ฟุตบอลโลก 2018 หนุนโรงแรมรัสเซีย ‘บูม’

ฟุตบอลโลก 2018 หนุนโรงแรมรัสเซีย ‘บูม’

ใครที่คิดว่าฟุตบอลโลกปีนี้ไม่เกิดประโยชน์กับเจ้าภาพรัสเซีย อาจต้องคิดใหม่เสียแล้ว

ก่อนหน้านี้ หลายคนคงได้เห็นการคาดการณ์จากหลายสำนักที่บอกว่า ฟุตบอลโลกปีนี้อาจหนุนเศรษฐกิจรัสเซียได้ไม่มากนัก แต่สำหรับธุรกิจโรงแรมแล้ว อาจเป็นเรื่องตรงกันข้าม

“โฮเทล อนาลิสต์” บริษัทวิเคราะห์ธุรกิจโรงแรมในอังกฤษ คาดว่า โรงแรมในกรุงมอสโก เมืองเจ้าภาพฟุตบอลโลก 2018 จะมีรายได้เฉลี่ยต่อห้องที่มีทั้งหมดเติบโต 20-30% ในช่วงการแข่งขัน 1 เดือนเต็ม ซึ่งถือเป็นอัตราการเติบโตที่สวยหรู แต่ก็ยังน้อยกว่าเมืองเจ้าภาพฟุตบอลโลก 2 ครั้งก่อน

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เมืองหลวงรัสเซียเป็นกลายเป็นทำเลที่ดีที่สุดสำหรับธุรกิจโรงแรม โดยมีบรรดาแบรนด์ต่างประเทศเข้ามาดำเนินการอย่างต่อเนื่อง

“เอสทีอาร์” บริษัทด้านข้อมูลโรงแรมในสหรัฐ รายงานว่า อัตราการเข้าพักโรงแรมในกรุงมอสโกมีแนวโน้มเติบโต 8-10% มาอยู่ที่เกือบ 80% ในช่วงเดือนฟุตบอลโลก ด้วยอัตราเพิ่มขึ้นเฉลี่ยวันละ 15-20% และตลอด 4 เดือนแรกของปีนี้ กรุงมอสโกมีอัตราเข้าพักเติบโต 6.7% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว มาอยู่ที่ 65.8%

เทียบกับนครรีโอเดจาเนโรของบราซิล เจ้าภาพเมื่อปี 2014 มีอัตราเข้าพักโรงแรมเพิ่มขึ้น 12.6% จากปีก่อนหน้า มาอยู่ที่ 81.6% ในเดือนมิ.ย. และ 18.3% มาอยู่ที่ 80% ในเดือนก.ค. ปีเดียวกัน ขณะที่รายได้เฉลี่ยต่อห้องที่ขายได้ต่อวัน เพิ่มขึ้น 72.8% และ 64.4% ในช่วง 2 เดือนนี้ตามลำดับ ทำให้รายได้เฉลี่ยต่อห้องที่มีทั้งหมดเพิ่มขึ้น 94.5%

นครโยฮันเนสเบิร์กของแอฟริกาใต้ เจ้าภาพฟุตบอลโลกเมื่อปี 2010 มีอัตราเข้าพักโรงแรมเพิ่มขึ้น 27.7% มาอยู่ที่ 78.5% ในเดือนมิ.ย. และเติบโต 7.4% มาอยู่ที่ 63.7% ในเดือนก.ค. ส่วนรายได้เฉลี่ยต่อห้องที่ขายได้ต่อวัน เพิ่มขึ้น 56.3% และ 44.5% ในช่วง 2 เดือนนี้ ส่งผลให้รายได้เฉลี่ยต่อห้องที่มีทั้งหมดเพิ่มขึ้น 99.6% และ 55.1%

“เมื่อจำนวนห้องพักโรงแรมในตลาดขยายตัวล่วงหน้าเพื่อรองรับอีเวนท์สำคัญจึงต้องเวลากว่าที่ความต้องการจะตามจำนวนห้องพักที่เพิ่มขึ้นได้ทัน” โธมัส เอมมานูเอล ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจของเอสทีอาร์กล่าว และบอกว่า หนึ่งในแรงจูงใจหลักสำหรับเมืองต่าง ๆ ในการเป็นเจ้าภาพอีเวนท์เหล่านี้ คือโอกาสอันชัดเจนที่พวกเขาจะได้ประโยชน์จากการท่องเที่ยว

เอมมานูเอล เสริมว่า ในกรณีของกรุงมอสโก มีรายได้เฉลี่ยต่อห้องที่มีทั้งหมดเติบโตมาตั้งแต่ปี 2015 และอัตราการเข้าพักยังเพิ่มขึ้น 6.7% ในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ ดังนั้น ความต้องและอัตราต่าง ๆ จึงเติบโตอย่างต่อเนื่อง

“เมื่อเทียบกับตลาดเจ้าภาพฟุตบอลโลกครั้งก่อน ๆ พบว่า กรุงมอสโกมีจำนวนห้องโรงแรมสูงกว่านครรีโอเดจาเนโรและนครโยฮันเนสเบิร์กอยู่มาก เราจึงอาจเห็นความเปลี่ยนแปลงแบบฉับพลันน้อยลงหลังจากจบทัวร์นาเมนท์นี้แล้ว”

ข้อมูลจากบริษัทวิจัย “เจแอลแอล” ในรัสเซีย ระบุว่า กรุงมอสโกได้รับความสนใจอย่างล้นหลามจากแบรนด์โรงแรมต่าง ๆ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยมีห้องพักใหม่เพิ่มขึ้น 5,500 ห้องนับตั้งแต่ปี 2014

“รัสเซียพร้อมที่จะมีห้องพักโรงแรมเพิ่ม โรงแรมในรัสเซียมีการเติบโตสวยหรูตั้งแต่ก่อนที่ประเทศจะได้สิทธิเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก 2018 แล้ว” ทาเทียนา เวลเลอร์ หัวหน้ากลุ่มการโรงแรมและบริการของเจแอลแอล รัสเซีย แอนด์ ซีไอเอส กล่าว

บริษัทวิจัย “อีวาย” เผยผลวิจัยตลาดประจำปีเกี่ยวกับการดำเนินการของแบรนด์โรงแรมต่างชาติในรัสเซีย พบว่า นับถึงเดือนต.ค. 2560 มีโรงแรม 179 รายอยู่ในการบริหารของต่างชาติในประเทศ และมีห้องพักรวมทั้งหมด 38,705 ห้อง

ห้องพักโรงแรมกว่าครึ่งหนึ่งกระจุกอยู่ในกรุงมอสโกและเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก (52%) ตามมาด้วยโซชิ (11%) ภูมิภาคมอสโก (6%) เยคาเตรินเบิร์ก (3%) และพื้นที่อื่น ๆ

อีวาย ระบุว่า 80% ของส่วนแบ่งตลาดโรงแรมในรัสเซียขณะนี้อยู่ในมือของเชนโรงแรม 5 ราย ได้แก่ “แอคคอร์โฮเทลส์” “ฮิลตัน” “แมริออท อินเตอร์เนชันแนล” “คาร์ลสัน เรซิดอร์ โฮเทล กรุ๊ป” และ “อินเตอร์คอนติเนนตัล โฮเทล กรุ๊ป” โดยผู้นำตลาดคือ คาร์ลสัน เรซิดอร์ที่ครองส่วนแบ่ง 25%

นอกจากนั้นยังคาดว่า ภายในปี 2022 จำนวนโรงแรมภายใต้การบริหารของต่างชาติจะเพิ่มขึ้น 102 แห่ง (20,249 ห้อง)