้งยังมีคำสั่งคสช.ที่ 16/61 ที่แปลเจตนาได้หลายนัย ผู้คนจำนวนมากรู้สึกถึงความไม่แน่นอนที่เพิ่มขึ้นและกังวลว่าจะเลื่อนเลือกตั้งหรือไม่ ความคลุมเครือทางการเมืองเช่นนี้ไม่เป็นผลดีต่อฝ่ายใดเลย ยิ่งทิ้งไว้นานวันและไม่ทำให้กระจ่างชัดเจน มันจะกลายเป็นความอึมครึมสะสมและนำไปสู่ผลทางลบอันไม่พึงปรารถนาในที่สุด

ถึงนาทีนี้ การเลือกตั้ง 2562 คงเกิดแน่ เมื่อไหร่ก็แล้วแต่ผู้มีอำนาจจะตัดสินใจ เลื่อน / ไม่เลื่อนไม่ใช่วัตถุประสงค์ของบทความนี้ แต่ที่สนใจคือปรากฏการณ์ดวงดาวที่เกิดขึ้นภายในช่วงเวลาดังกล่าว

เลือกตั้ง 2562​

ช่วง 24 กุมภาพันธ์ - 9 พฤษภาคม อาจไม่แตกต่างในสายตาคนทั่วไป แต่ในมุมโหราศาสตร์ มันมีหลายเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้น วันที่ 6 – 28 มีนาคม พุธพักรจาก 5:32 องศามีน – 21:59 องศากุมภ์ พุธคือการสื่อสาร คะแนนเสียงเอาแน่เอานอนไม่ได้ พฤหัสวิกลคติพักร (หยุดเพื่อถอยหลัง : Stationary-retrograde) 10 เมษายน กระบวนการติดขัดไม่ราบรื่น มฤตยูดับ 23 เมษายนที่ 8:24 องศาเมษ ทับอาทิตย์เดิม ผู้นำรัฐบาลเผชิญเรื่องไม่คาดหมาย เสาร์วิกลคติพักร 30 เมษายน การเมืองติดขัดหรือเจอปัญหาอุปสรรค

ที่สำคัญสุดคือราหูยกเข้าเมถุน 23 มีนาคม เล็งเสาร์พลูโตจรในธนูและกระทบกับ Grand Cross ของดาวทั้ง 7 ในทวิสภาวะราศีของดวงเมือง อันได้แก่พุธ-พฤหัส-ศุกร์-เสาร์-ราหู-มฤตยู-เนปจูน การเลือกตั้งก่อนหรือหลังวันนี้ จะให้ผลที่แตกต่างกันอย่างใหญ่หลวง

ราหูคือจุดตัด (Node) ของวิถีโคจรของอาทิตย์และจันทร์ มันมีนัยถึงความมืด ความไม่รู้ อวิชชา ความชั่ว บาปกรรม สิ่งเลวร้ายทั้งหลาย ฯลฯ ราหูเดิมในดวงเมืองอยู่มีน-ภพ 12 (วินาศ) หลายคนว่าราหูจะหมดฤทธิ์เพราะตกภพเสียที่ให้โทษ ความจริงแล้ว ราหูไม่เคยหมดฤทธิ์ ภพ 12 คือการปกปิดซ่อนเร้น ราหูให้โทษแบบลับๆ บ่อนทำลายอยู่เบื้องลึกและเบื้องหลัง ค่อยๆ กัดเซาะบ้านเมืองให้ผุกร่อนทรุดโทรม ความหมายที่ชัดเจนของราหูวินาศคือการทุจริตคอร์รัปชั่นที่มากมายมหาศาลตั้งแต่อดีตจนปัจจุบัน

บาปเคราะห์ใหญ่ในโหราศาสตร์คือเสาร์ราหู เมื่อทั้งคู่จรมาเล็งกัน ย่อมมีโอกาสให้โทษมาก เมื่อรวมกับพลูโตด้วย ผลของมันยิ่งรุนแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากตำแหน่งของทั้ง 3 ทำมุมร้ายถึงจุดหรือดาวสำคัญในพื้นดวงของใคร ย่อมถือเป็นช่วงเวลา ดวงตกอย่างยิ่ง กระทำการใดก็เผชิญปัญหาอุปสรรคใหญ่หลวง ยากนักที่จะประสบความสำเร็จใด ๆ ยิ่งเป็นกิจการงานใหญ่ ยิ่งมีโอกาสผิดพลาดล้มเหลวมาก

การเลือกตั้งครั้งนี้สำคัญ เพราะมันตัดสินว่าบ้านเมืองจะมีการเปลี่ยนใหญ่หรือไม่ พรรคการเมืองที่เป็นตัวแปรสำคัญคือ พลังประชารัฐ พรรคนี้ถือกำเนิด 4 ตุลาคม 2561 เวลา 13:18 น. ลัคนาอยู่ที่ 26:28 องศาธนู พลูโตกุมลัคน์สนิทพอดี พลูโตคืออำนาจ เกิดขึ้นเพราะอำนาจและอยู่เพื่ออำนาจ (อ่าน “พลังประชารัฐ” http://www.bangkokbiznews.com/blog/detail/645866) แต่อำนาจของพลูโตเป็นทั้งคุณและโทษในตัวเอง หากนำไปใช้เพื่อประโยชน์ส่วนตัว พลังดาวจะย้อนกลับมาทำลายตัวผู้ใช้ในที่สุด

พลังประชารัฐคือพรรคที่ได้รับผลกระทบหนักจากราหูเมถุน ราหูโคจรย้อนจักร จึงเข้าทางปลายราศี หมายความว่าเข้าแล้วจะเล็งลัคน์พลูโตทันทีและส่งผลร้ายทันที ไม่มีเวลาผ่อนผันเตรียมตัว ราหูเดิมเป็นมรณะลัคน์ ราหู 180 พลูโตจรสนิท 2 เมษายน ราหู 180 เสาร์จรและลัคน์พลูโตเดิมสนิท 28 เมษายน อีก 2 วันต่อมา เสาร์วิกลคติพักรที่ 26:24 องศาธนู ทับลัคน์พลูโตเดิมและ 90 พุธดาวเจ้าเรือนภพ 10 (เกียรติยศชื่อเสียง ความสำเร็จจากสาธารณชน) สนิทพอดี รูปดาวอย่างนี้ถ้าเป็นดวงคน อาจต้องจองเตียงโรงพยาบาลล่วงหน้า อย่าไปคิดเรื่องความสำเร็จใด ๆ เลย

พฤหัสดาวเจ้าเรือนลัคน์จรพิจิก-ภพวินาศ ไม่อาจให้คุณ เดือนมีนาคม พุธดาวหน้าที่การงานก็ถอยหลัง ต้นเมษายน พฤหัสถอยหลังซ้ำอีก ต้นพฤษภาคม มฤตยูเมษ 90 จันทร์ราหูเดิมสนิทในกรกฎ-ภพมรณะ จันทร์ (ประชาชน) คือจุดอ่อนที่สุดในดวง อาการน่าเป็นห่วง

หลังจาก 23 มีนาคม 2562 ราหูจะพลิกผันการเมืองไทย