สนช.อย่าเกียร์ว่างตั้งคำถาม สอบประวัติ 7ว่าที่กกต.

ซึ่งสืบเนื่องจากภาวะ “ดูด” อดีต ส.ส. ของ “ฝ่ายการเมือง ที่ทำงานให้กับคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)” 

มีความเคลื่อนไหวที่น่าจับตาตลอดช่วงเดือนพ.ค.นี้ คือ การจัดประชุมผู้ก่อตั้ง เพื่อเตรียมข้อมูลไปยื่นจดจัดตั้งพรรคการเมืองตามกฎหมายของ กลุ่มการเมืองใหม่ ที่ยื่นเรื่องต่อ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ทั้ง กลุ่มอนาคตใหม่, กลุ่มพลังธรรมใหม่ และ อีกหลายพรรคที่จะทยอยดำเนินการ ขณะที่บางกลุ่มที่ประชุมไปแล้ว และอยู่ระหว่างยื่นเอกสารให้ กกต. พิจารณารับรองเป็นพรรคการเมืองในสารบบการเมืองไทย 

อย่างไรก็ดีประเด็นต่อเนื่อง ของ“กลุ่มเกรียน” ที่ “สมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด” ที่รวมคนรุ่นใหม่ขอยื่นจัดตั้ง “พรรคเกรียน” ที่ยังเป็นปัญหาว่าจะใช้ชื่อนั้น จดจัดตั้งไม่ได้ ตามคำวินิจฉัยเบื้องต้นของนายทะเบียนพรรคการเมือง  ซึ่งเรื่องราว ก็ยังอยู่ระหว่าง อุทธรณ์ต่อกกต. เพราะ “บก.ลายจุด” ยืนยัน คำว่า “เกรียน” ไม่ได้ขัดแย้งหรือขัดต่อกฎหมายพรรคการเมือง จนไม่สามารถใช้จัดตั้งได้  

ส่วนการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) สัปดาห์นี้ มีความเคลื่อนไหวที่น่าติดตาม คือ รายชื่อ 7 บุคคลที่เสนอให้ดำรงตำแหน่ง กกต. ชุดใหม่ โดย 2 คน มาจากสายที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาคัดเลือก และอีก 5 คน มาจากการสรรหา โดยกรรมการสรรหาฯ ที่ในรายชื่อดังกล่าว ถูกตั้งคำถามใหญ่ว่า เป็นผู้มีความเหมาะสมต่อการปฏิบัติหน้าที่ เฟ้นหาคนดี เข้าสู่ระบบการเมืองหรือไม่ แม้ทั้ง 5 ชื่อ จะผ่านด่าน สเปคเทพ ไปได้ แต่ยังมีคำถามคาใจ ว่า 3 ใน 5 คนนั้น เคยถูกคัดชื่อออก ตอนสรรหา กกต.ชุดใหม่รอบแรกไปแล้ว 

แต่ทำไมรอบนี้ ถึงกลับเข้ามา และได้รับการเสนอชื่อต่อสนช. ได้ ทางกรรมการสรรหาฯ กลับคำพูด และกลับผลการพิจารณาของตัวเองได้อย่างไร หรือเหตุผลที่แท้จริงอาจเป็นไปอย่างที่หลายฝ่ายวิจารณ์ ว่า มีใบสั่งลับเจาะจงให้ใช้คนเหล่านี้ ในการเลือกตั้งที่จะมาถึง 

ดังนั้นหาก “สนช.” เกียร์ว่าง ไร้คำถาม หรือ ตั้งเรื่องให้ “กรรมการสรรหาฯ” ต้องชี้แจง หรือ ส่งสัญญาณ ให้ “คณะกรรมาธิการตรวจสอบประวัติฯ” ทราบถึงประเด็นข้อติดใจของสังคมที่จับตามอง เชื่อว่า ด่านแรกที่จะได้ คนมากฝีมือ เข้าไปทำงานคัดกรอง คนที่ดี ที่เหมาะสม เข้าสู่ระบบการเมืองไทย อาจจะล้มเหลวตั้งแต่เริ่มต้น และไม่ต้องสืบเรื่องต่อไปว่า จะส่งผลต่อกลไกและระบบการเมืองไทยอย่างไร ภายหลังเลือกตั้ง

 

โดย...  เทพจร