เกมธุรกิจ

เกมธุรกิจ

การมองหาช่องว่างทางการตลาดและความเชื่อมโยงกับธุรกิจของเรากับธุรกิจใหม่ๆ เป็นเรื่องสำคัญที่คนทำธุรกิจทุกวันนี้ต้องวิเคราะห์ให้ดีและมองให้ออก

สำหรับเจ้าของกิจการ นักธุรกิจ นักบริหาร สิ่งหนึ่งที่ทุกคนรู้สึกเหมือนกันในการทำงานยุคปัจจุบันนี้ก็คือความ “กระหาย” ในความรู้ใหม่ การตื่นตัวกับเรื่องใหม่ๆ ที่เข้ามาให้เรียนรู้ตลอดเวลาโดยเฉพาะธุรกิจไอที ที่โลกดิจิทัลเข้ามาเปลี่ยนวิถีชีวิตของคนทั้งโลกไปเรียบร้อยแล้ว

ส่วนตัวผมเองถึงแม้จะเติบโตมากับธุรกิจไฮเทค แต่กลับมีเรื่องหนึ่งที่ไม่เคยสนใจและอาจจะมองในแง่ลบมานานหลายสิบปีนั่นคือ “เกมคอมพิวเตอร์” เพราะในอดีตเกมคอมพิวเตอร์ยังไม่แพร่หลายนักและมีคนเล่นเฉพาะกลุ่ม การเติบโตของธุรกิจนี้ในบ้านเราจึงลุ่มๆ ดอนๆ มาโดยตลอด

แต่เมื่อการมาถึงของสมาร์ทโฟนและการเกิดของโซเชียลมีเดีย ได้ทำให้เกมคอมพิวเตอร์ในทุกแพลตฟอร์มไม่ว่าจะเป็นเกมคอนโซล คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล(พีซี) และสมาร์ทโฟน ขยายตัวเร็วยิ่งกว่าไฟลามทุ่ง เนื่องจากเทคโนโลยีทั้งหมดเป็นส่วนผสมที่ลงตัวกับตลาดเกมคอมพิวเตอร์ทั้งในแง่ของฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ การทำตลาด การประชาสัมพันธ์ ฯลฯ

ในเวลานี้เราจึงเห็นผู้บริหารและนักธุรกิจวัยเกิน 45 ปีที่อาจไม่เคยสนใจเกมคอมพิวเตอร์มาก่อนต่างตื่นตัวที่จะได้เรียนรู้เกมใหม่ๆ เพราะเกมคอมพิวเตอร์ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของคนรุ่นใหม่ไปแล้ว ทุกวันนี้จึงไม่ใช่เรื่องแปลกหากเราได้เห็นคนเล่นเกมในสมาร์ทโฟนระหว่างเวลาว่าง ทานอาหาร หรือ แม้แต่เวลาเดินทาง เช่นเดียวกันได้พบเห็นคนใช้โซเชียลมีเดียตลอดทั้งวันเป็นเรื่องปกติธรรมดาประจำวัน

การใช้โซเชียลมีเดียนั้นแม้ว่าบางคนจะไม่ชอบ หรือบางคนอาจถึงขั้นต่อต้าน แต่คงไม่อาจต่อต้านกระแสการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ได้ เพราะจำนวนผู้ใช้โซเชียลมีเดียทั่วโลกทะยานขึ้นไปกว่า 3 พันล้านคน กลายเป็นช่องทางการสื่อสารหลักถึงกลุ่มเป้าหมายที่อาจให้ผลดีกว่าการใช้สื่อดั้งเดิมที่เคยใช้มาตลอดหลายสิบปี โดยเลือกกลุ่มเป้าหมายได้ตรงกว่า ในต้นทุนที่ต่ำกว่า

เช่นเดียวกับธุรกิจเกมคอมพิวเตอร์ ที่ทุกวันนี้ถูกยกระดับขึ้นเป็น “อีสปอร์ต” ซึ่งมีคนติดตามชมการแข่งขัน ในปีที่แล้วสูงถึงเกือบ 300 ล้านคนทั่วโลก เข้ามาดูผู้เข้าแข่งขันซึ่งมีจำนวนถึง 1.3 หมื่นคน สร้างรายได้ให้ผู้จัดงานมากถึงเกือบ 500 ล้านดอลลาร์

เช่นเดียวกับตลาดเกมบนสมาร์ทโฟนที่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีการเติบโตถึง 45.3% ซึ่งนับว่า สูงที่สุดในโลก โดยเติบโตมากกว่าค่าเฉลี่ยของทั้งโลกกว่า 3 เท่า เฉพาะในเมืองไทยประเมินกันว่ามีจำนวนผู้เล่นเกมคอมพิวเตอร์ที่มีอายุระหว่าง 15-35 ปีประมาณ 20 ล้านคน เมื่อเทียบกับตลาดโลกที่มีจำนวน 2,000 ล้านคน แม้อาจดูไม่มากแต่มีอัตราการเติบโตสูงอย่างต่อเนื่อง ทุกวันนี้การสนับสนุนทีมอีสปอร์ตที่ไปแข่งขันในระดับโลกจึงมีแฟนๆ คอยติดตามผลงานไม่แพ้นักร้องนักแสดงเลย

การมองหาช่องว่างทางการตลาดที่เกิดขึ้น และหาความเชื่อมโยงกับธุรกิจของเรากับธุรกิจใหม่ๆ เหล่านี้จึงเป็นเรื่องสำคัญที่คนทำธุรกิจในทุกวันนี้ต้องวิเคราะห์ให้ดี และมองให้ออกว่าแนวโน้มใหม่ๆ เหล่านี้จะเข้ามาเสริมกลยุทธ์ใดของธุรกิจเราได้บ้าง

วันนี้จึงอย่าแปลกใจที่จะเห็นคนที่วัยเกิน 45 ปีต้องมาสนใจเล่นเกมกันอย่างจริงจัง เพราะนี่เป็นหนทางหนึ่งในการปรับตัวเข้าสู่โลกยุคใหม่ ซึ่งเกมคอมพิวเตอร์เป็นแค่ตัวอย่างหนึ่งเท่านั้น ยังมีแนวโน้มใหม่ๆ อีกจำนวนมากให้ผู้บริหารและนักธุรกิจรุ่นใหม่ได้ติดตามและเรียนรู้

ทั้งหมดนี้ก็ล้วนเป็นการเพิ่มพูนความรู้และประสบการณ์ที่หลากหลาย ซึ่งยิ่งสั่งสมได้มากขึ้นก็ยิ่งเพิ่มค่าให้กับตัวเราได้ในระยะยาว เพราะในเวลานี้ทุกบริษัทต่างก็หา “จุดเปลี่ยน” เพื่อเข้าสู่ยุคดิจิทัล 

เราอาจไม่ต้องการเปลี่ยนแปลงอะไรเพราะไม่คิดว่าเป็นสิ่งจำเป็น แต่สุดท้ายแล้วหากไม่ทำอะไรเลยก็จะถูกสภาพแวดล้อมบังคับให้ต้องเปลี่ยนแปลงในภายหลัง ซึ่งมักจะกลายเป็นภาวะจำยอมคือต้องเปลี่ยนแปลงโดยไม่มีการเตรียมความพร้อมใดๆ