บาทแข็ง บาทอ่อน ก็จัดการได้ด้วย USD Futures

บาทแข็ง บาทอ่อน ก็จัดการได้ด้วย USD Futures

ในโลกปัจจุบัน การค้าระหว่างประเทศมีความเชื่อมโยงกันอย่างมากด้วยพัฒนาการของระบบ logistic เทคโนโลยี และการเชื่อมโยงของระบบการเงิน

ทั้งนี้ การค้าระหว่างประเทศนั้นมีความสำคัญอย่างมากโดยเฉพาะในกลุ่มประเทศผู้ส่งออก นอกจากนั้น การดำเนินนโยบายทางการค้าของประเทศที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่ เช่น สหรัฐอเมริกา จีน หรือกลุ่มสหภาพยุโรป จะส่งผลกระทบต่อประเทศทั่วโลก ดังเช่นกรณีสงครามการค้าและการกำหนดกำแพงภาษีสินค้านำเข้าระหว่างประเทศสหรัฐอเมริกาและจีน ที่ส่งให้เกิดความผันผวนของค่าเงินสหรัฐฯ และส่งผลกระทบต่อเนื่องไปในหลายภูมิภาค

สำหรับประเทศไทยนั้น ภาคการส่งออกนับว่าเป็นจักรกลสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศ รวมทั้งยังมีการลงทุนจากต่างประเทศทั้งในการลงทุนโดยตรงและการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ การไหลของเงินจากการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศนี้ ก็มีผลกระทบต่อค่าเงินเงินด้วยเช่นกัน ดังจะเห็นได้จากการเคลื่อนไหวของอัตราแลกเปลี่ยนในปี 2018 ที่มีความผันผวนค่อนข้างมาก

โดยในช่วงต้นปีนั้น อัตราแลกเปลี่ยนเงินสกุลบาทอยู่ในระดับใกล้เคียง 31 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ก่อนจะปรับตัวอ่อนค่าลงต่อเนื่องจนไปถึงระดับประมาณ 33.50 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ในช่วงไตรมาสที่ 3 ก่อนจะปรับตัวแข็งค่าขึ้นในช่วงสิ้นไตรมาส ซึ่งความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนนี้ นับเป็นความเสี่ยงของผู้ประกอบธุรกิจนำเข้าส่งออกที่ส่งผลต่อต้นทุนและกำไรในการดำเนินธุรกิจ นอกจากนี้ ผู้ลงทุนในสินค้าโภคภัณฑ์โลก เช่น ทองคำ น้ำมัน หรือ ลงทุนในสินทรัพย์ต่างประเทศ ต่างก็ได้รับผลกระทบจากความผันผวนดังกล่าวด้วย

ในการดำเนินธุรกิจ ความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนนับเป็นหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ต้องบริหารจัดการสำหรับในไทยนั้น ผู้ลงทุนและผู้ประกอบการส่วนใหญ่อาจจะมีความคุ้นชินกับการทำสัญญา Forward กับธนาคารพาณิชย์ ซึ่งมีความยืดหยุ่นในการกำหนดขนาดสัญญาและเงื่อนไขได้ตามความต้องการ แต่ผู้ใช้งานต้องผ่านการพิจารณาความเสี่ยงด้าน Credit และได้รับอนุมัติวงเงินจากธนาคารพาณิชย์

อย่างไรก็ตาม ผู้ลงทุนทั่วไปที่ต้องการบริการความเสี่ยงจากการลงทุนในสินทรัพย์ต่างประเทศหรือผู้ประกอบการขนาดเล็กอาจมีข้อจำกัดในการใช้งานสัญญา forward เช่น การทำสัญญา Forward แต่ละครั้งมักจะต้องทำในขนาดที่ค่อนข้างสูง อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบัน TFEX ได้เปิดซื้อขาย USD Futures ซึ่งเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่สามารถใช้ในการบริหารความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

USD Futures เป็นสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับอัตราแลกเปลี่ยนในหน่วยบาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ที่สามารถใช้เพื่อบริหารความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ตัวอย่างเช่น ผู้ประกอบการนำเข้าที่ต้องการบริหารความเสี่ยงจากการอ่อนตัวของค่าเงินบาทอันจะส่งผลให้ต้นทุนในการดำเนินธุรกิจสูงขึ้น จะสามารถทำได้โดยการ Long USD Futures ซึ่งจะให้ผลกำไรในกรณีที่เงินบาทอ่อนค่าสามารถนำมาชดเชยต้นทุนที่สูงขึ้นได้

และในทางกลับกันสำหรับผู้ประกอบการส่งออกที่กังวลว่าค่าเงินบาทจะแข็งค่าขึ้นและจะได้รับรายได้ในสกุลเงินบาทลดลง ก็สามารถบริหารความเสี่ยงได้โดยการ Short USD Futures ที่จะให้ผลกำไรในกรณีที่ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นและสามารถชดเชยรายได้ในสกุลเงินบาทที่ลดลงได้

ทั้งนี้ การซื้อขาย USD Futures ใน TFEX เปิดโอกาสให้ผู้ลงทุนและผู้ประกอบการขนาดเล็กสามารถเข้าถึงได้โดยสะดวก สามารถซื้อขายได้ด้วยบัญชี TFEX และมีการวางเงินหลักประกันเหมือนสินค้าอื่นๆ (ประมาณ 5-10% ของขนาดสัญญา) โดยกำหนดขนาดสัญญาไว้ที่ 1,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อสัญญา และอนุญาตให้ผู้ลงทุนแต่ละรายสามารถถือครอง USD Futures ได้สูงสุด 10,000 สัญญาหรือเทียบเท่ากับ 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทำให้มีความคล่องตัวและครอบคลุมกับขนาดการใช้งานของผู้ลงทุนและผู้ประกอบการแต่ละกลุ่ม

นอกจากนี้ USD Futures ยังนับว่าเป็นเครื่องมือบริหารความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพ ดังจะเห็นได้จากการเคลื่อนไหวของราคา USD Futures ที่สอดคล้องกับอัตราแลกเปลี่ยนอ้างอิง (Correlation สูงกว่า 99%) และจะมีราคาใกล้เคียงกับอัตราแลกเปลี่ยนอ้างอิงมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเข้าใกล้วันหมดอายุสัญญา โดยในวันซื้อขายวันสุดท้ายนั้น USD Futures จะมีราคาเท่ากับอัตราแลกเปลี่ยนอ้างอิง (Price Convergence)

แม้ว่ารูปแบบสัญญา USD Futures จะเป็นการชำระราคาด้วยเงินสด (Cash Settlement) แต่ในปัจจุบัน TFEX ได้ร่วมมือกับธนาคารกรุงไทย เปิดบริการแลกรับเงินจริงให้แก่ผู้ลงทุนเมื่อหมดอายุสัญญา โดยใช้อัตราแลกเปลี่ยนที่อ้างอิงจากราคาที่ใช้ชำระราคาของ TFEX ซึ่งช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถใช้ USD Futures เป็นเครื่องมือในการประกอบธุรกิจของตนเองได้ โดย TFEX อยู่ระหว่างการพัฒนาบริการใหม่ที่จะเปิดโอกาสให้ผู้ลงทุนแลกรับเงินจริงได้ทุกวัน เพื่อที่จะช่วยเพิ่มความคล่องตัวให้ผู้ประกอบการในการใช้ USD Futures ได้ตรงตามความต้องการทางธุรกิจได้ดียิ่งขึ้นในอนาคต