ธรรม .. สิ่งที่มนุษยชาติต้องเข้าใจ... !!

ธรรม .. สิ่งที่มนุษยชาติต้องเข้าใจ... !!

เจริญพรสาธุชนผู้มีศรัทธาในพระพุทธศาสนา เมื่อ ๑๘ ตุลาคมที่ผ่านมา ได้รับนิมนต์ไปบรรยายธรรมให้ ผู้ช่วยผู้พิพากษา รุ่น ๗๐ จำนวน ๑๐๓ คน ได้รับฟัง

ที่จัดขึ้นโดย สถาบันพัฒนาข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม โดยได้แจกแจงให้ได้เห็นความเป็นจริงในเรื่องกฎหมายว่า แท้จริงของการออกแบบกฎหมายเพื่อมุ่งเสริมสร้างสันติสุข สันติธรรมให้กับบุคคล สังคม และประเทศชาติ

กฎหมาย จึงต้องมีเจตนารมณ์ที่ถูกต้องตรงตามหลักธรรม (สัจธรรม) เพื่อประโยชน์และความเหมาะควรแก่ผู้ถือปฏิบัติที่จะได้บรรลุถึงผลแห่งธรรม ซึ่งแม้ว่ากฎหมายจะเป็นกฎสมมติของมนุษย์ที่สร้างขึ้น แต่การออกแบบกฎหมายนั้นจะต้องสอดรับกับกฎสังคม และกฎศาสนา ที่ถูกต้องตรงตามธรรม จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่นักกฎหมายในทุกฐานะหน้าที่ ที่รับผิดชอบในกระบวนการยุติธรรม จักต้องมีความศรัทธาในธรรม ไม่ว่าคนเหล่านั้นจะนับถือศาสนาใดๆ ก็ตาม เพราะเชื่อมั่นว่า ทุกศาสนาย่อมมีคำสั่งสอนที่มุ่งสู่ธงธรรม ในความหมายของสันติและความสุข ซึ่งเป็นเรื่องที่มวลมนุษยชาติเรียกร้อง เรียกหา แต่จะปรากฏเกิดขึ้นนั้นเมื่อมีการถือปฏิบัติถูกต้องตรงตามธรรม ดังที่พระพุทธศาสนาของเราได้แสดงไว้ ๒ ระดับ ทั้งในโลกียธรรมและโลกุตรธรรมอย่างละเอียด พร้อมหลักปฏิบัติ เพื่อการบรรลุถึงธรรมทั้งสองระดับนั้น

แต่การที่จะเข้าถึงหลักธรรมทั้งสองได้นั้น จะต้องดำเนินไปอย่างมีระเบียบแบบแผน เพื่อการพัฒนาการของทุกชีวิตในสังคมให้ดำเนินไปอย่างมีทิศทาง เรียบร้อย สวยงาม มีความรักสามัคคีกันในหมู่คณะ สังคมประเทศนั้นๆ ที่จะสานสัมพันธ์กันจนเป็นความรักสามัคคีของประชาคมโลก ดังที่พระพุทธองค์ทรงออกแบบความเป็นสังคมเอกภาพ หรือ สังคมเอกียภาพแห่งธรรม ในพระพุทธศาสนา ด้วยการประทานพระโอวาทปาติโมกข์แก่คณะสงฆ์ เพื่อความมั่นคงเข้มแข็งอย่างยั่งยืน อันเป็นไปเพื่อประโยชน์และความสุข เรียบร้อยดีงามของสังฆมณฑล

พระโอวาทปาติโมกข์ จึงมีความสำคัญที่สุดต่องานการสืบทอดพระพุทธศาสนาอย่างยั่งยืน ดังที่มีการจัดวาง หลักการ อุดมการณ์ และข้อปฏิบัติ ไว้อย่างมีระเบียบแบบแผน และมีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันในพระโอวาทปาติโมกข์ ที่เปรียบเสมือน ธรรมนูญแม่บทของพระธรรมวินัยในพระพุทธศาสนา เพื่อรองรับการศึกษาปฏิบัติให้มุ่งตรงสู่ธรรม.. และรองรับการดำเนินชีวิตเพื่อรู้ธรรม เป็นธรรม มีธรรม 2

และสู่การสร้างธรรม เพื่อสังคมสันติสุข ดังที่ในพุทธศาสนาวางสันติสุขไว้ที่บรมสุข คือ พระนิพพาน ซึ่งหมายถึง การดับทุกข์อย่างสิ้นเชิง

เมื่อกฎหมาย ระเบียบแบบแผน หรือพระวินัย เป็นส่วนหนึ่งของธรรม .. จึงดำเนินไปภายใต้บริบทของกฎธรรมชาติ ที่แสดงความจริงแท้อันไม่ผันแปร โดยพระพุทธองค์ทรงสรุปรวมลงที่อริยสัจธรรม กฎหมายทางโลกและทางธรรม จึงดำเนินไปบนเส้นทางอันเดียวกัน เพื่อมุ่งสู่ธงธรรม จึงเป็นเรื่องที่จำเป็นอย่างยิ่ง ที่ทุกคนจะต้องถือปฏิบัติตามกฎหมายที่เป็นนิติธรรม และพระวินัยที่เป็นธรรมวินัย จึงจะบรรลุถึงประโยชน์ที่เป็นธรรม อันเป็นไปตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย และหรือพระวินัยนั้น

ดังนั้น ปัญหาปัจจุบันในสังคมมนุษยชาติ ไม่ว่าศาสนจักร หรืออาณาจักร จึงขึ้นอยู่กับเราท่านทั้งหลาย โดยเฉพาะผู้มีหน้าที่ตามกฎหมายหรือตามพระวินัย ที่จะต้องเรียนรู้เข้าใจในธรรม เพื่อสร้างความเป็นธรรมให้เกิดขึ้นในสังคม ได้อย่างเสมอภาคและยุติธรรม โดยเฉพาะหน้าที่ของตุลาการ หรือท่านผู้ใช้กฎหมายทั้งหลาย ที่จะต้องใช้อำนาจให้เป็นธรรม อย่าได้ใช้ธรรมให้เป็นอำนาจ เพื่อตอบสนองตัณหาของตนเอง ... มิฉะนั้น สังคม ประเทศชาติ จะเข้าถึงจุดล่มสลายได้อย่างแท้จริง

เจริญพร