Big Data (กำลัง) มาหานะเธอ

Big Data (กำลัง) มาหานะเธอ

ช่วงปีที่ผ่านมา ไม่ใช่แค่วงการไอทีเท่านั้นนะครับที่ต่างพากันโจษจัน กล่าวขวัญถึงเรื่องของ “Big Data”

ในแวดวงโฆษณาดิจิทัลนั้น ก็ถือได้ว่าตื่นตัวในเรื่องนี้ไม่แพ้กันเลยทีเดียว !

เหตุผลหลัก ๆ ที่ตื่นตัว ตื่นเต้น ปนตื่นตูมเล็ก ๆ ก็เพราะว่า ถ้าเกิดว่า วงการโฆษณาสามารถนำเทคโนโลยี Big Data มาใช้งานได้จริง ๆ มันอาจจะเกิดปรากฏการณ์ พลิกฟ้าปฐพี เปลี่ยนรูปแบบการสื่อสารโฆษณาที่มีมาในอดีตเกือบทั้งหมด จากเดิมที ที่อยู่ในรูปแบบของ Mass Communication ไปสู่รูปแบบของ One to One Communication !

บางคนอาจจะงง ๆ ว่า One to One Communication ในงานโฆษณา มันคืออีหยังหว่า ? อธิบายแบบง่าย ๆ ครับ คือ โฆษณาที่จะปรากฏขึ้นให้พวกเรารับชมนั้น แต่ละคนจะได้รับข้อความโฆษณาไม่เหมือนกัน เช่น ภรรยาสุดที่รักของผมเข้าเว็บไซต์ A เธออาจจะเห็นโฆษณากระเป๋าแบรนด์เนมที่เธอชื่นชอบ แต่ผมเข้าเว็บไซต์ A เว็บเดียวกันกับภรรยา โฆษณากลับขึ้นเป็น ของเล่นหุ่นยนต์ที่ผมสะสม ! แน่นอนครับ ถ้าเป็นคนอื่น ๆ เข้า โฆษณาก็จะเปลี่ยนไปตามบุคคลนั้น ๆ ตามการวิเคราะห์ข้อมูลจาก “Big Data” ที่เก็บรวบรวมข้อมูลทุกอย่างของพวกเราเอาไว้

ณ ขณะนี้ เราอาจจะเริ่มเห็นโฆษณาทำนองนี้กันแล้วนะครับ อาจจะเป็นโฆษณาของ Google หรือ Facebook ที่เหมือนว่าโฆษณาของเว็บไซต์ที่เราเคยเข้าชม มันจะตามหลอกหลอนเราไปเรื่อย ๆ ทุกที่ ไม่ว่าเราจะเยี่ยมชมเว็บไซต์ไหนก็ตาม พลอยให้เราคิดไปว่า ไอ้เว็บเจ้านี้นี่มันเงินเยอะจริง ๆ ลงโฆษณามันทุกที่ ไปเว็บไหนก็เจอไปเสียหมด

จริง ๆ โฆษณาของ Google หรือ Facebook แบบนี้ เรียกว่า โฆษณาแบบ Re-Marketing ครับ ถือเป็น One to One Marketing รูปแบบหนึ่ง แต่ยังไม่ได้ใช้เทคโนโลยี Big Data แบบสมบูรณ์แบบ โฆษณาแบบนี้ ใช้วิธีแอบฝัง Cookies ลงไปในคอมของพวกเรา เพื่อเป็นหลักฐานว่าเราเคยไปเยี่ยมชมเว็บไซต์ไหนมาบ้างแล้ว จากนั้น พื้นที่โฆษณาในเว็บอื่น ๆ ที่อยู่ในเครือข่าย ก็แอบเข้ามาแอบอ่าน Cookies ที่อยู่ในเครื่องคอมของเรา แล้วจัดการแสดงโฆษณาของเว็บไซต์ที่เราเคยเข้ามาชมมาก่อน

แต่ทีนี้ถ้าเทคโนโลยี Big Data มันสามารถทำงานได้อย่างสมบูรณ์แบบหล่ะ โฆษณาจะเป็นยังไง ??

คำตอบคือ โฆษณาจะสามารถแสดง “สิ่งที่ตรงกับความสนใจของเรา” อย่างสมบูรณ์แบบ ทั้ง ๆ เราไม่เคยเยี่ยมชมเว็บไซต์ของผู้ลงโฆษณามาก่อนเลย ยกตัวอย่างเช่น ผมอาจจะเคยเข้าเว็บ A เว็บ E-commerce แห่งหนึ่ง เพื่อซื้อรองเท้าวิ่งออกกำลังกาย จากนั้นผมออกจากเว็บไซต์ A ไปยังเว็บไซต์ B เพื่ออ่านข่าวไอที เมื่ออ่านข่าวเสร็จ ก็กดเข้าไปที่เว็บไซต์ C เพื่ออ่านการ์ตูนที่กำลังติดตาม ระหว่างที่อ่านการ์ตูนนั้น ผมอาจจะเหลือบไปเห็นโฆษณา “นาฬิกาจับระยะทางวิ่ง ระบบ GPS” สินค้าจากเว็บ E-commerce อีกแห่งหนึ่ง ทั้ง ๆ ที่ผมไม่เคยเข้าเยี่ยมชมเว็บ E-commerce อันนี้มาก่อนเลย ! 

นั่นเพราะว่าพฤติกรรมของผม บ่งบอกว่า ผมเป็นคนชอบวิ่ง ชื่นชอบ Gadget และเป็นคนขี้เล่น ชอบอะไรที่สนุก ๆ โฆษณาของนาฬิกาจับระยะทางวิ่ง เลยปรากฏโผล่มาให้ผมเห็น ซึ่งมันก็ตรงกับความสนใจของผมพอดีซะด้วย !

อันนี้เป็นตัวอย่างสมมติ เพื่อให้เข้าใจหลักการทำงานของ Big Data ในงานโฆษณานะครับ

คำถามต่อไปคือ แล้วมันรู้ได้ยังไง ว่าผมเข้าเว็บไซต์นั้น เว็บไซต์นี้ แถมรู้อีกด้วย ว่าผมจะสนใจสินค้าอะไร ?? คำตอบคือ การเนียนแอบเก็บข้อมูลครับ โดยส่วนใหญ่ก็แอบเก็บเอาจาก cookies ในคอมพิวเตอร์ของเรา หรือถ้าเป็นเจ้าของระบบใหญ่ ๆ อย่างเช่น Google หรือ Facebook ก็จะแอบเก็บพฤติกรรมของเราทั้งหมดจากการใช้ Service ฟรีของเขา

เช่น Google จะแอบเก็บว่า เรา Search ค้นหาข้อมูลอะไรบ้าง และหลังจาก Search เรามีพฤติกรรมคลิกเข้าไปยังเว็บไซต์ต่าง ๆ เยี่ยงไร ?? สั่งซื้อของอะไรบ้าง ?? เราเดินทางไปที่ไหน ??

ถ้าเป็น Facebook ก็จะแอบเก็บว่า เราคลิก Like ที่ Page ไหน มีความสนใจอะไร สินค้าแนวไหนที่เราคลิกดู ? Check-in ที่ไหน ??

เมื่อได้ข้อมูลทั้งหมด ก็จะเอาข้อมูลมาวิเคราะห์ ด้วยโครตระบบสถาปัตยกรรมข้อมูลขั้นอัจฉริยะ ก็จะสามารถทำนายได้ว่า คน ๆ นี้ น่าจะสนใจสินค้าอะไรได้อย่างแม่นยำ ! แถมทำนายแบบรายบุคคลชนิด 1 ต่อ 1 อีกด้วย !!

ถ้ารู้แบบนี้ เราคงไม่แปลกใจแล้วใช่มั้ยครับ ว่าทำไม Google ถึงได้ทำบริการฟรีดี ๆ มาให้เราใช้อย่างมากมาย Google Search , Google Analytic, Google Map , Gmail, Google Trend, ฯลฯ

เพราะว่าจะเอาข้อมูลของเราไปวิเคราะห์ ในการขายโฆษณานั่นเอง !

ผมเองไม่แปลกใจเลยครับ ถ้ามีคนบอกว่า Google จะครองโลก ! ในเมื่อ Google มีฐานข้อมูลที่ใหญ่มาก ๆ อยากจะเรียกว่า Super Big Data รู้ไปเสียทุกเรื่อง แถมยังมีเทคโนโลยี ที่จะใช้ข้อมูลที่มีในการทำนายอนาคต และ พฤติกรรมของคนได้อีก !

อีกหน่อยอาจจะเป็นไปได้ว่า เราสามารถ search หาแฟน หาเนื้อคู่ที่จะแต่งงานในอนาคตได้ผ่านทาง Google ได้ !! ( อันนี้พูดเล่นนะครับ )

ว่าไปแล้วทำไมผมเข้าเว็บกรุงเทพธุรกิจ แล้วถึงมีโฆษณาโผล่มาเป็น น้องพริตตี้ ได้หว่า ! :-P