“อเมริกามาก่อน?” เมื่ออเมริกา ไม่ใช่ตลาดแรกของธุรกิจสหรัฐ

“อเมริกามาก่อน?” เมื่ออเมริกา ไม่ใช่ตลาดแรกของธุรกิจสหรัฐ

“America First” หรือ “อเมริกามาก่อน” เป็นนโยบายหาเสียงเลือกตั้งของ ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ 

เมื่อสองปีก่อน ที่จวบจนกระทั่งถึงปัจจุบัน ได้อุบัติมาเป็นสงครามทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน โดยอาจมีประเทศอื่นๆ ที่ต้องตกเป็นเป้าหมายของทรัมป์ต่อไป

การที่อเมริกามาก่อน มิใช่เป็นเพียงแค่ปรัชญาทางการเมือง แต่กลับเป็นแนวปฏิบัติของภาคธุรกิจในสหรัฐมาเป็นศตวรรษแล้ว ที่การพัฒนาสินค้าและบริการจะมุ่งเน้นตลาดในประเทศ ก่อนที่จะขยายผลสู่ตลาดอื่นๆ ทั่วโลกต่อไป

ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะช่วงศตวรรษที่ผ่านมา หรือในความทรงจำของคนส่วนใหญ่ที่มีชีวิตอยู่ในยุคปัจจุบัน สหรัฐเป็นเศรษฐกิจที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับหนึ่งของโลก และในระยะหลังนี้ มีสัดส่วนเป็น 20 % ของเศรษฐกิจโลก

การที่ธุรกิจในสหรัฐพัฒนาสินค้าและบริการให้กับตลาดในประเทศก่อน จะมีโอกาสเข้าถึง 20 % ของมูลค่าเศรษฐกิจโลก ซึ่งเป็นตัวเลขที่ไม่ใช่น้อย

จะเห็นได้ว่า ไม่ว่าจะเป็น แอปเปิล ที่เปิดตัว ไอโฟน, เฟสบุ๊ค กูเกิล ที่เปิดตัวบริการต่างๆ, หรือกระทั่งภาพยนตร์ฮอลลีวู้ด ล้วนเปิดตัวในอเมริกา และมุ่งเน้นตลาด อเมริกา ก่อนที่จะขยายผลสู่ตลาดอื่นๆ

อย่างไรก็ตาม แนวปฏิบัติดังกล่าว กำลังเริ่มที่จะเปลี่ยนแปลงไป เมื่อสหรัฐกำลังจะไม่ใช่เศรษฐกิจหลักของโลกแต่เพียงประเทศเดียวอีกต่อไป และ “จีน” มีการเติบโตของเศรษฐกิจที่กำลังจะไล่ทันสหรัฐ และในบางภาคธุรกิจ ยังมีขนาดของตลาดที่ใหญ่กว่าสหรัฐเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

สัปดาห์ที่ผ่านมา บลิซซาร์ดเอ็นเตอร์เทนเมนต์ ธุรกิจเกมส์ของสหรัฐ ผู้ซึ่งให้บริการ เวิลด์ ออฟวอร์คราฟต์ เกมส์ออนไลน์ที่สร้างรายได้เป็นอันดับหนึ่งของสหรัฐ ได้ประกาศเกมส์ เดียโบล อิมมอร์ทัล เกมส์แรกของบลิซซาร์ดที่มุ่งเน้นตลาดสมาร์ตโฟน โดยจะไม่มีเวอร์ชั่นสำหรับบนคอมพิวเตอร์หรือแพลตฟอร์มอื่นๆ

ที่สำคัญ เดียโบล อิมมอร์ทัล ยังเป็นการพัฒนาร่วมกับ เน็ตอีส ผู้ผลิตและผู้ให้บริการเกมส​์ยักษ์ใหญ่จากประเทศจีน

เป็นครั้งแรก ที่บลิซซาร์ด ร่วมพัฒนาเกมส์กับบริษัทอื่น เพราะที่ผ่านมา เกมส์ของบลิซซาร์ดเป็นการพัฒนาอย่างอินเฮาส์ และเป็นที่ยอมรับในคุณภาพที่เป็นอันดับหนึ่งของวงการ

การประกาศ เดียโบล อิมมอร์ทัล เป็นครั้งแรก ที่บลิซซาร์ดเอ็นเตอร์เทนเมนต์ ต้องถูกโห่บนเวทีของ บลิซซ์คอน ที่ผู้ชมส่วนใหญ่เป็นชาวอเมริกันที่เสียเงินเข้าไปร่วมงาน และที่บลิซซาร์ดได้จัดมาทุกปี จนเป็นเวลากว่าทศวรรษแล้ว

หลังจากนั้น บลิซซาร์ดก็ยังได้ถูกถล่มในโลกโซเชียล อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน สำหรับบริษัทที่มีชื่อเสียงแห่งนี้

ชาวอเมริกันเป็นจำนวนมาก ที่เป็นแฟนพันธุ์แท้ของบลิซซาร์ดมาเกือบสองทศวรรษแล้ว รู้สึกว่าตัวเองกำลังถูกหักหลัง และเชื่อมั่นว่า เดียโบล อิมมอร์ทัล เป็นก้าวแรกของบริษัทที่ตัวเองรัก ที่จะผันเข้าสู่ยุคของ “จีนมาก่อน”

เพราะไม่ว่าจะเป็นการมุ่งเน้นตลาดสมาร์ตโฟนแต่เพียงอย่างเดียว และการร่วมพัฒนากับเน็ตอีส ล้วนส่งสัญญานแห่งความรู้สึกที่ว่าบลิซซาร์ด อาจให้ความสำคัญกับตลาดจีน (และอาจรวมไปถึงตลาดอื่นๆ ในเอเซีย) ก่อนตลาดของอเมริกา สำหรับ เดียโบล อิมมอร์ทัล

นี่ไม่ใช่ครั้งแรก ที่เกมส์ของบลิซซาร์ด จะให้บริการในตลาดจีน เพราะที่ผ่านมา เกือบทุกเกมส์ของบลิซซาร์ด ล้วนให้บริการในประเทศจีน แต่นี่อาจเป็นครั้งแรก ที่ตลาดจีน อาจมีความสำคัญมากกว่าตลาดอเมริกา

ทำให้ต้องนึกถึงภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์เรื่อง วอร์คราฟต์ จากเมื่อสองปีก่อน ที่ลงทุนโดยบลิซซาร์ดเช่นกัน ซึ่งแม้จะมุ่งเน้นอเมริกาเป็นตลาดแรก แต่กลับได้รายได้เพียง 47 ล้านดอลลาร์ ในขณะที่ได้รายได้ถึง 214 ล้านดอลลาร์จากประเทศจีน

เรียกได้ว่า ภาพยนตร์วอร์คราฟต์ เป็นครั้งแรก ที่วงการภาพยนตร์ในสหรัฐ (ฮอลลีวูด) เริ่มพูดคุยถึงแนวปฏิบัติใหม่ ที่มุ่งเน้นตลาดจีน (และตลาดอื่นๆ ในเอเซีย) เป็นตลาดแรก แทนที่ อเมริกาจะต้องมาก่อน อีกต่อไป เรื่องราวดังกล่าว เป็นสิ่งที่จะต้องเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในหลากหลายอุตสาหกรรมต่อไป เมื่ออเมริกาเริ่มสูญเสียความเป็นจุดศูนย์กลางของระบบเศรษฐกิจโลก

แม้จะเป็นครั้งแรกสำหรับคนส่วนใหญ่ที่มีชีวิตอยู่ในยุคปัจจุบัน ที่จะไม่มีความทรงจำที่ว่า สหรัฐเพิ่งจะได้เป็นเศรษฐกิจอันดับหนึ่งของโลกไม่ถึงสองศตรวรรษที่ผ่านมา ในขณะที่จีน (และประเทศอื่นในเอเซีย เช่น อินเดีย) ได้เคยครองความเป็นอันดับหนึ่งมาเป็นเวลาหลายศตรวรรษหรือกระทั่งสหัสวรรษ ก่อนหน้านี้

จึงเป็นอานิสงส์สำหรับผู้บริโภคในประเทศจีน (และตลาดอื่นๆ ในเอเซีย) ที่จะถูกยกระดับความสำคัญโดยธุรกิจของสหรัฐ