ระบบ Best-in-class เพื่อเฟ้นหาพอร์ตกองทุนยอดเยี่ยม

ระบบ Best-in-class เพื่อเฟ้นหาพอร์ตกองทุนยอดเยี่ยม

ปัญหาที่นักลงทุนในกองทุนบ้านเราเจอในปัจจุบันคือไม่รู้ว่ากองทุนที่ถือครองเป็นกองทุนที่ยังดีอยู่หรือไม่

บ่อยครั้งถือครองต่อเนื่องเป็นเวลาหลายปีโดยไม่ได้มีเวลาอับเดตคุณภาพที่ตัวเองถือครอง การสร้างระบบคำนวณเพื่อหากองทุน Best-in-class จึงถูกสร้างขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาอันนี้

การคัดเลือกพอร์ต Best-in-class ของ FINNOMENA จะดูจากปัจจัยหลัก 3 ปัจจัยคือ ความสม่ำเสมอของผลตอบแทนระยะยาว, อัตราผลตอบแทนหลังปรับด้วยความเสี่ยง, Maximum Drawdown หรือการขาดทุนสูงสุดในอดีตของกองทุน โดยนำทั้ง 3 ปัจจัยมาคำนวณออกมาเป็น FINNOMENA Score และเลือก 3 กองทุนที่ได้คะแนนสูงสุดมาจัดเป็นพอร์ต Best-in-class ให้กับนักลงทุน

โดยจากการศึกษา เราพบว่ากองทุนที่ดีที่สุดไม่ใช่กองทุนที่ใหญ่ที่สุดเสมอไป และกองทุนที่ดีที่สุดก็ไม่ใช่กองที่ผลตอบแทนปีล่าสุดเป็นอันดับ 1 ด้วยเช่นกัน โดยกองทุนที่ดีที่สุดในแต่ละประเภทมีกุญแจสำคัญคือต้องมีการขาดทุนสูงสุดในอดีตของกองทุนต่ำ และมีผลตอบแทนที่สม่ำเสมอในระยะเวลาการลงทุน 3 ปี โดยระบบคัดเลือกกองทุนแบบ Best-in-class จะนำกองทุนที่ดีที่สุด 3 กองทุนมาจัดเป็นพอร์ตให้กับนักลงทุน

สำหรับ 4 ธีมการลงทุนของผลิตภัณฑ์ Best-in-class ของ FINNOMENA ได้แก่

กองทุนหุ้นไทยขนาดใหญ่ - เนื่องจากเห็นโอกาสที่ประเทศไทยกำลังจะมีเลือกตั้งในช่วงต้นปี 2562 ซึ่งมีโอกาสที่ดีที่เงินลงทุนจะไหลกลับมาลงทุนในบ้านเราอีกครั้ง ประกอบกับตัวเลขเศรษฐกิจและกำไรไตรมาส 2 ที่ผ่านมาอยู่ในเกณฑ์ที่เติบโตดี

กองทุนที่ลงทุนในกองทุนอสังหาฯ และ REITs - เป็นอีกกองทุนยอดฮิตเนื่องจากอัตราเงินปันผลของกองทุนอสังหาฯ บ้านเราที่ 5-7% ยังอยู่ในระดับที่สูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝากอยู่มาก ทำให้กองทุนประเภทนี้ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ

กองทุนที่เน้นลงทุนในหุ้นเทคโนโลยี - เราเชื่อว่าเทคโนโลยี AI Social Media และการเปลี่ยนแปลงของผู้บริโภคในยุคดิจิทัล ยังเป็น Mega Trend ของโลกอีกต่อเนื่อง โดยท่านที่ชอบลงทุนในกองทุนหุ้นเทคฯ ก็สามารถเลือกพอร์ตกองทุน Best-in-class หุ้นเทคผ่านทางคำแนะนำของฟินโนมีนาได้

กองทุนหุ้น Healthcare - เป็นอีกธีมการลงทุน Mega Trend ในระยะยาว ที่หลายประเทศในโลกกำลังเข้าสู่ยุคสังคมสูงวัย ซึ่ง บลน. ฟินโนมีนา จะทำการเลือก 3 กองทุนยอดเยี่ยมในกองทุนในกลุ่มนี้จากที่มีให้เลือกถึงประมาณ 20 กองทุนในบ้านเรา

“จากการศึกษาของ FINNOMENA เรายังพบอีกว่า กองทุนที่เป็น Best-in-class ให้ผลตอบแทนที่ดีกว่ากองทุนทั่วไปอย่างมีนัยสำคัญ ยกตัวอย่างเช่นกองทุน Best-in-class หุ้นไทยขนาดใหญ่ให้ผลตอบแทนสะสมย้อนหลังที่ 54% ขณะที่กองทุนที่มี FINNOMENA Score อยู่ท้ายตารางให้ผลตอบแทนสะสมย้อนหลังเพียง 7% ทั้งที่เป็นกองทุนในประเภทเดียวกันแต่ผลลัพธ์ต่างกันเป็นอย่างมาก เราจึงเชื่อว่าการลงทุนในกองทุน Best-in-class จะเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์นักลงทุนบ้านเราได้เป็นอย่างดี” คุณเจษฎา กล่าว

สำหรับผลิตภัณฑ์พอร์ต Best-in-class ของ FINNOMENA เป็นการลงทุนใน 3 กองทุนยอดเยี่ยมในแต่ละธีมการลงทุนที่นักลงทุนเลือก และจะมีการแนะนำปรับพอร์ต rebalance เข้าสู่กองทุน Best-in-class อย่างน้อยปีละครั้งด้วยระบบแจ้งเตือนของฟินโนมีนา สนใจศึกษาเพิ่มเติมได้ที่ https://www.finnomena.com/bic