“พท.”บนหนทาง ที่ไม่ราบรื่น

“พท.”บนหนทาง  ที่ไม่ราบรื่น

ผลการหารือระหว่างรองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ กับ ผู้แทนพรรคการเมือง 79 พรรค เมื่อวานนี้ (25 มิ.ย.)

เป็นการชิมลางก่อนจะไปสู่การเลือกตั้งปีหน้า

พล.อ. ประวิตร บอกกับผู้แทนพรรคว่า ให้ทุกพรรคการเมือง เตรียมเดินหน้าหาเสียงเลือกตั้ง เมื่อปลดล็อกแล้ว สามารถหาเสียงได้ทันที

แล้ววันไหนคือวันปลดล็อก พล.อ.ประวิตร แง้มๆ มาว่า อยู่ในห้วงเวลา 3 เดือน หรือ 90 วัน เพียงพอให้แต่ละพรรคการเมืองเตรียมตัวทันก่อนการเลือกตั้ง

ส่วนจะเริ่มนับ 1 ไปถึง 90 วันไหน กระบวนการจะต้องรอพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และ ส.ว. ประกาศในราชกิจจานุเบกษา วันถัดไปนั่นแหล่ะให้นับ 1 แล้วรอไปอีก 90 วัน จึงมีผลบังคับใช้ และต้องรอกระบวนการอีก 150 วัน จึงจะจัดให้มีการเลือกตั้งได้

ระหว่าง วันที่ 1-90 คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะแบ่งเขตเลือกตั้งก่อนใน 60 วันแรก จากนั้นวันที่ 31-90 เป็นกระบวนการถามความคิดเห็นพรรคการเมือง และประชาชนในเขตนั้นๆ ซึ่งเป็นไปตามมาตรา 27 ของร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และส.ว.

ส่วนข้อเสนอจากผู้แทนพรรคการเมือง ให้ยกเลิกคำสั่ง คสช. ที่ 53/2560 ส่วนใหญ่เสนอให้ปลดล็อกการเมือง และงดทำไพรมารีโหวต ทว่า เสียงส่วนน้อยให้คงไพรมารีโหวตไว้

พอเริ่มจะเห็นเค้าการเลือกตั้งตามที่พรรคการเมืองอยากจะเห็น จากนี้ไปอยู่ที่การถอดสมการเพื่อมุ่งไปสู่สนามเลือกตั้ง ผมเชื่อว่า นักการเมืองสามารถปรับตัวรับกับสภาพการณ์ และวิธีการที่เปลี่ยนไปได้ไม่ยาก

ถึงกระนั้น ในสภาวการณ์ที่ดำเนินไปนี้ พรรคเพื่อไทย อาจจะต้องเตรียมตัวชี้แจง กกต.อีกทางหนึ่งด้วย กรณีที่กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 27 และ 29 ห้ามมิให้บุคคลที่ไม่ใช่สมาชิกพรรค มาครอบงำ สั่งการได้ เพราะเมื่อปรากฏหลักฐานคลิปวีดิโอคอล ของนายทักษิณ ชินวัตร นักโทษหลบหนีหมายจับศาลฎีกานักการเมือง ถึง 3 หมาย พูดในทำนอง จะจัดการคัดเลือกคนรุ่นใหม่แทนอดีตส.ส.ที่ย้ายพรรคออกไป

การออกมาเช่นนี้ โจ่งแจ้งแค่ไหน กกต.ตั้งอนุกรรมการศึกษาเนื้อหาคำพูด กับประเด็นข้อกฎหมาย ถ้ากกต.ชี้ว่าผิด โทษหนักถึงยุบพรรค เลยทีเดียว

วิเคราะห์ต่อไปว่า ถ้ากกต.ชี้ว่าผิด จะยุบพรรคก่อนหรือหลังการเลือกตั้ง คำตอบคงจะออกมาในไม่ช้านี้