ธุรกิจ e-Commerce คุณก็ทำได้

ธุรกิจ e-Commerce คุณก็ทำได้

ธุรกิจ e-Commerce ของประเทศไทยที่มีมูลค่าสูงเกือบ 3 ล้านล้านบาท และคาดว่าจะเติบโตอย่างรวดเร็ว

ที่ผมได้นำเสนอผ่านคอลัมน์ SME Keep up ในหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันที่ 4 พ.ย.ที่ผ่านมา ได้จุดประกายความหวังให้กับท่านผู้ประกอบการเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะลูกค้า SMEs ที่ผมเคยดูแลสมัยที่ยังทำงานที่ธนาคารกรุงไทย ได้สอบถามข้อมูลการเริ่มต้นทำธุรกิจ E-commerce

ว่าทำอย่างไร ผมจึงขอนำเสนอรายละเอียดเบื้องต้นและกรณีศึกษาที่น่าสนใจเพื่อเป็นข้อมูลในการเริ่มต้นลงมือทำที่ผมได้ทิ้งท้ายไว้ขอให้เริ่มวันนี้เลยครับ

การทำธุรกิจ e-Commerce คือการขายของบนเว็บไซต์โดยผ่านเครื่อข่าย Internet บนเว็บไซต์ของเราเอง หรือนำรูปสินค้าขายผ่านเว็บไซต์ที่ฟรี เช่น Facebook รูปแบบธุรกิจ E-commerce ที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายคือ เว็บไซต์ขายสินค้า โดยการนำสินค้าแสดงให้ลูกค้าเห็น มีไอเดียการนำเสนอสินค้าที่น่าสนใจ เว็บไซด์มีความสวยงาม ใช้งานง่าย เปิดให้บริการตลอดเวลา อาจเพิ่มเติมเนื้อหาเพื่อให้ความรู้กับผู้เข้ามาอ่าน Facebook เป็นเครื่องมือการตลาด E-commerceที่ดีที่สุด ธุรกิจขนาดเล็กสามารถสร้าง Facebook page โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย สามารถลงโฆษณากับ Facebook ที่จะช่วยเพิ่มยอดคนเข้าถึง Page หรือ Website ด้วยค่าใช้จ่ายที่ไม่แพง การเริ่มลงมือทำธุรกิจ e-Commerce อย่างถูกต้อง จะทำให้ร้านค้าออนไลน์เติบโตขึ้นเรื่อย ๆ สร้างอนาคตได้อย่างมั่นคงในระยะยาว

ข้อควรปฏิบัติเมื่อเริ่มต้นทำธุรกิจ e-Commerce คือ ธุรกิจหรือแบรนด์ต้องรียกง่าย จำง่าย ต้องสื่อถึงสินค้าที่จะขาย ชื่อโดเมนต้องสั้น สื่อถึงภาพลักษณ์ของแบรนด์ต้องกำหนดรูปแบบโครงสร้างและโมเดลธุรกิจให้ชัดเจน มีการวางแผนการตลาดให้รัดกุม ต้องสร้างเครือข่ายสังคมออนไลน์ Software ที่เลือกใช้ต้องรองรับการเติบโตของธุรกิจในอนาคต มีระบบ Logistic ที่ดี ต้องสร้างมาตรฐานที่ลูกค้าไว้วางใจ

ธุรกิจ E-commerce เป็นการลงทุนที่ใช้ต้นทุนน้อย มีค่าใช้จ่ายจากค่าบริการ Internet ค่าทำเว็บไซด์ ค่าใช้จ่ายในการโปรโมท ปัจจุบันมีการเปิดรับสมัครตัวแทนขายแบบไม่ต้องสต็อกสินค้า (Dropship) ไม่ต้องใช้เงินลงทุนในการสต็อกสินค้าเป็นการประหยัดค่าใช้จ่าย

ปัจจุบันผู้คนทั่วโลกรวมทั้งประเทศไทยใช้มือถือในการเข้าถึงข้อมูลต่าง ๆ การสร้างธุรกิจ e-Commerce รองรับการใช้งานบนจอมือถือ จึงเป็นโอกาสให้ผู้ประกอบการที่จับกลุ่มลูกค้าของตัวเอง

สร้างพื้นที่ของตัวเองบนโลก เสมือนการเปิดร้านค้าของตัวเองขายของได้ 7 วัน 24 ชั่วโมง

สำหรับท่านผู้ประกอบการที่ต้องการความรู้เพิ่มเติมในการทำธุรกิจ e-Commerce ให้ประสบความสำเร็จ ปัจจุบันมีองค์การทั้งภาครัฐและเอกชนได้จัดฝึกอบรมสัมมนาให้ความรู้อย่างแพร่หลาย หรืออาจติดต่อหาบริษัทที่เชี่ยวชาญเพื่อขอใช้บริการอาทิเช่น บริษัท 1Belief ที่มีชื่อเสียงในการให้บริการด้านนี้

การศึกษาเพื่อพัฒนาตนเองเป็นเรื่องที่จำเป็นสำหรับท่านผู้ประกอบการยุคใหม่ มีหนังสือที่ผมแนะนำให้อ่าน เขียนโดย Tim Ferris ที่ขายดีอันดับต้น ๆ ของโลกชื่อว่า The 4 Hour Work Week มีเล่มแปลไทยชื่อ สาบายดี แต่รวยได้ ความหนา 400 หน้า เป็นสุดยอด 1 ใน 100 สุดยอดหนังสือธุรกิจ e-Commerce ที่

CEO ทั่วโลกแนะนำ อ่านจบแล้วจะพบกับข้อมูลที่ช่วยให้การเริ่มทำธุรกิจ e-Commerce ไม่ใช่เรื่องที่ยากสามารถสร้างรายได้อย่างสม่ำเสมอ มีเวลาในการใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัว ท่องเที่ยวรอบโลก

มีผู้ประกอบการจำนวนมากที่ประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจ e-Commerce ทั้งต่างประเทศและในประเทศไทย ปัจจัยแห่งความสำเร็จ เป็นเรื่องที่น่าสนใจมาก 

ผมจึงขอนำเสนอกรณีศึกษาที่สามารสร้างแรงบันดาลใจให้ท่านผู้ประกอบการได้ศึกษาเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงในตอนต่อไปครับ...