อารยธรรมมายาและสงครามสามด้าน

อารยธรรมมายาและสงครามสามด้าน

คงทราบโดยทั่วกันแล้วว่า ย้อนไปหลายพันปี มีอารยธรรมโบราณในย่านอเมริกากลาง ชื่อ “มายา” สังคมมายาก้าวหน้าในหลากหลายด้านคล้ายสังคมอียิปต์โบราณ

และหลังจากล่มสลายไป ได้ทิ้งพีระมิดไว้เช่นเดียวกัน ความล่มสลายของอารยธรรมมายา เป็นที่สนใจของนักวิชาการหลายสาขา ซึ่งพยายามค้นคว้าหาปัจจัยที่ทำให้มันเกิดขึ้นเช่นเดียวกับอารยธรรมอื่นๆ ที่ล่มสลายไป ไม่ว่าจะเป็นบาบิโลน อียิปต์ หรือโรมัน ผลของการค้นคว้าได้รับการเผยแพร่อย่างต่อเนื่องในรูปของบทความ เอกสารวิชาการ และหนังสือ ในจำนวนนี้มีหนังสือที่โด่งดังหลายเล่ม รวมทั้งเรื่อง Collapse ของ Jared Diamond ซึ่งได้รับการแปลเป็นภาษาไทยชื่อ ล่มสลาย (จัดพิมพ์โดยสำนักพิมพ์โอ้มายก้อด เมื่อเดือน ก.ย. 2552)

เนื่องจากหนังสือวิชาการมักเขียนเป็นภาษาอังกฤษและมีความยาวมาก รวมทั้ง “ล่มสลาย” ซึ่งหนากว่า 800 หน้า มูลนิธินักอ่านบ้านนา จึงได้นำบทคัดย่อภาษาไทยจำนวนมากมารวมกันไว้ให้ผู้สนใจ แต่ขาดความแตกฉานในด้านภาษา หรือเวลา สามารถดาวน์โหลดได้ฟรีที่เว็บไซต์ www.bannareader.com นอกจากนั้น เว็บไซต์นี้ยังมีหนังสือให้ดาวน์โหลดได้ฟรีอีกด้วย รวมทั้งหนังสือที่ได้นำบทคัดย่อดังกล่าวจำนวนหนึ่งมารวมกันเป็นเล่ม ตามประเด็น เช่น เรื่อง ธาตุ 4 พิโรธ” ซึ่งรวมบทคัดย่อของหนังสือเกี่ยวกับการทำลายธรรมชาติจนมองได้ว่าถูกธรรมชาติตอบโต้อย่างรุนแรง

การตอบโต้ของธรรมชาติอาจเป็นปัจจัยหลักปัจจัยหนึ่งซึ่งทำให้อารยธรรมมายาล่มสลาย เมื่อไม่นานมานี้มีการเผยแพร่ผลงานของนักวิชาการ ด้านภูมิอากาศ ซึ่งศึกษาความเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศในช่วงความเสื่อมของอารยธรรมมายา การศึกษานั้นวางอยู่บนฐานของการวิเคราะห์ชั้นของตม ซึ่งทับถมกันเป็นพันปีอยู่ที่ก้นทะเลสาบ ชั้นของตมเหล่านี้บ่งชี้ว่า ในช่วงเวลานั้นภูมิอากาศแห้งแล้งร้ายแรงต่อเนื่องกันเป็นเวลานานกว่าปกติมาก ความแห้งแล้งร้ายแรงกว่าปกติจะเกิดจากอะไรบ้าง เขายังมิได้สรุป อย่างไรก็ดี มีแนวโน้มว่าการศึกษาจะได้ข้อสรุปคล้ายกับความล่มสลายของสังคมในอดีตที่บ่งชี้ว่า ปัจจัยสำคัญเกิดจากการตัดต้นไม้เพื่อนำมาใช้เป็นเชื้อเพลิงและเพื่อการก่อสร้างพร้อมกับเตรียมพื้นดินสำหรับปลูกพืชอาหารเพื่อเลี้ยงประชากรที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

ข้อสรุปอาจจะไม่ออกมาตรงตามนั้นทุกด้าน แต่เราพอจะอนุมานได้แล้วว่า จำนวนคนที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วนั้นผลิตอาหารจากการรุกรานธรรมชาติจนในที่สุดเกิดการขาดสมดุลร้ายแรงระหว่างจำนวนคนกับศักยภาพของธรรมชาติที่จะผลิตอาหารได้ในภาวะแห้งแล้งต่อเนื่องกันเป็นเวลานาน การขาดแคลนอาหารจึงมองได้ว่าเป็นการตอบโต้ของธรรมชาติต่อการรุกรานของคน เมื่อขาดอาหาร การแย่งชิงกันย่อมตามมาซึ่งนำไปสู่สงครามที่คร่าชีวิตคนและทำความเสียหายร้ายแรงต่อบ้านเมือง นอกจากนั้น ยังมีการอพยพออกจากพื้นที่ของชาวมายาส่วนหนึ่งซึ่งกระจัดกระจายไปทั่วอเมริกากลาง ทั้งหลายทั้งปวงนี้มีลักษณะของสงคราม 2 ด้าน นั่นคือ ชาวมายาต่อสู้กับธรรมชาติพร้อมกับทำสงครามกันเอง

เท่านั้นยังไม่พอ ยังมีสงครามอีกด้านหนึ่งซึ่งมักไม่เป็นที่ประจักษ์อย่างแจ้งชัดแก่สายตา หลักฐานของสงครามได้แก่พีระมิด สิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่นี้มักมองกันว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งความก้าวหน้าของชาวมายา หรืออารยธรรม แต่ในขณะเดียวกัน มันเป็นสัญลักษณ์ของการผลาญทรัพยากรปริมาณมหาศาลให้หมดไปโดยไม่มีความจำเป็นสำหรับยังชีพ ชาวมายาทำเช่นนั้นเพราะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ หรือเพราะกิเลสตัณหาอันเป็นเสมือนการแพ้แก่สงครามภายในจิตใจของตัวเอง

การแพ้สงคราม 3 ด้านของชาวมายามิใช่ของใหม่เพราะความล่มสลายของอารยธรรมบาบิโลนมาจากสาเหตุเดียวกัน ภาวะโลกปัจจุบันคงมองได้ว่าคล้ายชาวมายาก่อนล่มสลาย สงคราม3 ด้านกำลังเกิดขึ้นทั่วโลก น้ำท่วม แผ่นดินและภูเขาพังทะลายเพราะป่าไม้ถูกทำลายจนเตียนโล่ง ไฟป่าเผาผลาญบ้านเรือนที่รุกเข้าไปปลูกไว้ในพื้นที่ซึ่งมีความเสี่ยงสูง การแย่งชิงกันอย่างเข้มข้นจนสงครามดำเนินต่อไปในหลายส่วนของโลก การบริโภคแบบเมามันและการผลาญทรัพยากรเพื่อสร้างสิ่งที่หลงเชื่อกันว่าเป็นถาวรวัตถุ หรืออนุสาวรีย์เพื่อสนองกิเลสตัณหายังเพิ่มขึ้นต่อไปแบบไม่หยุดยั้ง ความแตกต่างระหว่างเราชาวโลกปัจจุบันกับชาวมายาคือ เรามีเทคโนโลยีที่น่าจะเหนือกว่าของเขาและมีบทเรียนจากประวัติศาสตร์มากกว่าเขา ทว่าเราก็ยังฉลาดไม่พอ