ไตรมาส 2 สร้างพอร์ตเน้นความผันผวนต่ำ

ไตรมาส 2 สร้างพอร์ตเน้นความผันผวนต่ำ

ไตรมาส 2 สร้างพอร์ตเน้นความผันผวนต่ำ

การลงทุนในช่วงต้นปีนี้ ต้องบอกว่า ภาวะการลงทุนโดยรวมทั้งในประเทศและต่างประเทศได้เดินทางผ่านช่วงเวลาดีๆมาระยะหนึ่ง  และกำลังเคลื่อนเข้าสู่ช่วงเวลาย่อยข่าววิเคราะห์ข้อมูลช่วงต้นปี เพื่อวิเคราะห์สำหรับภาพการลงทุนในช่วงที่เหลือของปี เพื่อกำหนดแนวทางและกลยุทธการลงทุนให้เหมาะกับสภาวะและบรรยากาศการลงทุน

ปัจจัยสำคัญในระดับโลก และยากที่จะคาดการณ์ คือเรื่องของ TRADE WAR หรือสงครามการค้าซึ่งออกตัวแรงมากจากฝั่งของ คุณ โดนัล ทรัมป์  เรื่องถัดมาคือเรื่องเก่าเล่าใหม่ ก็คือเรื่องสถานการณ์ ในตะวันออกกลาง อาทิ ประเทศซีเรีย หรือ เรื่องการจะคว่ำบาตร อิหร่าน 

ขณะที่ปัจจัยภายในประเทศสำหรับห้วงเวลานี้ คือ เรื่องวันเวลาจัดตั้งการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและนายกรัฐมนตรี  โดยทั้งสามปัจจัยดังกล่าวข้างต้น ผมมองว่า เป็นเรื่องสำคัญที่มีผลต่อภาวะ เศรษฐกิจ และสังคม ซึ่งสามารถส่งผลกระทบตั้งแต่ระดับโลกมาจนถึงระดับประเทศและย่อยลงมาถึงระดับรายได้ของภาคประชาชน ทั้งหมดนี้เป็นปัจจัยที่ไม่สามารถควบคุมได้ แต่สามารถปรับลดผลกระทบได้ครับ โดยเฉพาะในภาคของการลงทุน

ในแง่มุมของบรรยากาศและทิศทางการลงทุนในระดับสินทรัพย์ เริ่มจากปัจจัยพื้นฐานคือ เรื่องของการปรับประมาณการผลประกอบการของ บริษัทจดทะเบียน ทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งมีแนวโน้มว่าอาจจะต้องปรับลดประมาณการณ์ลงบ้าง  การปรับตัวสูงขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ(Bond Yield) ซึ่งเป็นผลมาจากความกังวลต่อการคาดการณ์ ว่าอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐอเมริกา มีแนวโน้มจะปรับตัวสูงขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี และลามไปถึง เรื่องของส่วนต่างของอัตราผลตอบแทน(Earning Yield Gap) ที่อาจจะแคบลง เนื่องจากผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ และประเทศอื่นๆทั่วโลกอาจจะปรับตัวสูงขึ้น ทำให้ความน่าสนใจของสินทรัพย์เสี่ยงเช่น หุ้น เริ่มลดลง  ทั้งหมดนี้ก็เป็นปัจจัยที่สามารถบริหารจัดการได้ โดยการจัดสรรเงินลงทุนของท่านตามจังหวะที่เหมาะสมของสภาวะตลาด

พอร์ตการลงทุนในไตรมาส 2 /2561 นี้ บลจ.วรรณ ยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงอย่างหุ้น เพราะหากพิจารณาจากผลตอบแทนจากการลงทุนในหุ้นเมื่อเทียบกับความเสี่ยงแล้ว ยังมีความน่าสนใจ โดยภูมิภาคที่น่าสนใจผมยังให้น้ำหนักในภูมิภาค เอเชีย และยุโรป แต่จากความผันผวนที่น่าจะมาจากสถานการณ์รอบโลก ทำให้เรากระจายการลงทุนไปยังตราสารหนี้มากขึ้น โดยยังคงเน้นไปที่ตราสารหนี้ระยะสั้นและทองคำ เพื่อลดความผันผวนที่อาจจะมาจากแนวโน้มการปรับขึ้นของอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐอเมริกา (FOMC Rate) และการขยายตัวของอัตราเงินเฟ้อ ส่วนน้ำมันมีไว้เพื่อช่วยปรับค่าความผันผวนของสถานการณ์โลก และสุดท้ายควรจัดสรรเงินบางส่วนในพอร์ตการลงทุนของท่าน เพื่อสร้างเสถียรภาพของกระแสเงินสดและลดความผันผวนของพอร์ตลงทุนในกองทุนอสังหาริมทรัพย์ 

สำหรับคำแนะนำในการจัดพอร์ตการลงทุนโดยแบ่งแยกเป็นแต่ละสินทรัพย์ ผมแนะนำลงทุนในหุ้นไทย 20% หุ้นต่างประเทศ 30% (ยุโรป 7.5% ASEAN 10% ที่เหลือ เป็น Japan US China) ตราสารหนี้ ระยะสั้น 30% ตราสารหนี้ระยะสั้นต่างประเทศ 10% Property fund 5% Gold 5% ทั้งนี้ การตั้งพอร์ตการลงทุนดังกล่าว มุ่งเน้นผลตอบแทนการลงทุนประมาณ 6% และเน้นผันผวนต่ำ ครับ

(รายละเอียดตามภาพด้านล่าง)

ไตรมาส 2 สร้างพอร์ตเน้นความผันผวนต่ำ