“โจรไซเบอร์” กับขาสองข้าง

“โจรไซเบอร์” กับขาสองข้าง

หวังว่าท่านผู้อ่านจะไม่ตกใจกับเรื่องที่เล่าต่อไปนี้เกินควร ถึงแม้จะได้ยินกันมานานว่าเป็นเรื่องอันตรายน่ากลัวที่ควบคุมได้

 แต่เมื่อได้เห็นพฤติกรรมของผู้มีผลประโยชน์เกี่ยวพันแล้วก็ไม่ทำให้สบายใจได้มากเลย

เรื่องนี้ก็คือ อาชญากรรมทางโลกไซเบอร์ (cyberthievesหรือcybercrimes) ซึ่งเป็นประเภทของอาชญากรรมที่เติบโตอย่างรวดเร็วเพราะได้กำไรงดงามมาก เชื่อกันว่าโลกต้องสูญเสียไปจนอาจถึง 445,000 ล้านเหรียญต่อปี (ใกล้เคียงกับGDPของไทย)ซึ่งเพิ่มขึ้น 30% เมื่อเทียบกับ 3 ปีก่อน

 “cyber” มาจากภาษากรีกโบราณ “cybernetic” ซึ่งหมายถึง “มีความสามารถในการผลักดันไปในทิศทางที่ต้องการหรือในการปกครอง” ต่อมามีแนวทางการศึกษาที่เรียกว่า Cybernetics ซึ่งเกี่ยวกับการศึกษาเรื่องระบบการควบคุมและโครงสร้าง และในปี 1948 ก็มีคำจำกัดความของวิชา Cybernetics ว่าเป็นการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวพันกับการควบคุมและการสื่อสารในสัตว์และเครื่องจักร

อย่างไรก็ดี ต่อมาคำนี้ใช้กันในเชิงวิชาการว่า หมายถึง นโยบายที่เกี่ยวกับระบบคอมพิวเตอร์และเครือข่าย ในที่สุดก็ตัดสั้นเข้าเป็น cyber และใช้กันในอุตสาหรรม IT cyber กลายเป็นคำใหม่ในยุคอินเตอร์เน็ต โดยหมายถึงการเกี่ยวพันกับเรื่องของคอมพิวเตอร์และอินเตอร์เน็ต

ธุรกิจที่หวาดกลัว cybercrimes มากที่สุดก็คือ ภาคการเงินและธนาคาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถาบันการเงินและบริษัทประกอบธุรกิจจ่ายเงิน (payment companies) เช่น Mastercard Visa ฯลฯ ผู้คนในกิจการเหล่านี้ในสหรัฐเห็นว่า การโจมตีทางไซเบอร์เพื่อวัตถุประสงค์ชั่วร้าย(cyberattacks) เป็นหนึ่งในความเสี่ยงที่สูงที่สุดสำหรับภาคการเงิน

สำหรับMastercardแห่งเดียวถูกโจมตีทางไซเบอร์ 267,322 ครั้งในรอบ 24 ชั่วโมง (3 ครั้งต่อ 1 วินาที) โดยทั้งบุคคลและทีมงานจากทั่วโลกเพื่อลองของว่าจะสามารถเจาะเอาข้อมูลลูกค้าออกมาหรือ “ขโมย” เงินหรือสร้างความปั่นป่วนเพื่อต่อรองได้หรือไม่ ฯลฯ บริษัทนี้มี war room ที่มีจอแสดงผลการถูกโจมตีและมีผู้เฝ้าดูแลเพื่อแก้ไขสถานการณ์ 24 ชั่วโมง 7 วันต่ออาทิตย์

ผู้ตอบโต้เชิงกลยุทธ์และเฝ้าดูส่วนใหญ่ คืออดีตทหารผู้ช่ำชองในการรบจากสงครามอิรักและอาฟกานิสถาน เนื่องจากความรู้และประสบการณ์ของคนเหล่านี้สามารถนำมาต่อสู้กับข้าศึกใหม่ คือ โจรไซเบอร์ได้เป็นอย่างดี

Mastercard Visa ตลอดจนธนาคารใหญ่ต่างๆ ในสหรัฐต่างใช้กลยุทธ์ทางทหารเพื่อตอบโต้มากขึ้นทุกปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการหาข่าวกรอง(intelligence) และนำมาวิเคราะห์เพื่อใช้ต่อสู้

ปัจจุบันอดีตสายลับไซเบอร์(cyberspies)จากภาครัฐนายทหาร เจ้าหน้าที่ ด้านการข่าว อยู่ในตำแหน่งสูง ด้านความมั่นคงขององค์กรต่างๆ ในภาคการเงินแทบทั้งสิ้น คนเหล่านี้นำเอาเครื่องมือ เทคนิคทางการทหาร รูปแบบและเทคนิคการหาข่าว ฯลฯ ที่ตนเองคุ้นเคยในงาน ตอบโต้ผู้ก่อการร้ายมาใช้

หลังเหตุการณ์9-11 กระทรวงความมั่นคงของสหรัฐ สร้างรูปแบบของการหาข่าวจากผู้ก่อการร้ายด้วยการสร้างหน่วยงานเล็กๆ อยู่เต็มไปหมดในทุกองคาพยพของภาครัฐ เพื่อถักทอข้อมูลและวิเคราะห์สถานการณ์ จนสามารถ“ยัน”ผู้ก่อการร้ายได้ปัจจุบันแนวทางนี้ถูกนำมาใช้ในการต่อสู้กับการเกิดโรคระบาด ไฟไหม้การค้ามนุษย์ ฯลฯโดยเฉพาะอย่างยิ่งในการต่อสู้กับอาชญากรรมไซเบอร์

ธนาคารใหญ่และบริษัทจ่ายเงินของสหรัฐ ต่างมีศูนย์เช่นว่านี้ในหลายพื้นที่ในประเทศและต่างประเทศ ใน 2 -3 ปีที่ผ่านมา และนับวันจะมีมากขึ้นเพราะสามารถช่วยในการป้องกันและต่อสู้อย่างได้ผลผ่านการวิเคราะห์หาแบบแผนจากข้อมูลขนาดมหาศาลที่เก็บมาได้

สถานการณ์ของอาชญากรรมไซเบอร์เลวร้ายมากขึ้นจนกลายเป็นสิ่งที่สถาบันเหล่านี้กลัวมากกว่ากฎเกณฑ์ควบคุมธุรกิจและสถานการณ์เศรษฐกิจด้วยซ้ำ

กลยุทธ์ทางทหารสอนให้รู้ว่าการเตรียมพร้อมอยู่เสมอและการซ้อมรบด้วยการส่งทหารออกไปทดสอบอาวุธเครื่องมือและกลยุทธ์ที่ใช้ป้องกันอีกทั้งตอบโต้นั้น เป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งหากจะสู้กับข้าศึกยุคใหม่นี้

หน่วยงานเหล่านี้ต่างมีการ“ซ้อมไฟไหม้”เมื่อถูกโจมตีทางไซเบอร์อยู่สม่ำเสมอและมีการร่วมมือกันขนาดใหญ่เพื่อ“ซ้อมรบ”ช่วยเหลือกันหากเกิดเหตุการณ์เลวร้ายขึ้นกับสมาชิกโดยทั้งหมดนี้เป็นไปเพื่อหาจุดอ่อนของแต่ละสมาชิกและของกลุ่มที่อาจมีอยู่ในการป้องกัน ตลอดจนการร่วมมือกันแก้ไขปัญหา

ใครที่มีเงินฝากในสถาบันการเงินหรือทำธุรกรรมกับบริษัทจ่ายเงินควรตระหนักว่า หลังฉากนั้นมีการสู้รบที่หนักหนาสาหัสอยู่ทั้งวันทั้งคืน ซึ่งหมายถึงความเสี่ยงต่อความไม่สะดวกหรือแม้แต่การสูญเงิน อย่างไรก็ดีคนที่“นอนไม่หลับ”กับอาชญากรไซเบอร์ที่พิศมัยสถาบันการเงินเป็นพิเศษก็คือผู้บริหารและเจ้าของซึ่งคือผู้ถือหุ้นทั้งหลาย

ถึงแม้จะมีการป้องกันด้วยความเอาจริงเอาจังเช่นนี้ในสหรัฐ แต่ก็ยังสูญเสียไปไม่น้อยในแต่ละปี เพราะโจรพัฒนาตนเองอยู่ตลอดเวลาในฐานะคนไทย เราได้แต่หวังว่าสถาบันการเงินไทยจะตื่นตัวและมีวิธีการต่อสู้ที่สามารถยันโจรเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ในสถานการณ์ที่ดกดื่นของโจรในอากาศ คนมีปัญญาย่อมไม่แหย่ 2 ขาลงไปพร้อมกันในแม่น้ำที่เต็มไปด้วยจระเข้อย่างแน่นอน