วลีเขย่าใจ

วลีเขย่าใจ

ท่านผู้อ่านเป็นเหมือนผู้เขียนไหมครับ เมื่อได้ยินบางวลีหรือประโยคแล้วมันเขย่าใจ ให้คิด วันนี้ขอเอามาแบ่งปันกันเพื่อเป็นอาหารสมองและนำไปใช้ต่อ

สิ่งที่ทำให้“ตาสว่าง”หรือ“เขย่าใจ”ให้คิดนั้นแบ่งออกได้ดังนี้ (1)ความคิด (2)ประสบการณ์ (3)วลีหรือประโยค

ความคิดของคนบางคนกระทบใจเช่น ไอเดียที่ตูนบอดี้สแลมวิ่งเป็นพันกิโลเมตรเพื่อหาเงินช่วยโรงพยาบาลหรือความคิดว่าบุคลิกลักษณะ(character)ของมนุษย์เป็นตัวกำหนดชะตากรรม(destiny)หรือ การมีกิริยามารยาท มีความสุภาพให้เกียรติคนอื่น(civility)เป็นปัจจัยสำคัญหนึ่งของความสำเร็จในชีวิต

ประสบการณ์ที่เราพานพบก็เขย่าใจเช่นกัน เช่นรับทราบเรื่องคนขาดแขนขาดขาสู้ชีวิตแบบยิบตาหรือแม่คนเดียวกัดฟันเลี้ยงลูกจนได้ดีหรือ เรื่องราวของคนที่มีวินัยสูงในการดูแลชีวิตตนเอง

เรื่องสำคัญที่จะกล่าวถึงก็คือวลีหรือประโยคที่เขย่าใจ ขอตั้งโจทย์ดังนี้ วลีหรือประโยคใดที่ทำให้ตาสว่างหรือเขย่าใจที่สุดที่คุณเคยได้ยิน ซึ่งผู้เขียนรวบรวมมาได้ดังต่อไปนี้

  • “คุณต้องการอะไรในชีวิต”(นักจิตวิทยาชอบพูดประโยคนี้เพราะมันสามารถวิเคราะห์บุคลิกได้ สิ่งใดขับเคลื่อนชีวิตของเราในขั้นพื้นฐาน เงินทอง อำนาจ ชื่อเสียง การอยู่รอด ความสุข การต้องการความมั่นคงฯลฯ
  • “เมื่อคุณมีชีวิตเหลืออีก.......เปอร์เซ็นต์ คุณจะทำอะไรกับมัน” (หากใช้อายุขัยเฉลี่ยเป็นเกณฑ์ก็พอคำนวณได้ หากตายไปก่อนก็ยิ่งมีเปอร์เซ็นต์เหลือน้อยลงไปอีก)
  • “เมื่อตายไปแล้วคุณอยากให้คนนึกถึงคุณว่าอย่างไร” (ไม่ว่าจะเป็นคนเดินดินหรือคนมีชื่อเสียงที่เหาะได้ล้วนมีครอบครัวลูกหลานและคนรู้จักด้วยกันทั้งนั้นที่ต้องนึกถึงว่าจะให้เขานึกถึงเราอย่างไร)
  • “คนทุกคนจะถูกลืม” (ความจริงที่ทุกคนปฏิเสธไม่ได้)
  • “เมื่อคุณมีชีวิตเดียว คุณจะทำอย่างไรให้ชีวิตคุณมีความหมาย”
  • “คุณภูมิใจอะไรที่สุดในชีวิต” (บางคนอาจนึกถึงรูปธรรมเช่นความ มั่งคั่ง ปริญญาหรือความรู้ที่มี ตำแหน่ง ยศถาบรรดาศักดิ์ แต่ยังมีอีกฟากของนามธรรมที่ควรใคร่ครวญ)
  • “ถ้าต้องตายในเวลาสองเดือน คุณจะทำอะไรกับเวลาที่เหลือ”
  • “คุณจะใช้หนี้โลก(และ“แผ่นดิน”)ในห้วงเวลาที่เหลืออย่างไร”
  • “วันนี้(อาทิตย์นี้)คุณได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆบ้างโดยเฉพาะจากชีวิตคนอื่น” (ผมชอบคำอวยพรให้พบเรื่องราวดีๆที่เป็นกำลังใจให้ชีวิตเพราะทุกผู้ทุกนามล้วนต้องการกำลังใจด้วยกันทั้งนั้น มากบ้างน้อยบ้างตามสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นในชีวิตในช่วงเวลาต่างๆกัน)
  • “ชีวิตดำเนินต่อไปเสมอ” (ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ไม่ว่าคุณสูญเสียอะไร ทุกชีวิตก็ดำเนินต่อไปข้างหน้าด้วยกันทั้งสิ้น มนุษย์ทุกคนต้องดำรงชีวิตต่อไปตามเวลาที่ไม่มีวันหยุด
  • “คุณบริโภคทรัพยากรของโลกมาก็มากมายแล้วคิดจะชดใช้มันอย่างไรบ้าง”
  • “วันนี้คุณได้ทำอะไรให้คนอื่นได้ชื่นใจบ้าง”
  • “หากย้อนเวลากลับไปได้ สิ่งสำคัญที่สุดที่คุณจะทำมันใหม่คืออะไร”
  • “หากต้องตายวันพรุ่งนี้ อะไรเป็นคำสอนที่คุณจะทิ้งไว้ให้คนรุ่นหลัง” (คุณมีประสบการณ์ มีปัญญา ได้เรียนรู้ชีวิตมาก็มาก ดังนั้นย่อมมีอะไรในใจที่จะทิ้งไว้ให้เป็นประโยชน์แก่คนรุ่นต่อๆไปอย่างแน่นอน)
  • “ชีวิตคือการถูกสุ่มเลือก(life is random)” (เรากำหนดชะตาชีวิตตัวเองได้ในระดับหนึ่งเท่านั้น อีกส่วนหนึ่งถูก“สุ่มเลือก”โดยสิ่งใดก็อธิบายไม่ได้ เช่น “ถูกสุ่มเลือก” ให้เสียชีวิตในวัยอันไม่สมควร ให้เจ็บไข้ ให้ถูกล็อกเตอรี่ ให้ถูกภัยพิบัติ ฯลฯ)
  • “อย่าให้ความสำคัญแก่เรื่องความรัก(แบบหนุ่มสาว)จนเกินควร” (คนบางคนหมกมุ่นกับเรื่องการต้องมีความรัก ต้องมีคนรักจนเสียงานเสียการและชีวิตไม่รุ่งอย่างที่สมควรจะรุ่ง)
  • “ทุกการเดินทางที่ยาวไกล เริ่มต้นด้วยก้าวแรกเสมอ”
  • “การเปลี่ยนแปลงเป็นนิรันดร์”
  • “จงอยู่กินต่ำกว่าฐานะเสมอ” (มีรายได้พอจะอยู่กินตามฐานะของการมีเงินระดับนั้น แต่อยู่กินต่ำกว่านั้นเพื่อจะได้มีเงินออม)
  • “การลงทุนที่สำคัญที่สุดคือการลงทุนในตัวเอง”
  • “โลกนี้ไม่มีอะไรฟรี”(ทุกอย่างล้วนได้มาจากการต้องเอาบางสิ่งไปแลกเปลี่ยนมาทั้งสิ้น อยากมีชีวิตที่มีความสุขก็ต้องยอมอดทนไม่ทำบางสิ่งและต้องทำบางสิ่ง)

มนุษย์ไม่ได้มีชีวิตที่มีความสุขเพราะบริโภคอาหารแต่เพียงอย่างเดียวประกอบกับนำ้ไม่ได้ฉันใดเราก็ขาด “อาหารสมอง”ไม่ได้ฉันนั้น