กล้าขุดราก ถอนโคนนอมินี?

กล้าขุดราก  ถอนโคนนอมินี?

ถ้ารัฐบาลไทย ยังไม่เลิกเน้นจำนวน มากกว่าคุณภาพนักท่องเที่ยว อีกไม่ช้า “ภูเก็ตไข่มุกอันดามัน” จะกลายเป็นเรื่องเล่าในตำนาน

สำหรับผม ภูเก็ต” กำลังป่วยและบอบช้ำ ไม่หลงเหลือมนต์เสน่ห์ใดๆ อีกแล้ว

สาเหตุเพราะทุกฝ่ายล้วนแต่ตักตวงผลประโยชน์จากเกาะแห่งนี้

ไปภูเก็ตคราวนี้ ผมได้นั่งคุยกับทั้งคนทำทัวร์ เจ้าของเรือ คนต่อเรือ ทำให้ผมมองภาพ ภูเก็ตเป็นหญิงสาวที่บอบช้ำจากการกระทำชำเราสารพัด

เจ้าของบริษัททัวร์ บอกผมว่า บริษัททัวร์ในจ.ภูเก็ต มีมากกว่า 500 บริษัท และใครคิดว่าการปราบปรามบริษัท ทรานลี่ ทราเวล เมื่อปี 2559 จะทำให้บริษัททัวร์จีนลดน้อยลง ไม่ใช่เลย

มีคนฉกฉวยโอกาสตอนที่ปิดทรานลี่และบริษัทลูก 17 แห่ง พากันเปิดบริษัทรับทัวร์จีน ขณะที่ทรานลี่ ก็กลายร่างสู่นอมินี กลับมาเปิดบริษัทใหม่ แนบเนียนขึ้น มีระบบการจัดการโดยทนายความ ที่พูดอย่างนี้ ให้ดูจากจำนวนนักท่องเที่ยวจีน และบรรดาร้านค้าของวงจรทัวร์จีน ยังคึกคักเหมือนเดิมเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ดังนั้น บริษัททัวร์ภูเก็ตส่วนใหญ่ เวลานี้ตั้งถูกกฎหมาย ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้วทุนเป็นของคนจีน 100% นี่จึงเป็นช่องว่าง เอื้อต่อการแสวงหาผลประโยชน์ของเจ้าหน้าที่บางคน

เรือฟีนิกซ์ ที่ล่มลงสู่ก้นทะเลภูเก็ต ลึก 40 เมตร แต่มันกลับประจาน ให้คนทั่วไปได้เห็นความเป็นจริงของบริษัททัวร์ศูนย์เหรียญ บริษัทนอมินี ในภูเก็ต ว่ามันยังมีอยู่

ผมถามว่า ถ้าเรือฟีนิกซ์ ไม่ล่ม จะมีใครหน้าไหนจะลงไปตรวจสอบ ทั้งๆ ที่บริษัทเหล่านี้เปิดมา 2-3 ปีแล้ว และทำธุรกิจท่องเที่ยวแบบเดียวกับทรานลี่ ทราเวล ถ้าจะบอกว่า ตำรวจที่ภูเก็ต ไม่มีใครรู้เรื่องนี้เลย เป็นไปได้หรือไม่

หันมาเอาจริงเอาจังกันสักทีดีไหมครับ ปัญหาทัวร์จีน ไม่ใช่มาจากตัวนักท่องเที่ยว อย่างเดียว แต่มาจากผู้บังคับใช้กฎหมายไม่จริงใจ ไม่เด็ดขาด

ถ้าจะให้ผมคาดการณ์ คดีเรือฟีนิกซ์ล่มจะแก้แบบไฟไหม้ฟาง ไม่ต่างกับคดีทรานลี่ เทรเวล ผลสุดท้ายปัญหาเดิมๆ ก็วนกลับมาอีก

ไว้คราวหน้าจะเล่าปัญหาทัวร์จีน มันเกี่ยวกันอย่างไรกับเหตุเรือฟีนิกซ์ล่ม