ความเพียร .. ด้วยสติปัญญา ย่อมผ่านพ้นภัยอันตรายได้จริง !!

ความเพียร .. ด้วยสติปัญญา ย่อมผ่านพ้นภัยอันตรายได้จริง !!

เจริญพรสาธุชนผู้มีสติปัญญา... ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๑ เป็นวันสำคัญทางศาสนา ด้วยตรงกับวันปวารณาเข้าพรรษา (แรก)

และเป็นวันสำคัญของพระมหากษัตริย์ด้วยตรงกับ วันเฉลิมพระชนมพรรษาของสมเด็จเจ้าอยู่หัวฯ รัชกาลปัจจุบัน จึงเป็นวันสำคัญของชาติไทยที่พสกนิกรชาวไทยและในฐานะพุทธศาสนิกชนชาวไทย จะต้องระลึกถึงด้วยความเคารพ .. ด้วยความศรัทธาปสาทะ .. ที่จะนำไปสู่การกระทำการใดๆ ชอบอย่างมีสติปัญญา

การกระทำการชอบ หรือ ความเพียรชอบ บนพื้นฐานของความศรัทธา ที่หล่อหลอมดวงจิตจนก่อเกิดฉันทะ เพื่อนำไปสู่วิริยะหรือความเพียรชอบอย่างมีสติปัญญา เป็นธรรมลักษณะของสัตบุรุษที่ควรแก่การยกย่องเป็นผู้นำ .. ของสังคมประเทศชาติ

หากเราสามารถสรรหา .. เฟ้นหา ผู้นำที่มีวิริยะ สติ ปัญญา รองรับด้วยศรัทธาที่ตั้งมั่น ด้วยความเชื่อมั่นอย่างรู้คุณประโยชน์ในสิ่งนั้นๆ ได้ ... นับเป็นมงคลต่อชีวิตอย่างยิ่งที่จะได้ผู้นำชีวิต สังคม ประเทศชาติ ที่มีคุณภาพ สมฐานะเป็นบัณฑิตที่แท้จริง

ดุจดังเรื่องในพุทธศาสนาสมัยพุทธกาลที่ควรนำมาศึกษา เพื่อแสดงให้เห็นถึงฐานะของบุคคลที่ควรแก่การเป็นผู้นำจากเรื่องพระภิกษุที่เคยมุ่งมั่นตั้งหน้าพากเพียรปฏิบัติธรรม มั่นคงอยู่ในพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธองค์ แต่ต่อมาได้เกิดความท้อใจ ไม่ปรารภความเพียรเหมือนเดิม เพราะคิดว่าไม่ได้ผล ด้วยยิ่งเพียรจิตยิ่งฟุ้งซ่าน แค่บรรลุปฐมฌานยังยากนัก มีแต่เรื่องทางโลกรบกวนสมาธิ จึงคิดว่า ชาตินี้เราคงไม่อาจบรรลุธรรมได้แน่ จึงคิดละทิ้งความเพียร เดินทางกลับพระเชตวันมหาวิหาร เพื่อกลับไปรับใช้พระพุทธองค์ ไปฟังธรรมเทศนาให้ชื่นใจ ดีกว่า นั่งคิดหวังลมๆ แล้งๆ ไปวันๆ

ต่อมาพระภิกษุรูปนั้นได้มีโอกาสเข้าเฝ้าพระพุทธองค์ที่พระเชตะวันฯ ทรงมีพระพุทโธวาทแด่ภิกษุผู้ละทิ้งความเพียรว่า ในอดีตกาลก็มีเหตุการณ์ทำนองเดียวกันนี้ เมื่อนายวาณิชชาวพาราณสีได้นำกองเกวียนสินค้า เดินทางไกลผ่านทะเลทรายที่ทั้งร้อนและยากลำบาก เพื่อไปให้ถึงเมืองๆ หนึ่ง โดยวางแผนเดินทางกันกลางวัน และนอนพักกลางคืน จนในที่สุดอีก ๑ โยชน์ ก็จะบรรลุทะเลทรายถึงเมือง จึงได้นอนใจ พากันใช้สอยเครื่องบริโภคอุปโภคจำพวกน้ำดื่ม ข้าวสารอาหารแห้งจนหมดสิ้น และพักผ่อนนอนหลับบนกองเกวียน ให้วัวลากพาไปอย่างไร้การควบคุม ด้วยวางใจว่า อีกโยชน์เดียวก็ถึงแล้ว ด้วยความประมาทจึงทำให้กองคาราวานของนายวาณิชที่ไร้การควบคุม วัวที่ลากเกวียนได้ชักนำกองเกวียนเดินหมุนย้อนกลับไปสู่จุดเดิม... เมื่อรุ่งอรุณตั้งขึ้น พระอาทิตย์ส่องแสง ความร้อนเพิ่มขึ้นสูงขึ้นไปตามลำดับ จึงทำให้กลุ่มพ่อค้าวาณิชหิวโหย กระหายน้ำ

นายวาณิชที่เป็นผู้นำเห็นเหตุการณ์ดังกล่าว จึงเกิดความสำนึกในหน้าที่ว่า เราละทิ้งความเพียรไม่ได้ หมู่คณะจะพากันตายแน่... จึงพยายามเดินหาเสาะหาแหล่งน้ำในกลางทะเลทราย โดยเล็งเห็นว่า เบื้องล่างกอหญ้ากอหนึ่งในทะเลทรายต้องมีน้ำแน่นอน แต่เมื่อขุดลึกลงไปกลับไม่พบอะไร จนเริ่มท้อถอยกัน จนขุดลงลึกไปเจอแผ่นหิน ยิ่งหมดหวัง

นายวาณิชผู้นำไม่ยอมสิ้นความพยายาม ได้นอนแนบกายเอาหูฟังยังแผ่นหินอย่างตั้งใจ จนได้ยินเสียงน้ำไหล จึงได้สั่งให้ผู้ที่ยังมีกำลังช่วยขุดเอาแผ่นหินจนทะลุ ส่งน้ำขนาดใหญ่พ่นออกมาให้ดื่มกินใช้สอย จนมีกำลังวังชา สามารถเดินทางผ่านทะเลทราย บรรลุสู่เมืองจุดหมายจนได้อย่างสวัสดิภาพ

พระพุทธองค์ทรงมีพระภาษิตสรุปเรื่องดังกล่าวว่า ชนทั้งหลาย ผู้ไม่เกียจคร้าน ขุดภาคพื้นที่ทางทราย ได้พบน้ำในทางทรายนั้น ณ ลานที่กลางแจ้งฉันใด

มุนี ผู้ประกอบความเพียรกำลัง ไม่เกียจคร้าน พึงได้ความสงบใจฉันนั้น

เรื่องดังกล่าวสรุปให้เห็นถึงความเพียรอย่างมีสติปัญญา ย่อมนำมาซึ่งความสำเร็จในชีวิต ตามประสงค์อย่างแน่นอน... แม้อุปสรรคภัยอันตรายทั้งหลาย ก็ย่อมผ่านพ้นไปได้ด้วยความเพียรอย่างมีสติปัญญา......

        เจริญพร