เมื่อซอฟท์เพาเวอร์ ไม่ชนะใจคนรัสเซีย

เมื่อซอฟท์เพาเวอร์ ไม่ชนะใจคนรัสเซีย

ความปลอดภัย ความตื่นเต้น การจัดการที่ดี สิ่งเหล่านี้คือคะแนนที่ “วลาดิมีร์ ปูติน” ประธานาธิบดีรัสเซียได้รับจากการจัดฟุตบอลโลกปีนี้

แต่นักวิเคราะห์กลับเตือนว่า ผลลัพธ์จากการใช้อำนาจอ่อน หรือ “ซอฟท์เพาเวอร์” ครั้งนี้อยู่ในวงจำกัดเท่านั้น

แม้จะถูกคู่ปรับในตะวันตกเพิกเฉยเป็นประจำ แต่ปูตินก็สามารถนำทัวร์นาเมนท์ที่สร้างความสุขมาจัดในประเทศได้ ซึ่งทำให้แฟนบอลได้ชมเกมใหญ่ ๆ และจัดปาร์ตี้กันตามท้องถนน

แฟนบอลละตินอเมริกาหลายพันคนช่วยเพิ่มบรรยากาศเฉลิมฉลองในช่วงหน้าร้อนนี้ในรัสเซีย แม้แต่ทีมชาติเจ้าภาพเองที่ถือว่าเป็นรองอีกหลายชาติก็ทำให้แฟนเจ้าถิ่นมีเรื่องได้คุยโวกับเขาบ้าง และยังทำผลงานสุดเซอร์ไพรส์ด้วยการล้มทีมเต็งอย่างสเปนจนเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายไปพบกับโครเอเชียก่อนแพ้ดวลจุดโทษ เมื่อคืนที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม อังเดร โคเลสนิคอฟ ผู้เชี่ยวชาญด้านการเมืองรัสเซียแห่งศูนย์มอสโก คาร์เนกี กลับมองว่า ผลกระทบของซอฟท์เพาเวอร์จากการเป็นเจ้าภาพทัวร์นาเมนท์นี้ “ไม่มีความสำคัญ” เท่าใดนัก มีแฟนบอลจำนวนค่อนข้างน้อยจากชาติตะวันตกเดินทางมาเชียร์ทีมตัวเอง และไม่มีอะไรบ่งชี้ว่า ภาพลักษณ์ของรัสเซียในต่างประเทศดีขึ้นเลย

“กระแสรักชาติจะค่อย ๆ ลดน้อยลง และ 1 วันหลังจบทัวร์นาเมนท์ ทุกอย่างจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม”

ฟุตบอลโลกถือเป็นโอกาสของรัสเซียในการสร้างภูมิต้านทานความตึงเครียดผ่านการทูตแบบซอฟท์เพาเวอร์ หลังเผชิญวิบากกรรมกรณีนักกีฬาใช้สารกระตุ้นในการแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาวที่เมืองโซชิ เมื่อปี 2014 และเหตุรุนแรงที่เกี่ยวข้องกับแฟนบอลรัสเซียในศึกฟุตบอลยูโร 2016 

แม้จะยังมีเหตุการณ์วิวาทกันบ้าง แต่รายงานข่าวส่วนใหญ่เต็มไปด้วยบรรยากาศสีสันของการเฉลิมฉลองอย่างราบรื่น ขณะที่บรรดาแฟนบอลทีมคู่ปรับต่างโพสท่าถ่ายรูปส่งยิ้มให้กันที่จัตุรัสแดง

ในวันที่ 15 ก.ค.นี้ ผู้ชมโทรทัศน์ทั่วโลกจะได้เห็นปูตินไปนั่งชมเกมที่สนามลุซนิกี เพื่อชมนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลโลกที่หลายฝ่ายชื่นชมว่าประสบความสำเร็จ และในวันต่อมา ผู้นำหน้านิ่งจะเดินทางไปกรุงเฮลซิงกิของฟินแลนด์ เพื่อประชุมซัมมิตตัวต่อตัวกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ ในความพยายามเพื่อลดความตึงเครียด

ในช่วงที่แฟนบอลสนุกสนานกันในสัปดาห์ที่ผ่านมาและสัปดาห์ก่อนหน้า ปูตินและเจ้าหน้าที่รัสเซียคนอื่น ๆ ได้พบกับตัวแทนจากสหรัฐที่เดินทางเยือนรัสเซีย เพื่อเตร่ียมความพร้อมการซัมมิตครั้งนี้

ทั้ง 2 ฝ่ายต่างแสดงความยินดีต่อกันที่คว้าสิทธิเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก อย่างรัสเซียเป็นเจ้าภาพปีนี้ และสหรัฐจะเป็นเจ้าภาพในปี 2026 ร่วมกับเม็กซิโกและแคนาดา

แต่ดูแล้ว ปูตินคงจะทำให้ประเทศกลับสู่บรรยากาศน่าอึดอัดอีกครั้ง เมื่องานฉลองฟุตบอลโลกสิ้นสุดลง

เลฟ กุดคอฟ ผู้อำนวยการสำนักสำรวจความคิดเห็นอิสระ “เลวาดา” บอกกับสำนักข่าวเอเอฟพีว่า มีประชาชนที่ไม่พอใจเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ในรัสเซีย

“ทุกอย่างที่เกี่ยวกับทัวร์นาเมนท์นี้ได้รับการตอบรับเชิงบวก แต่ไม่ได้ส่งผลต่อชีวิตจริงของคนที่นี่ มันเป็นผลกระทบจากสื่อล้วน ๆ”

ก่อนมีปาร์ตี้ฉลองในกรุงมอสโกและเมืองอื่น ๆ หลังรัสเซียล้มยักษ์สเปนได้เมื่อวันที่ 1 ก.ค. มีฝูงชนจำนวนหนึ่งออกมาเดินขบวนด้วยความไม่พอใจ เรียกร้องให้ทางการปฏิรูประบบบำนาญ เพราะกลัวว่า มาตรการนี้ที่ประกาศในช่วงแรก ๆ ที่ฟุตบอลโลกเริ่มแข่ง จะทำให้พวกเขาประสบความยากลำบากในช่วงบั้นปลายของชีวิต

รัสเซียจะปรับเกณฑ์อายุผู้รับบำนาญเป็นครั้งแรกในรอบ 80 ปี โดยจะปรับเพิ่มอีก 8 ปี เป็น 63 ปีสำหรับผู้หญิง และเพิ่มอีก 5 ปีเป็น 65 ปีสำหรับผู้ชาย ซึ่งน้อยกว่าอายุขัยเฉลี่ยของประชากรชายเพียง 2 ปี

มิหนำซ้ำ คุณภาพชีวิตโดยรวมของชาวรัสเซียยังลดลงในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา นับตั้งแต่ชาติตะวันตกออกมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียกรณีผนวกดินแดนคาบสมุทรไครเมีย

แม้จะอยู่ในบรรยากาศคึกคักช่วงฟุตบอลโลก แต่ผลสำรวจความเห็นชาวรัสเซียของเลวาดาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว พบว่า 48% ของผู้ตอบบอกว่ายังไว้วางใจปูติน ลดลง 12% ภายใน 1 เดือนครึ่งเท่านั้น

ขณะที่ผลสำรวจของสถาบันวิจัยที่อยู่ในการควบคุมของรัฐบาลรัสเซีย เมื่อเดือนมิ.ย. บ่งชี้ว่า ความนิยมของปูตินลดลง 14% ใน 3 สัปดาห์ มาอยู่ที่ 64%

โคเลสนิคอฟ บอกว่า นี่เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่คะแนนความนิยมของผู้นำประเทศลดลง

“ปกติแล้ว ปูตินจะลอยตัวเหนือทุกอย่าง แต่ตอนนี้ความนิยมของเขากำลังดิ่งลงแล้ว”