พรรคอนาคต(เพื่อไทย)
ปฏิกิริยาต่อพรรคอนาคตใหม่ มีหลากหลาย ถ้าเป็นเสียงจากฝ่ายตรงข้ามก็พอเข้าใจได้ แต่นี่เป็นเสียงจาก “คนกันเอง” น่าสนใจอยู่ไม่น้อย
“สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล” นักวิชาการที่ลี้ภัยอยู่ในฝรั่งเศส วิจารณ์พรรคอนาคตใหม่ตรงไปตรงมาว่าพรรคอนาคตใหม่เป็นเวอร์ชั่นที่สู้รบหรือ “ดุ” กว่าของพรรคเพื่อไทย
พรรคนี้ไม่มีคนรุ่นใหม่มาร่วมน้อยมากมีแต่คนที่มีอายุพอสมควรแล้ว ซึ่งส่วนใหญ่ก็เชียร์เพื่อไทย พูดง่ายๆ ก็มีแต่คนเสื้อแดง เหมือนกลุ่มผู้ชุมนุมในกิจกรรมของกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง
“ธิดา ถาวรเศรษฐ์” ที่ปรึกษา นปช. บอกว่า พรรคอนาคตใหม่ เป็น “หน่วยหน้ากล้าตายปลายหอก” ในการต่อสู้กับระบอบเผด็จการทหาร เหมือนที่ “ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ” ประธาน นปช. เคยบอกว่า “กลุ่มคนอยากเลือกตั้ง” เป็นหน่วยหน้ากล้าตายเหมือนกัน
“สมศักดิ์” ฝันอยากให้พรรคอนาคตใหม่ เป็น “พรรคฝ่ายซ้าย” อย่างในยุโรป กล้าที่จะเสนอนโยบายใหม่ๆ เช่นแก้ไข ม.112 ไม่ใช่แค่การฉีกรัฐธรรมนูญของ คสช.
ช่วงรัฐบาลยิ่งลักษณ์ คนเสื้อแดงกลุ่มหนึ่งรู้สึกไม่พอใจบทบาทของ นปช. และพรรคเพื่อไทย ในหลายเรื่อง จึงมีเสียงเรียกร้องให้คนเสื้อแดงจัดตั้งพรรคการเมืองเป็นของตัวเอง
ปลายปี 2556 ประแสง มงคลศิริ อดีต ส.ส.อุทัยธานี และจิตรา คชเดช นักเคลื่อนไหวแรงงาน จึงร่วมกันจัดตั้ง “พรรคพลังประชาธิปไตย” โดยมีฐานเสียงเป็นคนเสื้อแดงที่ก้าวหน้า
พรรคพลังประชาธิปไตย อาจไม่ต่างจากพรรคอนาคตในเชิงจุดยืนและอุดมการณ์ เพียงแต่แกนหลักของพรรค ไม่โดดเด่น ไม่มีสีสันเท่ากับ “ไพร่หมื่นล้าน” และ “นักกฎหมายฝรั่งเศส”
จะว่าไปแล้ว แกนนำระดับภูมิภาคของพรรคอนาคตใหม่ ที่ไม่เปิดเผยตัวตน ก็ล้วนแต่เป็น “แดงอุดมการณ์” ที่คุ้นหน้าคุ้นตาในยุทธจักรนักเคลื่อนไหวภาคประชาชน ถ้าเปิดเผยชื่อ อาจจะส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของพรรคอนาคตใหม่
ไม่แปลกที่ “เจ้าของพรรคตัวจริง” จะปรับกระบวนยุทธ์เพื่อไทยและ นปช. ให้ดูประนีประนอม และไม่ต้องเล่นบทบู๊เหมือนในอดีต
ปล่อยให้พรรคอนาคต(เพื่อไทย) เป็นสายล่อฟ้า..ล่อเป้า คสช.แทนชั่วคราว
