งานผูกพัทธสีมา .. วิสาขบูชา เวฬุวัน .. อินเดีย !!

งานผูกพัทธสีมา .. วิสาขบูชา เวฬุวัน .. อินเดีย !!

เจริญพรสาธุชนผู้มีสติปัญญา อาตมากลับมาจากการจัดงานวิสาขบูชาครั้งที่ ๑ (๒๙ พฤษภาคม ๒๕๖๑) ที่เวฬุวันมหาวิหาร ..

.. วัดแห่งแรกในพุทธศาสนาที่พระพุทธองค์ทรงประดิษฐานพุทธศาสนา หยั่งรากแก้วลงบนแผ่นดินศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ ...นับตั้งแต่ปี ๒๕๕๒ เมื่ออาตมาจาพรรษาบนภูเขารัตนคีรี (คิชฌกูฏ) ในพระนครราชคฤห์ จนมีความสัมพันธ์ทางจิตใจกับชาวฮินดูและเจ้าหน้าที่รัฐ ตลอดจนนักการเมือง โดยมีรัฐมนตรีในรัฐบาลแห่งรัฐพิหารมีศรัทธา จึงได้ขวนขวายเข้าไปขอใช้พื้นที่เวฬุวันฯ ที่พระพุทธองค์ประทับถึง ๕ พรรษาเพื่อฟื้นฟูวันมาฆบูชาให้กลับคืนมาอีกครั้ง

ซึ่งต่อมาได้รับอนุญาตให้จัดงานมาฆบูชาโลกในปี ๒๕๕๓ มีพระสังฆราชาแห่งคณะสงฆ์ศรีลังกา สยามอุบาลีวงศ์นิกาย ฝ่ายอรัญวาสี มาเป็นประธาน ท่ามกลางพระสงฆ์ทั้งเถรวาทและมหายาน ในการสนับสนุนของมหาโพธิสมาคมในอินเดียที่เป็นกัลยาณมิตรที่ดีมาโดยตลอด จนปัจจุบันได้จัดงานมาฆบูชามาถึง ๙ ปีอย่างต่อเนื่อง และในปีนี้ได้ขอจัดงานวิสาขบูชาครั้งที่ ๑ เมื่อวันที่ ๒๙ พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยมีพิธีปาริสุทธิสังฆกรรมครั้งใหญ่ของคณะสงฆ์ธรรมยุต เพื่อสวดผูกพัทธสีมา ณ ลานหินอ่อนพระมหาธรรมเจติยะโอวาทปาติโมกข์ ในกลางเวฬุวันมหาวิหาร ที่อาตมาและคณะศิษย์ฯ สร้างขึ้นเมื่อพ.ศ. ๒๕๕๗ ในสมัยที่ได้รับอนุญาตเป็นทางการให้อยู่จาพรรษาในเวฬุวันมหาวิหาร

..และได้รับอนุญาตให้พัฒนาพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ดังกล่าวเป็นลานหินอ่อน จนสามารถนาไปสู่การยกขึ้นเป็นอุโบสถที่ผูกพัทธสีมาไปเรียบร้อยโรงเรียนพุทธศาสนาเราแล้ว เมื่อวันที่ ๒๙ พฤษภาคม ๒๕๖๑ โดยมี พระธรรมเมธาจารย์, พระธรรมปาโมกข์ และคณะสงฆ์ธรรมยุตรวม ๔๖ รูป ประกอบศาสนพิธี กระทาสังฆกรรมท่ามกลางพุทธศาสนิกชนทั้งไทยและอินเดีย และในที่สุด ได้มีการบรรพชา-อุปสมบทพระภิกษุ ๙ รูป สามเณร ๓ รูป ขึ้นเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่พุทธศาสนาสูญสลายไปจากชมพูทวีป เมื่อพ.ศ. ๑๗๐๐ เศษ

การเดินทางไปประกอบศาสนกิจในครั้งนี้ ซึ่งอยู่ในช่วงอากาศร้อนจัด มากกว่า ๔๐ c นับว่าไม่ง่ายเลย ดังที่คณะทางานล่วงหน้าได้รายงานให้ทราบ เมื่ออาตมาเดินทางไปถึงในวันที่ ๒๘ พฤษภาคม ๒๕๖๑ จึงได้พบกับความร้อนของสายลมที่ปนฝุ่นละออง ขณะลงจากรถบัสต่อรถเล็กแยกจากคณะไปสู่พุทธคยา เตรียมตัวไปกราบสักการบูชาสังเวชนียสถานที่ตรัสรู้ของพระพุทธองค์ ณ ต้นพระศรีมหาโพธิ์ฯ เพื่อทาพิธีอธิษฐานธรรมฯ ตามที่หลวงพ่อสรวงสั่งสอนมา..

โดยได้เข้าสมาธิ เจริญภาวนา เพื่อขอความเป็นมงคลพึงบังเกิดขึ้นในการมาจัดงานวิสาขบูชาในครั้งนี้ และขอให้การจัดงานสวดถอน ตัดลูกนิมิต ผูกพัทธสีมา พึงเป็นไปด้วยความราบรื่นสาเร็จตามปรารถนา ฯลฯ... และเมื่อออกจากภาวนาเดินเข้าสู่ปริมณฑลพระศรีมหาโพธิ์ฯ ปาฏิหาริย์เกิดขึ้นจริง เมื่อปรากฏเสียงฟ้าร้องเหนือพุทธคยาอย่างปัจจุบันทันใด มีเม็ดฝนขนาดใหญ่ตกลงมาท่ามกลางอากาศที่ร้อนจัด เป็นสัญญาณแห่งธรรมาธิษฐานว่าสัมฤทธิ์ผล แม้เม็ดฝนตกลงมาพอเป็นพิธีไม่มากนักในเบื้องต้น

ในเวลาต่อมาเมื่ออาตมาได้ทาพิธีปลงเกสาและชาระอาบัติ กระทาปาริสุทธิศีลถวายเป็นพุทธบูชา ณ ใต้ควงพระศรีมหาโพธิ์ (ทิศใต้) เรียบร้อย บรรยากาศได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว จนเดินทางไปสู่วัดเนรัญชราวาส เพื่อถวายความเคารพพระธรรมปาโมกข์ พายุฝนในฤดูร้อนได้เกิดขึ้นตกลงมาอย่างหนัก จนครอบคลุมพื้นที่ไปถึงราชคฤห์... เวฬุวันมหาวิหาร ที่ได้รับน้าฝนอย่างเต็มที่ ต้นไม้ เสาไฟฟ้า โค่นล้มให้เห็นตลอดในระหว่างทางที่เดินทางไปราชคฤห์... เมื่อถึงเวฬุวันมหาวิหาร อากาศเย็นสบายเหมือนฤดูหนาวน้อยๆ ...

บรรยากาศจึงเหมาะควรแก่การกระทาสังฆกรรมของคณะสงฆ์ ที่เริ่มต้นประมาณ ๐๒.๐๐ น. จนไปจบสิ้นเมื่อเวลา ๑๑.๔๐ น. ของวันที่ ๒๙ พฤษภาคม ๒๕๖๑ อันเป็นวันวิสาขบูชาที่ได้เกิดอุโบสถ ผูกพัทธสีมาเรียบร้อยถูกต้องตรงตามพระธรรมวินัย เพื่อการปาริสุทธิสังฆกรรมของภิกษุสงฆ์สืบไป ดังได้มีการบรรพชา-อุปสมบทเป็นครั้งแรกในอุโบสถพัทธสีมาที่อุบัติขึ้นอีกครั้ง นับตั้งแต่พระผู้มีพระภาคเจ้าประทานปาริสุทธิอุโบสถครั้งแรกท่ามกลางพระสงฆ์สาวกเมื่อวันมาฆบูชา

จนถึงที่สุดแห่งกาลสูญสลายพระพุทธศาสนาจนล่วงมาถึงปัจจุบัน ๘๐๐ กว่าปี ด้วยความพร้อมเพรียงของคณะสงฆ์ (ธรรมยุต) ที่ได้ร่วมกันกระทาปาริสุทธิสังฆกรรม “สวดถอน-ทักนิมิต-สวดสมมติสีมา” ในครั้งนี้ ในวันวิสาขบูชาที่ ๒๙ พฤษภาคม ๒๕๖๑ ตรงกับวันขึ้น ๑๕ ค่า เดือน ๗ (ปีอธิกมาส) ที่ควรบันทึกไว้เป็นประวัติศาสตร์ของการสืบอายุพระพุทธศาสนา ดังที่ท่านเอกอัครราชทูตอินเดียประจาประเทศไทยกล่าวว่า นี่คือ “Historic Nature of Veluvana”


เจริญพร