Silicon Valley หุบเขามนุษย์ทองคำ

Silicon Valley หุบเขามนุษย์ทองคำ

ผมมีโอกาสเดินทางไป San Francisco หลายครั้ง ส่วนใหญ่จะใช้เวลาอยู่ที่ Union Square ท่าเรือ Fisherman 's Wharf

ชมความมหัศจรรย์ของ Golden Gate Bridge ไกลหน่อยก็ออกไปชิมไวน์ที่ Robert Mondavi Winery ที่ Napa Valley 

เมื่อต้นเดือนกันยายน ที่ผ่านมามีโอกาสไปเยือน San Francisco อีกครั้ง คราวนี้ความฝันของผมเป็นจริงเมื่อมีโอกาสได้เดินทางไป Silicon Valley หัวใจด้านไอทีและนวัติกรรมของโลกที่เป็นแหล่งสร้างงานและรายได้ที่สำคัญต่อเศรษฐกิจสหรัฐ และเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้สหรัฐอเมริกาเป็นมหาอำนาจของโลก Silicon Valley อยู่ห่างจาก ตัวเมือง San Francisco ประมาณ 65 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางเพียง 1 ชั่วโมง

Silicon Valley ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของ San Francisco Bay Area คำว่า Silicon มาจากการที่เคยเป็นแหล่งบุกเบิกพัฒนา Silicon Ship ซึ่งเป็นชิ้นส่วนสำคัญเพื่อใช้เก็บข้อมูลความจำในระบบคอมพิวเตอร์ Valley มาจากหุบเขา Santa Clara Valley ใกล้เมือง San Jose มีจุดเริ่มต้นจากการเป็นแหล่งพัฒนาโทรเลข วิทยุ เทคโนโลยี่เชิงพาณิชย์และการทหาร โดยโทรเลขไร้สายจากท่าเรือสู่ชายฝั่ง ที่ถูกส่งครั้งแรก จากเรือรบอเมริกันที่จอดทอดสมอในอ่าว San Francisco เพื่อแจ้งการกลับคืนสู่มาตุภูมิ หลังจากประสบชัยชนะที่ฟิลิปปินส์ในช่วงสงครามสเปน-สหรัฐอเมริกา เมื่อปี พ.ศ.2441

นาย Frederick Terman อดีตคณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ Stanford University ช่วงทศวรรษ 1940-1950 มีบทบาทสำคัญที่สนับสนุนให้นักศึกษาและผู้สำเร็จการศึกษาจากคณะ เริ่มต้นตั้งบริษัทใน Silicon Valley บริษัทที่มีชื่อเสียง เช่น Hewlett-Packard ,Variant Associates และบริษัทชั้นนำอื่นด้านไอที จนได้รับการยกย่องให้เป็นบิดาของ Silicon Valley ปัจจุบันมีบริษัทชั้นนำทางด้านไอทีมีสำนักงานใหญ่หรือสำนักงานที่ Silicon Valley หลายร้อยบริษัท เช่น Adobe System,Apple Inc.,Cisco Systems,Facebook,Intel,SanDisk,Oracle Corporation,Yahoo เป็นต้น

ความสำเร็จของ Silicon Valley มีองค์ประกอบที่สำคัญคือสถาบันการศึกษาที่สำคัญในบริเวณนั้น ได้แก่ Stanford University , University of California-Berkeley,University of

California-Santa Cruz ผู้ที่ศึกษาและจบด้านวิศวกรรมศาสตร์และวิทยาศาสตร์ล้วนแต่ใฝ่ฝันที่จะเป็นส่วนหนึ่งของบริษัทที่ตั้งอยู่ใน Silicon Valley เนื่องจากเป็นบริษัทที่มีชื่อเสียง มีความ

มั่นคง รายได้และสวัสดิการดี บริษัทพร้อมจะทุ่มเต็มที่ให้กับคนที่มีความรู้ความสามารถ ถ้าทำงานดี ก็อาจได้สิทธิในการซื้อหุ้นและรับเงินปันผลรายปี ซึ่งเป็นแรงจูงใจให้พนักงานพร้อมที่จะทำงาน

ให้กับบริษัทอย่างเต็มที่ นอกจากนี้ยังมีสวัสดิการพิเศษ เช่นวันหยุดพิเศษเมื่อทำงานครบ 5 ปีให้พักร้อนฟรี 1 เดือน มีกิจกรรมพิเศษเพื่อกระชับความสัมพันธ์

Silicon Valley เป็นพื้นที่ซึ่งมีพหุวัฒนธรรมสูง มีคนต่างชาติทำงานอยู่เป็นจำนวนมากในส่วนของเอเชียมีทั้งจีน ไต้หวัน ญี่ปุ่นและอินเดีย บริษัทที่ Silicon Valley ให้ความสำคัญกับคนเป็นอย่างมาก ชุดความคิดที่ก้าวหน้าหรือ mindset เป็นสิ่งที่สำคัญมาก พนักงานทุกคนต้องมี mindset ที่ดีเพื่อสร้าง maximize efficiency โครงสร้างลักษณะพื้นฐานของเมืองช่วยให้พนักงานไม่เครียดในการทำงาน เนื่องจากไม่ได้อยู่ในเมืองใหญ่ทำให้ไม่มีปัญหาในเรื่องการเดินทางหรือการจราจร มีอากาศเย็นสบายทั้งปี

จากการที่ได้มีโอกาสเข้าไปดูงานที่ Plug and Play Tech Center ได้สัมผัสกับบรรยากาศในการทำงานของพนักงานแล้วมีหลายประเด็นที่น่าสนใจที่ผมขอนำเสนอ รวมถึงโอกาสที่จะเกิด Silicon Valley ในเมืองไทย ในตอนต่อไปครับ....