วงรอบที่ 9​​

วงรอบที่ 9​​

ความละเอียดรอบคอบคือคุณสมบัติสำคัญของนักโหราศาสตร์ หากขาดสิ่งนี้ การวิเคราะห์และพยากรณ์จะปราศจากความถูกต้องแม่นยำ

น่าเสียดายที่ผู้เรียนส่วนใหญ่ใจร้อน อยากรู้มาก ๆ อยากจบเร็ว ๆ บ่มเพาะเป็นนิสัยรีบร้อนและมองข้ามรายละเอียด ที่สุดก็ไม่ประสบความสำเร็จดังหวัง

ตำราฝรั่งกล่าวถึงกฎ 3 มุมดาว (Rule of 3 Aspects) ซี่งบอกว่า ก่อนพยากรณ์สิ่งใด ต้องมีมุมดาว (อย่างน้อย) 3 ชุดที่บ่งชี้ถึง เพราะปัจจัยที่ต้องคิดพิจารณามีจำนวนมาก แต่ละปัจจัยก็มีความหมายหลายอย่าง หากไม่ยึดถือกฎนี้ เราไม่มีทางแน่ใจใน ความน่าจะเป็นของเหตุการณ์และไม่อาจสรุปยืนยันความหมายที่ถูกต้องได้เลย

ตัวอย่างเช่นดวงเมแกน มาร์เคิล เธอเป็นดาราที่มีชื่อเสียงอยู่แล้ว แต่การเลื่อนฐานะเป็นดัชเชสและสมาชิกราชวงศ์อังกฤษ ต้องมีอะไรที่มากกว่าอาทิตย์มหาจักรกุมลัคน์ นั่นก็คือ (1) ลัคน์เกาะวรโคตมนวางค์ (2) พลูโตในภพ 4 เกาะวรโคตนวางค์ 90 ลัคน์ (3) อาทิตย์ 120 ทศมลัคน์ (4) ราชาโยคของพฤหัสจันทร์ (อ่าน “ซินเดอเรลล่า 2018” ที่ http://www.bangkokbiznews.com/blog/detail/644727)

กฎนี้ไม่มีใช้ในเมืองไทย ส่วนใหญ่ของนักโหราศาสตร์บ้านเราเพียงเห็นดาวดวงเดียว ก็ออกคำทำนายอย่างรวดเร็วและมั่นใจ ผลที่ได้จึงครึ่ง ๆ กลาง ๆ เช่น เกือบถูก ถูกมั่งผิดมั่ง ถูกกว้างๆ แต่ไม่เข้าเป้า ไม่สามารถบอกวันเกิดเหตุ หรือบอกได้กว้าง ๆ แค่เดือนไหนปีไหน ฯลฯ

ที่น่าเศร้าสุดคือทายเหมาทุกเหตุการณ์จากดาวเพียงดวงเดียว เช่น ทุกเรื่องร้ายเกิดจากเสาร์ ทุกการเปลี่ยนใหญ่เกิดจากมฤตยู ฯลฯ เสาร์จรราศีละ 2 ปีครึ่ง มฤตยูจร 7 ปี เป็นไปไม่ได้ที่ทุกเหตุการณ์จะเกิดจากดาวดวงเดียว โหราศาสตร์กลายเป็นศาสตร์แห่งความตื้นเขินและไร้เหตุผลก็เพราะวิธีทำนายเช่นนี้

วงรอบที่ 9​​

วันที่ 30 พฤษภาคม อาทิตย์พฤษภเกาะวรโคตมนวางค์ 120 ทศมลัคน์ดวงเมือง จันทร์เพ็ญพิจิก 60 ทศมลัคน์ พุธพฤษภ 60 ศุกร์เดิม ศุกร์เมถุนโยคหน้า 60 ลัคน์ พฤหัสเล็งลัคน์ ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์ว่า ร่างพรป.การได้มาซึ่งสส.ไม่ขัดรัฐธรรมนูญ อุปสรรคใหญ่หมดไป การเมืองคึกคักและเดินหน้าสู่การเลือกตั้ง โหราศาสตร์มองสถานการณ์ข้างหน้าอย่างไร ?

เรารู้ว่าอังคารมังกรในภพ 10 คือปัจจัยที่ทำให้การเมืองเร่งจังหวะและร้อนแรงขึ้นเรื่อย ๆ Grand Cross ของอังคาร-พฤหัส-มฤตยู-ราหู ก็ทำให้สถานการณ์ตึงเครียดและพร้อมเปลี่ยนแปลงพลิกผันตลอดเวลา อย่างไรก็ตาม ยังมีจังหวะดาวสำคัญอีกหลายชุดที่ควรพิจารณากัน

เนปจูนวิกลคติพักร 19 มิถุนายน ที่ 22:23 องศากุมภ์ ทำมุม 90 กับอังคารเดิม อังคารคือดาวเจ้าเรือนลัคนา เนปจูนคือความสับสนคลุมเครือ ภาพลวงตา ฯลฯ สถานการณ์บ้านเมืองยังไม่ชัดเจน อังคารคือทหาร เนปจูนหมายถึงศรัทธา วิกฤติศรัทธามีแนวโน้มรุนแรงขึ้น

อังคารวิกลคติพักร 27 มิถุนายนพร้อมกับเสาร์เพ็ญ จุดวิกลคติอยู่ที่ 15:06 องศามังกร ทับทศมลัคน์ดวงเมืองพอดี ขณะที่จุดเพ็ญอยู่ที่ 11:45 องศาธนู ทับเสาร์เดิมสนิทเช่นกัน เสาร์คือดาวเจ้าเรือนทศมลัคน์ ทศมลัคน์หมายถึงรัฐบาล การเมือง การปกครอง ฯลฯ เกิดเหตุการณ์สำคัญทางการเมืองที่อาจกลายเป็นประเด็นขัดแย้งใหม่ (+/- 3 วัน)

โชคดีที่พฤหัสวิกลคติเสริด 10 กรกฎาคม ที่ 19:14 องศาตุลย์ เล็งลัคน์ดวงเมือง สถานการณ์ควรบรรเทาเบาบางและพอเดินต่อได้ อีก 3 วันต่อมา เกิดสุริยคราสที่ 26:35 องศาเมถุน 90 ราหูเดิมสนิทในภพ 12 ภพนี้คือการปกปิด ซุกซ่อน ฯลฯ เกิดคลื่นใต้น้ำหรือการบ่อนทำลายจากขบวนการใต้ดิน ปลายเดือน 27 – 28 อังคารเพ็ญพร้อมจันทรคราส (เต็มดวง) จุดคราสจุดเพ็ญเล็งจันทร์เดิมและ 90 อาทิตย์เดิม ระวังความสัมพันธ์ / ความรู้สึกของประชาชนที่มีต่อรัฐบาล ตั้งแต่ 26 พุธพักรด้วย โอกาสเข้าใจผิดกันง่ายมาก

จากนั้น 5 วัน อังคารพักร 90 มฤตยู ที่ 8:26 องศามังกร-เมษ กระทบอาทิตย์เดิม อีก 5 วันก็เกิดมฤตยูวิกลคติพักรที่ 8:27 องศาเมษ ทับอาทิตย์เดิมอีกดอก เกิดแรงกดดันฉับพลันและมหาศาลต่อรัฐบาล อีก 4 วันต่อมา เกิดสุริยคราสที่ 24:35 องศากรกฎ ทำมุม 90 กับลัคนาดวงเมือง นี่คือสัญญาณอันตราย ภายในหน้า 7 หลัง 30 วันของสุริยคราส 11 สิงหาคม พึงตั้งสติและบริหารจัดการเรื่องต่าง ๆ ด้วยความไม่ประมาท อาจเกิดเรื่องยุ่งวุ่นวายได้ง่าย

สถานการณ์จะคลี่คลายเมื่ออังคารวิกลคติเสริด 27 สิงหาคม ที่ 4:30 องศามังกร วันที่ 6 กันยายน เสาร์วิกลคติเสริดที่ 8:26 องศาธนู ทำมุม 120 กับมฤตยูเมษพอดี จุดวิกลคติทับพฤหัสเดิมสนิท มฤตยู 120 พฤหัสเดิมสนิท พฤหัสตุลย์ 180 ลัคน์สนิท อาทิตย์สิงห์ 120 ลัคน์สนิทด้วย ภายในหน้า 7 หลัง 7 วัน เกิดเหตุการณ์สำคัญและดีงามทางการเมือง สถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติและเดินหน้าต่อไป

เสาร์คือดาวการเมือง เสาร์เดิมอยู่ที่ 10:18 องศาธนู ทุกครั้งที่เสาร์ทับเสาร์เดิม (Saturn Return) จะเป็นวงรอบใหม่ / ยุคใหม่ของการเมืองไทย แต่ละยุคกินเวลา 30 ปี เสาร์ทับเสาร์เดิมครั้งล่าสุด 28 มกราคม 2561 นี่คือวงรอบที่ 9 แต่จังหวะดาวครั้งนี้พิสดารกว่าครั้งก่อน เสาร์เดินหน้าแล้วถอยหลังกลับทับเสาร์เดิม 18 กรกฎาคม จากนั้นเดินหน้าทับเสาร์เดิมเป็นคำรบสาม (Triple Conjunction) 25 ตุลาคม เวลา 14:38 น. วงรอบที่ 9 ที่แท้จริงเริ่มต้นตรงนี้ ยุคใหม่การเมืองไทยคือ 25 ตุลาคม 2561 – 10 ธันวาคม 2590

การเข้าวงรอบใหม่ยังพิสดารขึ้นไปอีก เพราะมันเกิดพร้อมมฤตยูเพ็ญและจันทร์เพ็ญ 24 ตุลาคม ที่ 6:26 และ 7:06 องศาเมษตามลำดับ จันทร์เพ็ญบอกถึงความรุ่งเรือง มฤตยูเพ็ญบอกถึงการเปลี่ยนแปลงใหม่เพื่อความก้าวหน้า ขณะเดียวกัน อังคารอุจจ์ 90 ลัคน์สนิท พฤหัสพิจิก 120 ศุกร์เดิม (อุจจ์) สนิท ศุกร์ตุลย์ (เกษตร์) เล็งอาทิตย์เดิม อาทิตย์จรตุลย์เป็น “นิจจะภังคะราชาโยค” เนปจูนกุมภ์โยคหลัง 60 ลัคน์ และพลูโตธนู 120 ลัคน์สนิท ทั้งหมดชี้ถึงยุคสมัยแห่งการเปลี่ยนแปลงไปสู่ความเจริญรุ่งเรือง

เลข 9 หมายถึงภพ 9 (ศุภะ) ภพแห่งการตื่นรู้และปัญญาญาณ ความเจริญรุ่งเรืองทั้งมวลย่อมเกิดจากพลังสติปัญญาร่วมกันของประชาชน