จาก...อเมซอน ถึง...บิทคอยน์ ฤาโอกาสร่ำรวย...จะหายไปอีก?

จาก...อเมซอน ถึง...บิทคอยน์  ฤาโอกาสร่ำรวย...จะหายไปอีก?

คุณผู้อ่านคงทราบดีว่า บุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลกในขณะนี้หาใช่... บิล เกตส์ เจ้าของไมโครซอฟท์ แต่กลับเป็น...เจฟฟ์ เบซอส

 เจ้าของเว็บไซต์ อเมซอน เว็บไซต์ขายสินค้าออนไลน์ที่มีชื่อดังก้องโลก และหุ้นอเมซอนก็ได้สร้างผลตอบแทนให้แก่ผู้ถือหุ้นอย่างมหาศาล สิ่งที่ผมอยากคุยในวันนี้ก็คือ เรื่องของโอกาสในการลงทุนที่ผ่านมา ถ้าผู้ใด?...คว้าได้ทัน ผู้นั้นก็อาจจะร่ำรวยไปเลยก็เป็นได้ ในขณะที่บางคนก็ปล่อยให้มัน...ผ่านไปอย่างน่าเสียดาย ดังนี้ครับ

1.วิกฤติ ฟองสบู่...ดอทคอม

ปี 2536 ในสหรัฐเริ่มมีการใช้อินเทอร์เน็ตสำหรับประชาชนทั่วไปกันอย่างแพร่หลาย ทำให้จำนวนครัวเรือนที่ใช้อินเทอร์เน็ตเพิ่มขึ้นจาก 15% เป็น 35% ภายในระยะเวลาเพียง 5 ปี บริษัทต่างๆ ที่ต้องการแสวงหาลูกค้าจำนวนมากๆ ก็หันมาใช้ช่องทางอินเทอร์เน็ตกันอย่างล้นหลาม และเป็นธรรมเนียมอยู่เองที่ทุกบริษัทจะใช้ชื่อของตัวเองและตามด้วยคำว่า .com (ดอทคอม) เพื่อให้เป็นที่จดจำได้อย่างง่ายๆ ไม่ว่าจะเป็น microsoft.com หรือ apple.com เป็นต้น

บริษัทเกิดใหม่จำนวนมากก็เริ่มต้นใช้ช่องทางอินเทอร์เน็ต ขายสินค้าและบริการของตนกันอย่างมากมาย จากนั้นนักลงทุนสถาบันก็เริ่มเข้ามาลงทุนในบริษัทที่เริ่มต้นใหม่เหล่านี้ โดยฝากความหวังไว้ว่าบริษัทเหล่านี้จะต้องเติบโตขึ้นไปอีกเป็นสิบเป็นร้อยเท่า และในที่สุดก็จะสามารถเข็นบริษัทเหล่านี้เข้าตลาดหุ้นได้ ในที่สุดบริษัทเหล่านี้ก็สามารถเข้าตลาดหุ้นได้เป็นจำนวนมาก จากนั้นนักลงทุนรายย่อยก็แห่แหนเข้ามาซื้อหุ้นบริษัทดอทคอม ทั้งๆ ที่ยังไม่มีผลประกอบการหรือตัวเลขกำไรใดๆ ให้ดูเลย แต่ราคาแพงสุดกู่ ทำให้ดัชนีตลาดหุ้นแนสแด็กระหว่างปี 2538 ถึง 2543 เพิ่มขึ้นสูงกว่า 400% แต่ราคาหุ้นบริษัทดอทคอมก็ยังคง...สูงขึ้น...สูงขึ้น และแล้วในที่สุด...ความหายนะก็เริ่มก่อตัวขึ้น

- 13 มี.ค.2543 เกิดข่าวการควบกิจการระหว่างบริษัทยาฮูและบริษัทอีเบย์ประสบความล้มเหลว ดัชนีแนสแด็กดิ่งลงในวันเดียวกว่า 2.6%

- 20 มี.ค.2543 หนังสือพิมพ์แบรอนออกบทความที่มีชื่อว่า “Burning Up” โดยกล่าวว่า บริษัทดอทคอมส่วนใหญ่ยังคงไม่มีผลกำไร แต่อยู่ได้เพราะเงินที่ขายหุ้นมา และเงินก้อนนั้นกำลังจะหมดไป

- 9 ต.ค.2545 ดัชนีแนสแด็กตกลงต่ำสุดมาอยู่ที่ 1,114 จุด ตกลงมาจากจุดสูงสุดกว่า 78% และได้นำพาให้บริษัทดอทคอมเหล่านี้ตกตายไปนับจำนวนไม่ถ้วน อาชีพโปรแกรมเมอร์และคอมพิวเตอร์พากันตกงานครั้งใหญ่ พร้อมๆ กับหยดน้ำตาจำนวนมหาศาลของนักลงทุนรายย่อย

2.สถานการณ์สร้าง...วีรบุรุษ

ความหายนะของบรรดาหุ้นดอทคอมในตลาดหุ้นแนสแด็ก ก็ทำให้บรรดานักลงทุนพากันเทขายหุ้นดอทคอมกันอย่างถล่มทลายและพากันเข็ดขยาด โดยคิดว่า ชาตินี้ หุ้นพวกนี้มันคง...ไม่มีวันฟื้นคืนชีพกลับมาเป็นแน่ อย่างไรก็ตาม ยังมีบริษัทดอทคอมที่มีความสามารถและยังสามารถเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง หลังเหตุการณ์ตกต่ำสุดขีดในช่วงปลายปี 2545 บริษัทที่แข็งแกร่งต่างๆ เหล่านี้ อาทิ Amazon, Google, Apple เป็นต้น สามารถสร้างผลประกอบการฝ่าวิกฤติดอทคอมไปได้ และยังสามารถสร้างผลกำไรและราคาหุ้นที่มหัศจรรย์ให้แก่นักลงทุนได้อีกด้วย

ในระยะเวลาที่ผ่านมาประมาณ 15 ปี สิ่งที่เกิดขึ้นสำหรับนักลงทุนที่ยังคงกัดฟันถือหุ้นบริษัทดอทคอมชั้นนำเหล่านี้อยู่ก็คือ ราคาหุ้นที่สูงขึ้นเป็นเท่าทวีคูณ หุ้นอเมซอนราคาเพิ่มขึ้น 75 เท่า หุ้นกูเกิลเพิ่มขึ้น 17 เท่า และหุ้นแอ๊ปเปิ้ลที่เป็นบริษัทที่ต้องประสบวิบากกรรมมาอย่างโชกโชน ก็เพิ่มขึ้นมากกว่า 170 เท่าทีเดียว ตัวเลขเหล่านี้...คุณผู้อ่านคิดว่าน่าลงทุนไหมครับ?

3.ฤา เงินสกุลดิจิทัล...จะมีโอกาสบ้างไหม?

ในขณะที่นักลงทุนหลายต่อหลายคนยังคงลังเลในการลงทุนในเงินสกุลดิจิทัล นักลงทุนอีกหลายคนรวมทั้งตัวผมเองกลับเข้ามาศึกษาอย่างจริงจัง รวมถึงยังได้ลงทุนไปในระดับหนึ่งแล้ว สิ่งที่ผมกลัวเกี่ยวกับการลงทุนประเภทนี้ไม่ใช่เรื่องของฟองสบู่ แต่เป็นเรื่องของ “หลอก...โกง...ล้ม” นั่นคือ หลอก หมายถึงมันเป็นของจริงหรือเปล่า? โกง หมายถึงระบบมันสามารถถูกโกงหรือถูกแฮ็คได้หรือไม่? และ ล้ม หมายถึงระบบเงินสกุลดิจิทัลทั้งระบบจะสูญหายตายจากโลกใบนี้ไปหรือไม่? ซึ่งผมพบว่ายังมีเงินสกุลดิจิทัลอีกหลายสกุลที่เป็น “ของจริง” และน่าลงทุน (ผมได้ทำยูทูปอธิบายเรื่อง “บิทคอยน์ หลอก...โกง...ล้ม” https://www.youtube.com/watch?v=9pAsnNY28KA&t=6s )

ท้ายนี้ โอกาสร่ำรวยของคนเรามักจะผ่านมาและผ่านไปเสมอ ซึ่งผมมักจะแนะนำให้คนรู้จักเตรียมพร้อมไว้ 3 ประการด้วยกันคือ เตรียมใจ...เตรียมเงิน...เตรียมกึ๋น เตรียมใจ หมายถึงเตรียมใจตัวเองหากต้องประสบพบกับการขาดทุนมากกว่า 50% ถ้าคุณทำไม่ได้...ควรจะเลี่ยงไปลงทุนอย่างอื่น เตรียมเงิน คือเตรียมจำนวนเงินที่คุณพร้อมจะทิ้งทั้งจำนวนได้ และสุดท้าย...เตรียมกึ๋น คือเตรียมปัญญา ศึกษาหาข้อมูล สั่งสมประสบการณ์ และรอคอยโอกาสในการลงทุน ขอให้คุณผู้อ่านโชคดีในการลงทุนนะครับ...

หาอ่านบทความ และความรู้ด้านการลงทุนของผู้เขียนได้เพิ่มเติมได้ที่ www.doctorwe.com