แชร์ลูกโซ่การเมือง

เหรียญมักมี 2 ด้าน ด้านหนึ่ง ช่วงที่ พิษณุ ตุลสุข ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการสกสค. มองเห็นการเอาเปรียบครูโดยการปล่อยกู้ตั้งแต่โครงการเงินกู้ชพค.2-7 ไม่ชอบมาพากล เพราะเอา "เงินกระดูก” ที่จะได้รับมาค้ำประกันคือเงินชพค. ชพส. และ MOU เอื้อประโยชน์ ธ.ออมสิน เพราะถ้าผู้กู้เบี้ยวไม่ส่งเงินก็อนุญาตให้ธนาคารหักเงินสนับสนุนพิเศษที่ธนาคารออมสิน มอบให้สกสค. ไว้จ่ายชำระหนี้แทนได้ทันที

เรียกว่า “อัฐยายกินขนมยาย” เงินฉันเอามาใช้หนี้ฉัน เท่านั้นยังไม่พอ. ขยายวงเงินกู้จาก

600,000 เป็นล้านสอง และสามล้าน เงินชพค. ชพส. ที่ค้ำไว้ไม่พอ ก็คิดหาประโยชน์โดยให้ทำประกันเป็นประกันชีวิตแต่คุ้มครองสินเชื่อ

ดอกเบี้ยปีแรกๆ ร้อยละ 5 ตอนหลังมาปรับขึ้นเป็นเกือบร้อยละ 7 ครูไม่รู้หรอกเพราะหัก ณ ที่จ่าย และเงินที่ส่งก็เป็นดอกเบี้ย 95% เป็นเงินต้นแค่ร้อยละ 5 แค่นั้น เรียกว่าครูตายเมื่อไหร่ถึงปลอดหนี้เพราะประกันจ่าย

ที่ครูกลัวกันคือ ประกันชีวิตจะครบกำหนดปีหน้าสัญญาบอกไว้ว่า ครูที่เป็นหนี้ต้องทำประกันชีวิต นี่คือผลประโยชน์ก้อนใหญ่ มีเรื่องต้องคิดมากๆ คนอายุ 75 ประกันจะรับต่อไหม เพราะเสี่ยงสูง และอีก 9 ปี อายุมากไปกว่านี้อีกประกันจะต่อหรือเปล่า

มาดูเหรียญอีกด้าน ชักดาบหนี้ออมสิน เป็น กลยุทธ์หาลูกทีมเพื่อสร้างกำลังต่อรอง ซึ่งครูส่วนใหญ่รับไม่ได้ และรู้แกว ว่า การให้ครูเลิกจ่ายหนี้เป็น 1 ใน กลยุทธ์อัพเกรดสร้างราคาให้ตัวเอง เพื่อหวังผลการเมืองให้พรรคการเมืองหันมามองว่า ตนเองสามารถสร้างการนำและควบคุมครูทั่วประเทศที่มีสมาชิกกว่า 4 แสนคน เอาไว้ในมือ

การใช้คารม และอุดมการณ์ที่ไม่จริงใจ มาใช้หลอกล่อครูกลุ่มเป้าหมาย แล้วปล่อยข่าวให้สังคมตื่นเต้นว่า สามารถนำครูและออกมาปกป้องครู โดยไม่สนว่าบ้านเมืองจะมองครูในแง่ลบหรือไม่ อย่างไร

ครั้นส่องดูกรอบยุทธศาสตร์เพื่อปลดเปลื้องภาระหนี้สินครู คือ สนับสนุนพรรคการเมืองที่มีนโยบาย ผลักดันให้รัฐปรับโครงสร้างหนี้ผู้ประกอบวิชาชีพครูอย่างเป็นธรรม ให้ได้รับเลือกตั้งมากที่สุด

มาตรการกดดันเจ้าหนี้ เริ่มตั้งแต่ อบรมทำความเข้าใจกลุ่มแม่ไก่ จังหวัดละ 3-5 คน ให้ครูที่เป็นลูกหนี้ทั่วประเทศร่วมกันแนวทางเสนอแก้ไขปัญหาหนี้สิน รวบรวมสมาชิกครูที่เดือดร้อนจากทุกจังหวัด ๆ ละ 1-300 คน เข้าชื่อส่งถึงผอ.เขต งดหักเงินเดือนส่งธนาคารออมสิน

ครูเดือดร้อนนั่นก็หนึ่งละ แต่ก็มีผู้ฉวยโอกาสความเดือดร้อนของครูตั้งแชร์ลูกโซ่ปั่นค่าตัวทางการเมืองเพื่อประโยชน์ตน รับไม่ไหวจริงๆ