เหลียวหนิง: ประตูสู่เกาหลีเหนือ

เหลียวหนิง: ประตูสู่เกาหลีเหนือ

มณฑลเหลียวหนิง นับเป็นมณฑลที่สร้างปัญหาหนักใจให้รัฐบาลจีนเพราะเป็นมณฑลอุตสาหกรรมหนักและเหมืองแร่ จึงประสบปัญหา

จากนโยบายสิ่งแวดล้อมที่เคร่งครัดของรัฐบาลจีน รวมทั้งปัญหาการผลิตส่วนเกินของภาคอุตสาหกรรมหนัก ทำให้ไม่สามารถขยายกำลังการผลิตเพิ่มได้อีก เศรษฐกิจเหลียวหนิงจึงติดหล่ม โดยโตเพียง 4.2% เมื่อปีที่แล้ว ในขณะที่อัตราการเติบโตเฉลี่ยของจีนอยู่ที่ 6.9%

แต่ในวันนี้ เหลียวหนิงมีความหวังใหม่แล้ว นั่นก็คือ เกาหลีเหนือ!!

หากเกาหลีเหนือเปิดประเทศ มณฑลจีนที่น่าจะได้รับประโยชน์ทางเศรษฐกิจมากที่สุดย่อมต้องเป็นมณฑลเหลียวหนิง ซึ่งมีชายแดนทอดยาวติดกับเกาหลีเหนือ

ประเทศจีนนั้นภายในมี ยุทธศาสตร์หันเข้า ด้วยการสร้างและเชื่อมโยงคลัสเตอร์เมืองภายใน เช่น คลัสเตอร์เมืองปักกิ่ง – เทียนจิน – เหอเป่ย หรือคลัสเตอร์เมืองสำคัญทางเศรษฐกิจในลุ่มแม่น้ำแยงซีเกียง ส่วนมณฑลชายแดนของจีนก็มี ยุทธศาสตร์หันออก ได้แก่ ยุทธศาสตร์ One Belt One Road ซึ่งเชื่อมซินเจียงเข้ากับเอเชียกลาง และเชื่อมมณฑลทางตอนใต้เข้ากับอาเซียน

ถ้าเกาหลีเหนือเปิดประเทศจริง เราก็จะเห็น “ยุทธศาสตร์หันออก” ของมณฑลเหลียวหนิง ซึ่งย่อมจะดึงดูดการลงทุนและสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจรอบใหม่ด้วยการวางบทบาทเป็น ประตูสู่เกาหลีเหนือ

ในช่วงที่ผ่านมา ความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลีได้ลดระดับลงอย่างรวดเร็ว ภายหลังการพบกันระหว่างประธานาธิบดีทรัมป์ของสหรัฐฯ และคิมจองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือที่สิงคโปร์ เมื่อเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา นอกจากนั้น คิม จองอึนยังได้เดินทางมาพบกับสี จิ้นผิง หลังจากที่ประชุมกับทรัมป์เสร็จ โดยเป็นการพบกันครั้งที่ 3 ระหว่างผู้นำจีนและเกาหลีเหนือ โดย สี จิ้นผิงได้พาคิมจองอึนไปดูงานการพัฒนาการเกษตรและการพัฒนาเศรษฐกิจของจีน พร้อมส่งสัญญาณว่าจีนพร้อมเป็นพี่เลี้ยงหากเกาหลีเหนือจะหันมาเปิดประเทศแบบที่จีนได้เคยทำเมื่อ 40 ปีที่แล้ว

ในช่วงเดียวกับที่ประธานาธิบดี “สี จิ้นผิง” พบกับ “คิม จองอึน” ที่ปักกิ่ง ได้มีการจัดเวทีดึงดูดนักลงทุนครั้งใหญ่ที่เมืองเสิ่นหยาง ซึ่งเป็นเมืองเอกของมณฑลเหลียวหนิง โดยมีนักลงทุนจากทั่วโลกให้ความสนใจเข้าร่วมศึกษาโอกาสทางธุรกิจอย่างคับคั่ง และหัวข้อหนึ่งที่เริ่มเป็นที่กล่าวถึงในการประชุมก็คือ การมองเหลียวหนิงเป็นฐานและประตูเตรียมบุกตลาดเกาหลีเหนือในอนาคต

เกาหลีเหนือมีศักยภาพที่จะเติบโตเศรษฐกิจได้อย่างรวดเร็ว เพราะเริ่มต้นพัฒนาจากจุดที่ต่ำ นอกจากนั้น ยังเป็นตลาดผู้บริโภคขนาดใหญ่ 25 ล้านคน และยังมีทรัพยากรธรรมชาติอุดมสมบูรณ์

ตอนนี้เริ่มมีกระแสความคาดหมายว่าเกาหลีเหนือน่าจะเปิดประเทศในเร็ววันนี้ ราคาอสังหาริมทรัพย์ในเมืองตานตง ซึ่งเป็นเมืองชายแดนในมณฑลเหลียวหนิงซึ่งติดกับเกาหลีเหนือ กำลังพุ่งไม่หยุด นับตั้งแต่เดือนมี.ค.ที่เริ่มมีข่าวว่าทรัมป์กับคิมจะพบกัน 

นอกจากมณฑลเหลียวหนิงแล้ว หากเกาหลีเหนือเปิดประเทศจริง มณฑลใกล้เคียงในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีน ซึ่งได้แก่ มณฑลจี๋หลินและมณฑลเฮยหลงเจียง ก็จะได้ประโยชน์ด้วย ทั้ง 3 มณฑลในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีประชากรรวมกันมากกว่า 120 ล้านคน และมีขนาดใหญ่เท่าประเทศฝรั่งเศสและประเทศอังกฤษรวมกัน

ตอนนี้รัฐบาลมณฑลเหลียวหนิงพยายามจัดแพคเกจดึงดูดนักลงทุนต่างชาติ โดยให้สิทธิประโยชน์ด้านภาษี รวมทั้งให้การอุดหนุนพิเศษแก่อุตสาหกรรมการผลิตวัสดุชั้นสูง เน้นดึงดูดการลงทุนของบริษัทใน Fortune 500 แต่ที่ผ่านมายังไม่ค่อยประสบความสำเร็จเท่าที่ควร นักวิเคราะห์หลายคนในจีนเชื่อว่า หากสถานการณ์ในเกาหลีเหนือมีเสถียรภาพชัดเจนขึ้น โอกาสที่เหลียวหนิงจะดึงดูดนักลงทุนรายใหญ่ของต่างชาติก็จะเพิ่มมากขึ้นด้วย

เสิ่นหยาง เมืองเอกของมณฑลเหลียวหนิง เป็นที่ตั้งของสถานกงสุลสหรัฐฯ รัสเซีย เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และเกาหลีเหนือ ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นผู้เล่นสำคัญในคาบสมุทรเกาหลี ดังนั้น เสิ่นหยางจึงเป็นเมืองยุทธศาสตร์ที่หลายบริษัทย่อมสนใจจะมาตั้งกิจการเพื่อเตรียมพร้อมรุกเกาหลีเหนือ ไม่ใช่เพียงบริษัทตะวันตกเท่านั้น แต่รวมทั้งบริษัทของเกาหลีใต้ และญี่ปุ่นด้วย

นอกจากนั้น ตอนนี้ยังมีการพูดถึงความเป็นไปได้ที่จะมีการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานเพื่อเชื่อมโยงเกาหลีเหนือเข้ากับมณฑลเหลียวหนิง เพื่อประโยชน์ทางเศรษฐกิจในอนาคต เช่น ในขณะนี้ มีสะพานข้ามแม่น้ำจากเมืองตานตงเข้าสู่เกาหลีเหนือ แต่ทางฝั่งเกาหลีเหนือ ยังไม่มีถนนเชื่อมกับสะพานจากฝั่งจีน

เพิ่งเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา มีข่าวว่าคิม จองอึนได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมโรงงานน้ำตาลและโรงงานเครื่องสำอางที่อยู่ใกล้ชายแดนจีน โดยข่าวทางการของเกาหลีเหนือบอกว่าคิม จองอึนมีความประสงค์จะส่งเสริมความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจระหว่างเกาหลีเหนือและเมืองชายแดนของจีน นับว่าเป็นครั้งแรกที่คิมจองอึนได้เดินทางมาเยือนพื้นที่ชายแดนของเกาหลีเหนือที่ติดกับจีน และเหมือนเป็นการส่งสัญญาณว่าคิมจองอึนเริ่มให้ความสนใจกับการพัฒนาเศรษฐกิจด้วย

แน่นอนครับว่า เรายังต้องติดตามดูทิศทางของเกาหลีเหนืออย่างใกล้ชิด คำถามสำคัญ 2 ข้อ ก็คือ เกาหลีเหนือตั้งใจจริงที่จะเลิกพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ตามที่ตกลงกับทรัมป์หรือไม่ และเกาหลีเหนือมีความตั้งใจจริงที่จะเปิดประเทศและพัฒนาเศรษฐกิจจริงหรือไม่ อนาคตของมณฑลเหลียวหนิงเองก็ย่อมขึ้นอยู่กับคำตอบของคำถาม เหล่านี้ครับ