'170 ล้าน' เพื่อสองมื้อกับบัฟเฟตต์

'170 ล้าน' เพื่อสองมื้อกับบัฟเฟตต์

มีบุรุษผู้หนึ่ง ยอมทุ่มเงินถึงสองปีติดต่อกัน เพื่อให้ได้รับโอกาส

เป็นประจำทุกปี ที่ วอร์เรน บัฟเฟตต์ จะเปิดประมูลให้คนมารับประทานอาหารกลางวันกับเขาหนึ่งมื้อ เพื่อเอาเงินไปช่วยการกุศล โดยในปี 2018 นี้ ผู้ชนะยอมควักกระเป๋าถึง 3.3 ล้านเหรียญ หรือกว่า 100 ล้านบาท เพื่อให้ได้กระทบไหล่ 'ปู่'

จากการประมูล 19 ครั้งที่ผ่านมา บัฟเฟตต์ช่วยระดมทุนได้ถึง 26 ล้านเหรียญ สถิติสูงสุดคือเมื่อปี 2012 ซึ่งผู้ชนะเคาะตัวเลขสวยๆ ที่ 3,456,789 เหรียญ โดยเงินทั้งหมดจะมอบให้มูลนิธิ Glide ในซานฟรานซิสโกเพื่อจุนเจือผู้ยากไร้

แต่จะมีใครรู้บ้างว่า มีบุรุษผู้หนึ่ง ยอมทุ่มเงินถึงสองปีติดต่อกัน เพื่อให้ได้รับโอกาสนี้ เขาคือ 'เท็ด เวสช์เลอร์' ซึ่งปัจจุบันมารับตำแหน่งผู้จัดการกองทุนของเบิร์คเชียร์นั่นเอง

เวสช์เลอร์เป็นแฟนพันธุ์แท้ของบัฟเฟตต์มาเนิ่นนาน เขาจบการศึกษาจากวอร์ตัน อันเป็น Business School ชั้นนำของโลก และเป็นฟันด์เมเนเจอร์ที่ประสบความสำเร็จสูงมาก โดยบริหารเฮดจ์ฟันด์ของตัวเองเป็นเวลา 11 ปี ทำผลตอบแทนได้ถึง 1,236 เปอร์เซ็นต์ ก่อนจะปิดกองมาทำงานกับ BRK

ด้วยความคลั่งไคล้ในตัวบัฟเฟตต์ ทำให้เท็ดยอม bid เงินก้อนโตเพื่อให้ได้รับประทานอาหารกับปู่ ก่อนจะชนะประมูลในปี 2010 และ 2011 ด้วยเงิน 2,626,311 และ 2,626,411 เหรียญ ตามลำดับ (ปีที่สอง bid แพงกว่าปีแรก 100 เหรียญ)

รวมสองปี เท็ด เวสช์เลอร์ จ่ายเงิน 5.25 ล้านเหรียญ หรือกว่า '170 ล้านบาท' แลกกับ 'อาหารกลางวันสองมื้อ' กับบัฟเฟตต์ ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ !!

เวสช์เลอร์บอกว่า เขาเอาปรัชญาการลงทุนของบัฟเฟตต์มาปรับใช้ แม้แต่การตั้งออฟฟิศ เขาก็เลือกที่จะปักหลักอยู่เวอร์จิเนีย ไม่ย้ายไปนิวยอร์ก เพื่อหลีกเลี่ยง 'เสียงรบกวน' เช่นเดียวกับปู่ที่ตั้งสำนักงานอยู่ที่โอมาฮา

ด้วยฝีไม้ลายมือ ความใจบุญ และเคมีที่ตรงกัน บัฟเฟตต์จึงยื่นข้อเสนอให้เขามาทำงานด้วยที่เบิร์คเชียร์ และหลังจากคิดอยู่หลายสัปดาห์ เวสช์เลอร์ก็ตอบตกลง โดยยอมปิดกองทุนมาทำงานกับไอดอลของเขา ทั้งๆ ที่ตัวเองรวยไม่รู้เรื่องอยู่แล้ว

ที่น่าสนใจก็คือ เวสช์เลอร์ กับ ท็อดด์ คอมบ์ส คู่หูของเขา เป็น 'ผู้เปิดเกม' ด้วยการซื้อหุ้น Apple ทำเอาปู่ซึ่งไม่เคยสนใจหุ้นเทคโนโลยีตัดสินใจเข้ามาซื้อบ้าง จนปัจจุบัน AAPL กลายเป็นสัดส่วนกว่า 20% ของพอร์ตการลงทุนของ BRK เข้าไปแล้ว

นี่คือเรื่องราวของ 'แฟนพันธุ์แท้บัฟเฟตต์' ที่ไม่ได้ลอกเลียนปู่เฉพาะความสามารถ แต่ยังรวมถึงจิตใจอันเป็นบุญเป็นกุศล ควรค่าแก่การยกย่องโดยแท้