สูตรสามมิตร ดูด “ยกตระกูล”

กระแสข่าวดังกล่าว สร้างความหวั่นไหวให้กองเชียร์ลุงตู่ เพราะกลัวสู้คู่แข่งอย่างพรรคเพื่อไทยไม่ได้

ในที่สุด “สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” และ “สมศักดิ์ เทพสุทิน” จึงต้องเปิดหน้าลุยอีสาน ยกแรกคว้าตระกูล “เร่งสมบูรณ์สุข” แห่งเมืองเลยมาสวมเสื้อพลังประชารัฐสำเร็จ

กว่า 3 ทศวรรษที่ตระกูล “เร่งสมบูรณ์สุข” ผูกขาดการเป็น ส.ส.เลย โดย “ปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข” เป็น ส.ส. 9 สมัย และสวมเสื้อหลายตัวจากสหประชาธิปไตย, กิจสังคม, เสรีธรรม, ไทยรักไทย, พลังประชาชน และเพื่อไทย

ฐานเสียงสำคัญของปรีชาอยู่ที่ อ.วังสะพุง เนื่องจากต้นตระกูลเร่งสมบูรณ์สุข ทำธุรกิจรับซื้อพืชไร่และเป็นรายใหญ่ที่สุด แต่ส่วนปรีชาทำธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง

ส่วนสถานีต่อไปของขบวนรถไฟสาย “สามมิตร” จะจอดที่สถานีนครราชสีมา เพราะมีเป้าหมายอยู่ที่ตระกูล “รัตนเศรษฐ”

“วิรัช รัตนเศรษฐ์” เป็นบุตรของไพบูลย์ รัตนเศรษฐ แห่งบริษัทนครราชสีมาทำไม้ ซึ่งเวลานั้น กลุ่มทุนทำไม้ในภาคอีสาน มีอยู่ไม่กี่ตระกูล

50 กว่าปีที่แล้ว “ไพบูลย์” คหบดีที่ได้สัมปทานทำไม้ในพื้นที่นครราชสีมา ย่อมเป็นที่รู้จักของคนโคราช และสนิทชิดเชื้อกับกลุ่มการเมืองซอยราชครู โดยเฉพาะ พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ

เมื่อ พล.อ.ชาติชาย ก่อตั้งพรรคชาติไทย ในปี 2517 “เสี่ยไพบูลย์” ก็เป็นกลุ่มทุนในท้องถิ่นที่สนับสนุนพรรคของกลุ่มราชครู จนกระทั่งเลือกตั้ง 2529 “วิรัช” ได้ลงสมัคร ส.ส.ครั้งแรก โดยมี กร ทัพพะรังสี เป็นพี่เลี้ยง

หลังเป็น ส.ส.สมัยแรก วิรัชก็ปักหลักอยู่กับพรรคชาติไทย ไม่ได้ย้ายหนีไปไหน แม้ว่า พล.อ.ชาติชาย จะแยกตัวออกไปตั้งพรรคชาติพัฒนา แต่วิรัชยังเป็น “แม่ทัพโคราช” ให้กับบรรหาร ศิลปอาชา

เลือกตั้ง 2548 วิรัชย้ายมาสังกัดพรรคมหาชน โดยการชักชวนของ “เสธ.หนั่น” พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ และเลือกตั้ง 2550 วิรัชพาภรรยามาสังกัดพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา

การเลือกตั้งทั้งสองครั้งข้างต้น วิรัชและภรรยา ต้องสู้กับผู้สมัครจากพรรคไทยรักไทย และพรรคพลังประชาชน แต่ก็ชนะ

เลือกตั้ง 2554 เป็นครั้งแรกที่วิรัชมาร่วมงานกับพรรคการเมืองของ “ทักษิณ ชินวัตร” พร้อมกับได้เป็น ส.ส. ทั้งพ่อ แม่ และลูก

ตระกูลเร่งสมบูรณ์สุข และรัตนเศรษฐ ล้วนเป็นนักเลือกตั้ง “ฐานแน่น” ไม่ได้เข้าสภาเพราะกระแสพัดพาเข้ามา

ด้วยเหตุนี้ จึงตกเป็นเป้าหมายสำคัญของกลุ่มสามมิตร..เท่าไหร่เท่ากัน ต้องดูดมาให้ได้