เรื่องดาร์คๆในวงการ ICO

เรื่องดาร์คๆในวงการ ICO

ไม่ว่าจะวงการใดๆก็ตามมักจะมี “ตัวปลอม” หรือกลุ่มคนที่พยายามจะเข้ามาตักตวงผลประโยชน์ด้วยวิธีการที่ไม่สมควรด้วยกันทั้งสิ้น

ไม่ว่าจะวงการใดๆก็ตามมักจะมี “ตัวปลอม” หรือกลุ่มคนที่พยายามจะเข้ามาตักตวงผลประโยชน์ด้วยวิธีการที่ไม่สมควรด้วยกันทั้งสิ้น (ภาษาบ้านๆเราเรียกกันว่าสายดาร์คนั่นเอง) โดยเฉพาะในวงการ ICO ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่เกิดขึ้นได้ไม่กี่ปีก็หนีไม่พ้นที่จะมีเรื่องดาร์คๆอยู่พอสมควรทีเดียว 

สถิติยิ่งบ่งชี้ชัดว่า โปรเจคท์ที่เข้ามาระดมทุนส่วนใหญ่มักจะประสบความล้มเหลวมากกว่าสำเร็จ เช่น ระดมทุนไม่ได้ตามเป้า และที่เลวร้ายที่สุดคือมีการเชิดเงินแล้วหนีไปเลยก็เยอะ ซึ่งเราจะเรียกกันว่า Scam เราไปดูกันว่าในวงการนี้มักจะมีพฤติกรรมอะไรแปลกๆที่เราต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ

หนึ่ง..เชิดเงินหนีไปเฉยๆ ด้วยการที่ ICO เป็นการระดมทุนที่ไม่มีหน่วยงานมากำกับดูแลหรือเข้ามาสกรีนโปรเจคท์ที่จะระดมทุนก่อน ทำให้มีกลุ่มผู้ไม่หวังดีเข้ามาในวงการนี้เพื่อที่จะหลอกเงินจากผู้ลงทุน เช่น ปิดการระดมเงินแล้วก็ปิดเวบปิดเทเลแกรมหนีไปเฉยๆเลยซึ่งไม่สามารถตามตัวมาคืนเงินให้ได้ ที่แย่ไปว่านั้นคือไม่รู้จะให้หน่วยงานใดเข้ามาดำเนินคดีเสียด้วยเพราะเป็นการระดมทุนบนออนไลน์ หากเกิดเคสนี้ขึ้นบอกได้คำเดียวว่า..ซวย 

สอง..ปั่นราคาเกินงาม ในวงการ ICO ได้เกิดอาชีพใหม่ขึ้นมานั่นคือนักวิเคราะห์ และนักวิจารณ์โปรเจคท์ ซึ่งกลุ่มคนเหล่านี้จะทำหน้าที่เป็น Sale ขายเหรียญไปในตัวด้วยโดยได้รับส่วนแบ่งเป็นเหรียญจากเจ้าของโปรเจคท์หรือได้เปอร์เซนต์จากการขาย ทำให้เกิดวิธีการที่จะปั่นราคาเหรียญให้พุ่งสูงขึ้นไปเพื่อที่จะทำกำไรได้เยอะๆ คนเหล่านี้อาจจะเป็นบลอกเกอร์หรือยูทูปเปอร์ ก็จะใช้สื่อที่ตัวเองมีอยู่โดยเฉพาะทวิตเตอร์ ออกข่าวเพื่อดันราคาหลากหลายรูปแบบ บางครั้งก็เกินความจริงหรือกุข่าวขึ้นมาก็มี

สาม..แอบอ้างชื่อ Advisor เป็นเคสที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งเพราะหากโปรเจคท์ใดมี Advisor ชื่อดังระดับเซเลปในวงการคริปโตเข้ามาอยู่ใน White Paper เหรียญนั้นจะได้รับความสนใจขึ้นมาทันที  ทำให้เกิดกลุ่มที่ตัดต่อเอารูปคนดังมาใส่ บางครั้งก็ดาว์นโหลดมาจากอินเทอร์เนตเอาง่ายๆก็มี ที่แย่ไปกว่านั้นคือบางกลุ่มเข้าไปงานสัมนาเกี่ยวกับ Blockchain และลอกไอเดียการทำ ICO มาเป็นของตัวเองชนิดที่ Copy Paste เอาง่ายๆกันเลยทีเดียว

สี่..แอบอ้างโปรดักต์ที่ไม่สามารถเกิดขึ้นได้จริง การทำ ICO ต้องทำใจอย่างหนึ่งว่าเป็นการลงทุนที่เป็นเรื่องของอนาคตมากกว่าปัจจุบัน โดยเฉพาะการนำ Blockchain มาใช้ ทำให้ผู้ไม่หวังดีมีการเสกสรรปั้นแต่ง White Paper ให้ออกมาดีเวอร์ ชนิดที่กล้าเขียนลงไปว่าโปรเจคท์ของตนนั้นจะเข้ามาเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้ แต่ในความเป็นจริงโปรดักต์นั้นอาจจะไม่สามารถพัฒนาได้จริงก็เป็นได้ หรืออาจจะทำได้จริงแต่ไม่มีกฎหมายที่จะมารองรับ โปรเจคท์จึงไม่สามารถเกิดขึ้นได้

ห้า..ปกปิดข้อมูลสำคัญ ในช่วงที่ราคา Crypto Currency พุ่งขึ้นแรงๆตอนนั้นได้เกิดโปรเจคท์ ICO ขึ้นจำนวนมาก บางโปรเจคท์ไม่มีความพร้อมแต่รีบทำเพื่อให้ได้เงิน ทำให้โปรเจคท์เข็นออกมาแบบลวกๆ บางขั้นตอนที่เกิดความผิดพลาดหรือทำไม่ได้ตามที่เคยประกาศไว้ เจ้าของโปรเจคท์อาจจะใช้วิธีปกปิดความจริงหรือเลื่อนโปรเจคท์ออกไปอย่างไม่มีกำหนดโดยไม่มีคำอธิบายให้ผู้ลงทุนที่ดีพอ 

ที่เล่ามานี้เป็นเคสหลักๆที่เกิดขึ้นกับวงการ ICO ความจริงแล้วยังมีเรื่องฉาวๆในวงการอีกจำนวนมาก ถึงอย่างไรเชื่อว่าเรื่องไม่ดีต่างๆจะค่อยๆลดลงไปในอนาคต จากแนวโน้มที่เห็นว่ามีกฎหมายใหม่ๆออกมากำกับดูแลและโปรเจคท์ที่ระดมทุนเริ่มมีคุณภาพมากขึ้น