ระบบการศึกษา (เพื่อชีวิต) ที่ล้มเหลว... !!

ระบบการศึกษา (เพื่อชีวิต) ที่ล้มเหลว... !!

เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา สู่เดือนที่สองของพรรษาปีนี้ กิจนิมนต์มีเป็นระยะๆ

บางกิจก็อยู่ใกล้ที่จำพรรษานครชัยศรี ไปกลับสะดวก แต่บางกิจนิมนต์ต้องกระทำสัตตาหกรณียฯ ตามพุทธานุญาตต้องลาไปและกลับมาภายใน ๗ วัน จึงต้องพิจารณาว่าควรหรือไม่ เป็นสำคัญ ในกิจนิมนต์ที่สามารถรับได้ ตรงตามเงื่อนไขในการกระทำสัตตาหกรณียฯ

การพิจารณาให้ลึกซึ้งถึงก้นบึ้งว่า มีประโยชน์และเหมาะควร หรือไม่ เป็นหลักพิจารณาในพระธรรมวินัยนี้ ที่จะต้องใช้ปัญญา คือ ความรู้ถูกต้อง ทั่วถึง ตรงความจริงโดยประการต่างๆ เป็นเครื่องตัดสินว่า สิ่งนั้นแม้ว่าจะได้รับอนุญาต สามารถกระทำได้ไม่ผิดพระวินัย แต่พึงควรพิจารณาว่า เป็นไปเพื่อประโยชน์โดยธรรม และเหมาะควร หรือไม่.. ที่สุด จะต้องสรุปลงที่ว่า ให้ผลเป็นกุศล หรืออกุศล ผลที่ได้รับนั้นเป็นโมหะ หรือไม่…

พระภิกษุในพระพุทธศาสนาต้องเคารพพระธรรมวินัย ด้วยการปฏิบัติอย่างเอื้อเฟื้อพระธรรมวินัย ดังที่จะต้องปฏิบัติตามกิจจาธิกรณ์ ที่สงฆ์จะต้องทำร่วมกันด้วยความยำเกรง เพื่อรักษาความบริสุทธิ์ของพระธรรมวินัย ให้ดำรงเป็นฐานหลักในชีวิตของพระภิกษุและคณะสงฆ์ ให้มั่นคง เหนียวแน่น เป็นหนึ่งสืบไป  พระพุทธศาสนาจึงให้ความสำคัญกับคณะสงฆ์ ว่าเป็นองค์กรธรรมที่สำคัญยิ่ง ซึ่งในหมู่สมาชิกขององค์กร ได้แก่ พระภิกษุทั้งหลาย จะต้องเป็นกัลยาณมิตรส่งเสริมกันและกัน เพื่อสนับสนุนส่งเสริมพระพุทธศาสนาและพุทธศาสนิกชน ประชาชน ในทางธรรม ให้มีความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ด้วยการศึกษาปฏิบัติที่ถูกต้องตรงตามหลักพระธรรมวินัย เพื่อการสร้างธรรมวาที-วินัยวาทีบุคคลให้เกิดขึ้นในสังคมประเทศชาติ

การจัดการศึกษาเพื่อชีวิต ด้านการพัฒนามโนธรรม จึงเป็นการศึกษาที่สำคัญยิ่งต่อการพัฒนาชีวิต ให้ก้าวไปสู่ความสำเร็จ.. ในทุกๆ ด้าน เพื่อการดำเนินชีวิตให้สัมพันธ์กับสังคม สิ่งแวดล้อม ในทุกกาลสมัย หากการจัดการศึกษาเพื่อชีวิตครบส่วน ก็จักสร้างชีวิตที่มีความรู้ควบคู่คุณธรรม เพื่อการก้าวย่างไปอย่างมั่นคง บนเส้นทางชีวิตที่มุ่งไปสู่ความเจริญทั้งทางโลกและทางธรรม

แต่บนพื้นฐานของความจริงแห่งชีวิตของสัตว์มนุษย์เราในวันนี้ การศึกษาเพื่อชีวิตกลับไม่สมบูรณ์ ขาดการจัดการศึกษาอย่างสมดุล การจัดสัมพันธภาพของความรู้กับคุณธรรมในชีวิตมีปัญหา เพราะไปมุ่งเน้นการจัดการศึกษาด้านเดียว จึงเกิดการเสียดุลยภาพในจิตวิญญาณของสัตว์ประเสริฐ

..การคิดได้ ทุกเรื่อง แต่ทำดี แม้เรื่องเดียวก็ไม่ได้ .. จึงเกิดขึ้นให้เป็นปัญหาของชีวิตในสัตว์สังคมยุควัตถุนิยมครองจิตวิญญาณ .. ที่เต็มไปด้วยนักคิด นักเขียน นักวิชาการ สารพัดวิชา ที่สามารถคิดอ่านได้ทุกเรื่องราว สืบสาวว่ากล่าวได้ทุกประเด็นปัญหา แต่ทำดีแม้เรื่องเดียวก็ไม่ได้ที่มีนัยควรพิจารณา...

การดำเนินชีวิตภายใต้อำนาจของวัฏสงสาร จึงเป็นการต่อสู้ของชีวิตในชีวิตนั้น ... ที่เข้าใจความจริงในความหมายของชีวิตผิดไปจากธรรม... จึงไม่แปลกที่สัตว์มนุษย์เราส่วนมาก เคลื่อนไหวชีวิตไปในมิติแห่งความรู้ของโลก ตามแนวแกน xy .. แต่ขาดมิติแห่งคุณธรรมในแนวแกน z ...ทั้งๆ ที่ การศึกษาในพระพุทธศาสนาเพื่อการพัฒนาชีวิตให้มีความสมดุล .. ได้จัดให้มีครบทั้ง ๓ แกน ๓ มิติ แต่ก็หาได้มีความสนใจจากคนในสังคมปัจจุบันเท่าที่ควรไม่...

ดังนั้น เราจึงเห็นชีวิตในสังคมของสัตว์มนุษย์ปัจจุบัน ที่เคลื่อนไหวไปสู่ความต้องการตามความคาดหวังในจุดมุ่งหมาย อย่างน่าสงสาร... ด้วยการใช้ความรู้ที่สร้างขึ้นด้วยการเรียนรู้ตามระบบวัฏสงสารที่ผิดเพี้ยนไปจากธรรม มาทำลายตนเองให้ย่อยยับไปจากฐานะสัตว์ประเสริฐ ...และนี่คือ บทลงโทษจากธรรมชาติต่อสัตว์มนุษย์ที่ขาดความรู้ .. ความเคารพในธรรม .. อันเป็นองค์ความรู้ที่แท้จริงในชีวิตของสัตว์มนุษย์

เจริญพร