กลยุทธ์การลงทุนเดือนกันยายน

กลยุทธ์การลงทุนเดือนกันยายน

สวัสดีครับท่านนักลงทุนกลับมาพบกันอีกครั้ง เพื่อมาคุยกัน เรื่องกลยุทธ์การลงทุนในเดือนกันยายน

เพื่อให้ทราบว่าท่านนักลงทุนต้องเตรียมกำหนดกลยุทธ์อะไรกันบ้างในเดือนนี้

ในเดือนนี้ SET Index คาดว่าจะเคลื่อนไหวเป็นลักษณะพักฐานแกว่งออกด้านข้างและน่าจะเป็นลักษณะแบบนี้ไปจนจบไตรมาส3

โดยปัจจัยที่เข้ามาส่งผลกระทบต่อ SET Index ยังคงเป็นเรื่องเดิมๆเช่นสงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน วิกฤตค่าเงินตุรกีและอาร์เจนตินา ราคาน้ำมัน การขึ้นดอกเบี้ยของเฟด ส่วนปัจจัยในประเทศก็คือการกำหนดวันเลือกตั้ง และ ตัวเลข GDPบ้านเรา

จะเห็นได้อย่างชัดเจนว่าเมื่อใด มีข่าวดีจากปัจจัยที่กล่าวมาข้างต้นSET Index ก็จะเป็นบวก แต่ถ้าเมื่อใด ปัจจัยนั้นเกิดส่งข่าวลบ SET Index ก็จะเป็นลบ ดังนั้นนักลงทุนต้องตามติดปัจจัยต่างๆที่กล่าวอย่างใกล้ชิด

ตัวอย่างเห็นได้ในตอนปลายเดือนที่ผ่าน เมื่อมีข่าวว่า สหรัฐและแคนาดาสามารถจะบรรลุข้อตกลงทางการค้าได้ SET Index ขึ้นไปมากกว่า 1,720 จุด แต่พอมีข่าวว่าสหรัฐเดินหน้าเก็บภาษีวงเงิน 2 แสนล้านเหรียญกับจีนต่อ SET Index ก็ปรับลง

เมื่อวันที่ 29-31 สิงหาคมที่ผ่านมา ได้มีงานThailand Focus 2018โดยหลายปีที่มีการจัดงานนี้ทางฝ่ายวิเคราะห์ของ บล.ฟินันเซียไซรัส มีสถิติของผลของการจัดงานThailand Focusในอดีตตั้งแต่ปี 2007 แสดงให้เห็นว่า SETIndex จะปรับตัวขึ้นเฉลี่ย 1.7% และ3.9% ในช่วง 10 และ 15 วันหลังจากงานตามลำดับ โดยมีระดับความน่าจะเป็นในการให้ผลตอบแทนเป็นบวกสูงถึง 75% แต่อย่างไรก็ตามเนื่องจากSET Index กลับขึ้นมายืนแถว 1,720 จุด แล้วประกอบกับทิศทางกระแสเงินยังไหลออก ดังนั้นหลังจัดงานThailand Focus ปีนี้ SET Index จึงอาจไม่ได้ขึ้นมากเหมือนในอดีต

ยังมีอีกปัจจัยที่สนับสนุนว่า SET Indexมี Upside ที่จำกัดนั่นคือแนวโน้มดอกเบี้ยเรา ดูจาก BIBOR อายุ 1 ปี ซึ่งล่าสุดเร่งตัวขึ้นทำจุดสูงสุดในรอบ 1 ปี ที่ 1.98%ทำให้ Earning Yield Gap ลดลงเหลือ 3.87% จาก 4.19%ในช่วง Bottom ของ SET รอบล่าสุด เมื่อปลาย มิ.ย. 18 แถว 1,585 จุด ถ้าดอกเบี้ยในตลาดเงินยังขึ้นไม่หยุด Upside ของ SET จะจำกัดชั่วคราว เพื่อรักษา Earning Yield Gap ไม่ให้ต่ำกว่า 4% ที่เป็นค่าเฉลี่ยในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา การเคลื่อนไหวของ SET ในระยะถัดไปดูมีความเสี่ยงที่จะพักฐานระยะสั้น และยังเป็นการยืนยันว่าช่วงหลังจบงาน Thailand Focus อาจไม่ได้ขึ้นแรงเหมือนอดีตอีกด้วย

กลุ่มที่ดูโดดเด่นตอนนี้คือกลุ่มการแพทย์ แนวโน้มกำไร 3Q18 คาดว่าจะเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของปี จากอานิสงส์ของ High Season อย่างไรก็ตามการเติบโตในแง่ Y-Y คาดว่าจะไม่สูงเท่ากับช่วง 1H18 เนื่องจากฐานใน 2H17 ที่เริ่มสูงทั้งกลุ่มผู้ป่วยเงินสดที่ฟื้นตัวและกลุ่มประกันสังคมที่ได้อานิสงส์จากการปรับเพิ่มเงินแล้ว อย่างไรก็ตามคาดว่ายังเห็นการเติบโตในระดับที่แข็งแกร่งทั้ง Q-Q และ Y-Y โดยปัยจัยหนุนหลักมาจากการบริโภคในประเทศที่เติบโตชัดเจน ซึ่งจะยังทำให้โรงพยาบาลที่มีฐานลูกค้าในประเทศเป็นหลักคาดว่ายังเติบโตได้เด่นกว่าโรงพยาบาลที่มีฐานลูกค้าต่างประเทศสูง เรามองกำไรกลุ่มการแพทย์ในปี 2018 ยังคงแข็งแกร่งและเติบโตเร่งตัวขึ้นเป็น 15.4% Y-Y และยังคงน้ำหนักการลงทุน Overweight

ดังนั้นกลยุทธ์การลงทุนในเดือนกันยายนนี้คือ ยังเน้นเก็งกำไร หุ้นDomestic Play เช่น กลุ่มโรงพยาบาล และค้าปลีก ให้เลือกซื้อตอนหุ้นลง ในเดือนนี้ตลาดหุ้นมีแนวรับอยู่ที่ 1,690 จุด และมีแนวต้านอยู่ที่ 1,730 จุด

ก่อนจากกันเช่นทุกครั้ง ต้องบอกกันว่า การลงทุนมีความเสี่ยง นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการลงทุนทุกครั้ง พบกันใหม่เดือนหน้า สวัสดีครับ