มังกรไฮเทค

มังกรไฮเทค

เบื้องหลังคือการวางแผนและบริหารจัดการอย่างเป็นระบบ

จุดโฟกัสของโลกเปลี่ยนมาสู่ประเทศจีนได้หลายปีแล้ว ทุกวันนี้เราจึงเห็นทริปธุรกิจจากไทยเข้าไปดูความก้าวหน้าทันสมัยในจีนกันไม่เว้นแต่ละวัน ไม่ว่าจะเป็นด้านเอไอ, บิ๊กดาต้า, ดิจิทัลแบงกิ้ง, โซเชียลคอมเมิร์ซ และอีกจำนวนมาก เพราะจีนเป็นประเทศที่ก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัลเต็มตัวแล้วอย่างแท้จริง

ผลพวงเหล่านี้ผลักดันให้ธุรกิจของจีนกลายเป็นองค์กรระดับโลกไปโดยปริยาย เพราะขนาดตลาดที่ใหญ่มหาศาลทำให้อุตสาหกรรมไฮเทคของจีนตบเท้าก้าวขึ้นมาอยู่ใน 10 อันดับแรกของโลกที่มีมูลค่าทางการตลาดสูงที่สุด นั่นคืออาลีบาบาในอันดับที่ 6 และเทนเซนต์ในอันดับที่ 8

ขณะที่ 5 อันดับแรกล้วนเป็นบริษัทที่คุ้นเคยกันดีอย่างแอ๊ปเปิ้ล อะเมซอน อัลฟ่าเบ็ต(บริษัทแม่กูเกิ้ล) ไมโครซอฟท์ และเฟซบุ๊ค การก้าวขึ้นมาติด 1 ใน 10 บริษัทชั้นนำไม่ได้เป็นเพราะโชคช่วย หรือบังเอิญเติบโตขึ้นมาเองได้ แต่เบื้องหลังทั้งหมดนั้นคือการวางแผน และการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบ 

ตัวอย่างหนึ่งที่ผมยังจำได้เสมอคือ หน้าจอแสดงจำนวนผู้ใช้ในระบบของวีแชทหนึ่งในแอพลิเคชั่นของเทนเซ็นต์ ในการดูงานครั้งล่าสุดของผมเมื่อเดือนที่แล้วทำให้ได้เห็นจำนวนผู้ใช้จริงในแต่ละนาทีที่อยู่ในหลักพันล้านคนตั้งแต่เช้า การเปลี่ยนแปลงในแต่ละวินาทีก็ผันแปรขึ้นลงตั้งแต่หลักแสนถึงหลักล้านคน ซึ่งจำนวนผู้ใช้มากขนาดนี้ระบบบริหารจัดการของเขาต้องอยู่ในระดับสุดยอดจริงๆ เพราะแอพแบบนี้ผู้ใช้จะเปลี่ยนใจเลิกใช้ทันทีหากระบบล่าช้าหรือขัดข้องบ่อยๆ

การใช้ดาต้าเซ็นเตอร์จำนวนมหาศาลเพื่อรองรับการจราจรทางอินเตอร์เน็ตได้อย่างเหลือเชื่อจึงสะท้อนให้เห็นความก้าวหน้าระดับโลกของเทนเซนต์ ซึ่งแม้ว่าหลายคนจะเชื่อว่าเขาเติบโตได้เพราะทางการจีนเคยสกัดกั้นไม่ให้บริษัทผู้ให้บริการออนไลน์ยักษ์ใหญ่ของโลกอย่างเช่นเฟซบุ๊คและกูเกิลเข้ามาทำธุรกิจได้อย่างเสรี แต่ความก้าวหน้าของธุรกิจดิจิทัลในประเทศจีนทุกวันนี้ก็สะท้อนให้เห็นแล้วว่าจีนมีศักยภาพเพียงพอ

เทนเซนต์เป็นเจ้าของแอพวีแชทซึ่งมีจำนวนผู้ใช้ราว 1,040 ล้านคนและคิวคิวที่มีผู้ใช้ 805 ล้านคน และด้วยความที่จีนเป็นสุดสนใจของนักธุรกิจและนักลงทุนจากทั่วโลกจึงทำให้ทั้งสองแอพมีผู้ใช้งานจากต่างประเทศเพิ่มขึ้นเพราะแอพยอดนิยมอย่างไลน์และว้อทส์แอพไม่เป็นที่นิยมในจีนนัก ทำให้ทุกวันนี้ประเมินว่ามีผู้ใช้ที่เป็นชาวจีนประมาณไม่เกิน 80% ที่เหลือมาจากประเทศอื่นและเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ

บริการอย่างวีแชทก็เหมือนกับแอพส่งข้อความทั่วไปที่ให้บริการฟรีเป็นหลัก จึงหมายความว่า ผู้ให้บริการไม่มีรายได้จากผู้ใช้โดยตรงแต่ต้องใช้เงินลงทุนมหาศาลเพื่อรองรับลูกค้าในหลักพันล้านคน ระบบที่ใช้จึงต้องทรงพลังและขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง

รายรับของวีแชทจึงอยู่ที่แพลตฟอร์มของตัวเองที่มีข้อมูลให้นำมาใช้สร้างมูลค่าเพิ่ม เพราะจำนวนลูกค้าที่มากขนาดนั้นทำให้ใช้ระบบบิ๊กดาต้าวิเคราะห์ได้อย่างเต็มที่ วีแชทจึงเป็นต้นกำเนิดที่ให้เทนเซนต์ได้รู้ข้อมูลเชิงลึกของลูกค้า ทั้งพฤติกรรมผู้บริโภค การชำระเงิน กำลังซื้อ ฯลฯ

ที่สำคัญยังดึงฐานผู้ใช้มหาศาลเหล่านั้นให้กลายเป็นผู้ผลิตผู้สร้างสรรค์ดิจิทัลคอนเทนต์ด้วยการสร้างคาแร็คเตอร์เป็นของตัวเอง แล้วแบ่งรายได้กันระหว่างผู้ผลิตและเจ้าของแพลตฟอร์มเช่นเดียวกับไลน์สติ๊กเกอร์ ซึ่งดิจิทัลคอนเทนต์เหล่านี้สามารถขยายตัวไปสู่ธุรกิจอื่นๆ ในเครือเทนเซนต์ได้อีกอย่างเช่นเกมออนไลน์

ทุกวันนี้เทนเซนต์จึงมีผู้สร้างคอนเทนต์ในเครือข่ายมากถึง 7 ล้านคน ป้อนผลงานให้กับบริษัทอย่างต่อเนื่อง ทั้งเกม ภาพยนตร์ ฯลฯ ซึ่งมักจะตอบสนองได้ตรงความต้องการของลูกค้าเพราะมีการใช้บิ๊กดาต้าอนาไลติกส์เข้ามาช่วยวิเคราะห์ความต้องการของลูกค้าอยู่ตลอดเวลา

แนวโน้มเช่นนี้ไม่ได้เป็นเรื่องแปลกใหม่อะไรเลย เพราะเจ้าของแพลตฟอร์มอีคอมเมิรซ์ใหญ่ที่สุดในโลกอย่างเช่นอะเมซอนก็ไม่ได้มีรายได้หลักมาจากการขายสินค้าแต่มาจากอะเมซอนเว็บเซอร์วิสที่ให้บริการคลาวด์ซึ่งสร้างสัดส่วนรายได้ถึง 73% ของรายได้ทั้งหมด

ย่างก้าวของธุรกิจไฮเทคในประเทศจีนวันนี้จึงถือได้ว่าน่าจับตาดูที่สุด