ถอดรหัสความสำเร็จ (จบ)

ถอดรหัสความสำเร็จ (จบ)

การมุ่งโฟกัสในสิ่งที่ทำจะทำให้คว้าความสำเร็จมาครองได้ง่ายขึ้น

เปิดประเด็นไว้ถึงเคล็ดลับในการสร้างความสำเร็จของคนรุ่นใหม่ 4 ประการใน “Think out of The Box” ฉบับที่แล้ว เริ่มจากประการแรกคือ ความมั่นใจจนทำให้เราทุ่มสุดตัว นั่นคือการทุ่มเทให้กับงานและเป้าหมายโดยไม่ลังเล เพราะหากยังมีความลังเลแล้ว โอกาสที่เราจะโน้มน้าวใจให้คนอื่นเชื่อมั่นด้วยก็คงจะยากมาก

ประการที่ 2 คือ เลิกคิดที่จะเอาใจทุกคนรอบข้างเพราะเป็นไปไม่ได้และทำให้เราเสียพลังไปการความพยายามทำดีเพื่อทุกคนจนพลาดเป้าหมายที่ต้องการอย่างแท้จริง ประการที่ 3 เลิกอิจฉาริษยาผู้อื่น และ 4 ต้องรู้จักควบคุมอารมณ์ความคิดและความรู้สึกให้ถูกที่ถูกทาง เพราะการใช้อารมณ์ตัดสินใจเรื่องใดๆ ก็ตามจะทำให้ประสิทธิภาพในการตัดสินใจเรื่องต่างๆ ลดลงทันที

มาต่อกันในประการที่ 5 มีความอยากรู้อยากเห็นเป็นนิจ โดยเฉพาะโลกยุคปัจจุบันที่มีสิ่งใหม่เกิดขึ้นทุกวัน เราจำเป็นต้องตั้งคำถามอยู่เสมอว่าทำไมสิ่งนี้ถึงเกิดขึ้น เกิดขึ้นได้อย่างไร และที่สำคัญต้องมองโลกในมุมอื่นๆ ด้วยเสมอ การคิดแบบเอาใจเขามาใส่ใจเราจึงจำเป็นมาก

การตัดสินใจทุกอย่างมีที่มาเสมอ เราต้องละเอียดอ่อนพอที่จะเข้าใจว่าทำไมเขาจึงทำแบบนี้ ทำคนโน้นจึงทำแบบนั้น ทำไมเขาจึงเลือกแบบนี้ ฯลฯ แล้วต่อยอดด้วยการเปลี่ยนจากคำถามว่าทำไม มาเป็นการถามให้รู้ เพื่อให้เข้าใจความรู้สึกผู้อื่น

ความอยากรู้อยากเห็นสามารถบ่มเพาะให้เกิดได้กับทุกคน ไม่จำกัดว่าต้องเป็นคนที่มีบุคลิกลักษณะเปิดเผยชอบเข้าสังคม หรือคนที่ชอบเก็บตัวก็ตาม เพราะคนทีเปิดเผยเข้ากับผู้คนได้ง่ายก็อาจมีทักษะบางอย่างที่ขาดหายไปและคนที่เก็บตัวอาจมีมากกว่าจึงอาจช่วยเติมเต็มให้ได้

ประการที่ 6 เห็นคุณค่าของการเรียนรู้จากความล้มเหลว เพราะความสนใจของคนส่วนใหญ่พุ่งเป้าไปที่การเรียนรู้ประสบการณ์จากผู้ที่ประสบความสำเร็จแล้ว โดยเน้นกระบวนการสู่ความสำเร็จแบบก้าวต่อก้าว แต่ลืมคิดไปว่าไม่มีความสำเร็จใดได้มาโดยง่าย

ผู้ที่ประสบความสำเร็จในชีวิตและพร้อมจะถ่ายทอดประสบการณ์ให้ผู้อื่นมักนำเสนอในมุมมองที่เป็นบวก หรือเน้นในช่วงท้ายที่ใกล้จับต้องความสำเร็จได้แล้วเพราะถ่ายทอดได้ง่ายและทำให้ผู้ติดตามมองเห็นความสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรมชัดเจน

ในขณะที่ประสบการณ์ระหว่างทางซึ่งต้องล้มลุกคลุกคลาน ผ่านความล้มเหลวมาหลายครั้งมักไม่ค่อยได้รับความสนใจมากนักจึงถูกข้ามรายละเอียดไป ทั้งๆ ที่เป็นช่วงที่มีค่ามากเพราะเป็นรากฐานที่ทำให้ประสบความสำเร็จได้ในที่สุด การเรียนรู้จากความล้มเหลวจึงเป็นการหลีกเลี่ยงให้เราไม่ต้องพบกับความผิดพลาดแบบเดียวกันซ้ำอีก ประสบการณ์นั้น ๆ จึงมีมูลค่ามหาศาล

ประการที่ 7 ให้ความสำคัญกับการ “ลงมือทำ” เพราะเราเห็นคนที่เก่งคิดเก่งพูดแต่ไม่สามารถสร้างความสำเร็จเป็นชิ้นเป็นอันได้เพราะไม่เคยลงมือทำ ตรงกันข้ามกับคนที่อาจพูดไม่เก่ง คิดไม่เก่ง แต่ลงมือทำเลยซึ่งหากเขาลงมือทำไป 20 ก็ย่อมได้ความคืบหน้ากลับมา 20 ทำ 50 ก็ย่อมได้ 50 แต่กับคนที่คิดเก่ง พูดเก่ง แต่ไม่เคยทำอะไรเลยผลตอบแทนที่ได้ก็คือศูนย์ ซึ่งไม่มีค่าใด ๆเลย

การลงมือทำแม้ยังต้องเจอกับความผิดพลาด เจอกับความล้มเหลว แต่หากเป็นการลงมือทำที่มาจากความคิดที่ดี การพูดหรือการนำเสนอที่ยอดเยี่ยม ผลที่ได้แม้ไม่เป็นไปตามความคาดหวังแต่ก็จะเป็นประสบการณ์ล้ำค่าที่เป็นต้นทุนให้กับเราได้ต่อไปในอนาคต

ทั้งหมดนี้เป็นแง่คิดให้กับคนรุ่นใหม่ที่มีตัวแปรมากมายชักจูงให้ขาดสมาธิในสิ่งที่กำลังทำอยู่ การมุ่งโฟกัสในสิ่งที่ทำและเกาะติดกับมันจะทำให้เรามีโอกาสคว้าความสำเร็จมาครองได้ง่ายขึ้น

อย่างที่เคยกล่าวไปแล้ว ลึกๆ ในใจทุกคนล้วนหวังความสำเร็จในระดับที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับพื้นฐานและความทะเยอทะยาน ทว่าก่อนจะก้าวไปถึงเส้นชัยพึงตระหนักไว้เสมอว่า ไม่มีความสำเร็จใดได้มาโดยง่าย ผู้ที่มีชื่อเสียงโด่งดังทุกวันนี้ล้วนล้มลุกคลุกคลานผ่านร้อนผ่านหนาว ผ่านความยากลำบากมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน แต่ทว่าพวกเขามีพลังแห่งความมุ่งมั่นคล้ายๆ กันกระทั่งฝ่าฟันอุปสรรคทั้งหลายได้สำเร็จ