ผู้บริหารอย่าง 'เดนนิส มัดด์'

ผู้บริหารอย่าง 'เดนนิส มัดด์'

ถ้าคิดว่าหลังคาบ้านได้มาตรฐานแล้วก็ค่อยจ่ายเงินให้ผม แต่ถ้าไม่พอใจ ผมไม่เก็บเงินนะ

เรื่องเล่าต่อไปนี้ ผมเอามาจากหนังสือ Lifestorming ที่ตัวผมเองเป็นผู้แปล เป็นงานเขียนแนวพัฒนาตนเอง ซึ่งให้ข้อคิดที่น่าสนใจ และประยุกต์มาใช้กับการลงทุนได้เป็นอย่างดี

หนึ่งในผู้เขียนคือ มาร์แชล โกลด์สมิธ เล่าว่า สมัยเด็ก ครอบครัวของเขายากจนมาก อยู่บ้านเก่าซอมซ่อ หลังคาก็รั่ว วันหนึ่ง พ่อของเขาจ้างช่างชื่อ 'เดนนิส มัดด์' มาทำหลังคาบ้านใหม่ โดยตัวเขาจำต้องรับหน้าที่เป็นลูกมือเพื่อช่วยประหยัดเงิน

ระหว่างการทำงานร่วมกัน มาร์แชลบอกว่า เขาทึ่งกับความเป็นมืออาชีพของมัดด์ ที่บรรจงเรียงกระเบื้องทีละแผ่นด้วยความประณีต ใส่ใจทุกรายละเอียด ทั้งยังช่วยสอนงานให้เขาเป็นอย่างดีโดยไม่เคยดุด่าว่ากล่าว แม้เขาจะทำผิดพลาดอยู่บ่อยครั้ง

ผ่านไปได้สักพัก ทัศนคติที่มาร์แชลมีต่องานทำหลังคาก็เปลี่ยนไป จากที่รู้สึกเหมือนถูกบังคับ กลายเป็นความสนุกและภาคภูมิใจ แม้อากาศในรัฐเคนตั๊กกี้ช่วงฤดูร้อนจะโหดร้ายมาก แต่เขาก็อยากทำงานกับ 'คุณมัดด์' ทุกๆ วัน

หลังโปรเจ็กต์เสร็จสิ้นลง มาร์แชลคิดว่าหลังคาบ้านของเขาสวยเนี้ยบมาก ครั้นมัดด์เอาใบเรียกเก็บเงินไปให้พ่อของมาร์แชล เขาบอกว่า 'บิล คุณช่วยมาตรวจงานหน่อยนะ ถ้าคิดว่าหลังคาบ้านได้มาตรฐานแล้วก็ค่อยจ่ายเงินให้ผม แต่ถ้าไม่พอใจ ผมไม่เก็บเงินนะ'

คำพูดของมัดด์ ทำให้มาร์แชลถึงกับตะลึง เพราะดูจากสีหน้าท่าทางแล้ว รู้เลยว่าเขาไม่ได้พูดเล่น แต่หมายความเช่นนั้นจริงๆ

พ่อของมาร์แชลปีนบันไดตรวจหลังคาบ้านโดยละเอียดและรู้สึกพึงพอใจอย่างยิ่ง จึงจ่ายเงินให้กับมัดด์ และมัดด์ก็แบ่งเงินให้มาร์แชลเป็นค่าแรงในฐานะลูกมือ

มาร์แชลบอกว่า การที่ เดนนิส มัดด์ บอกพ่อของเขาให้ 'จ่ายเงินตามผลงาน' ทำให้ความนับถือที่เขามีต่อมัดด์เพิ่มพูนขึ้นเต็มหัวใจ เขาบอกว่า แม้มัดด์จะยากจน แต่ก็เป็นคนมีศักดิ์ศรี 'มีระดับ' เขาถึงกับตั้งปณิธานว่า 'โตขึ้นผมจะเป็นให้ได้อย่าง เดนนิส มัดด์'

มาร์แชลซึ่งในวันนี้มีอาชีพเป็น 'โค้ช' ค่าตัวแพง และใช้วิธี 'เรียกเก็บเงินตามผลงาน' โดยยึดแบบจาก เดนนิส มัดด์ กล่าวปิดท้ายว่า หากผู้บริหารบริษัททุกคนเป็นเหมือนมัดด์ โดยเอาความภาคภูมิใจในงานเป็นหลัก เอาเงินเป็นเรื่องรอง โลกคงจะดีกว่านี้แน่

ช่วงสองเดือนที่ผ่านมา ผมไล่ดู Opportunity Day ของหลายบริษัท ผู้บริหารบางคนพูดอะไรไว้ใหญ่โตแล้วก็ทำไม่ได้ พอกลับมาเจอนักลงทุนอีกครั้งกลับ 'ตีมึน' ทำเป็นเนียน ไม่พูดถึง แล้วก็หาสตอรี่ใหม่ๆ มาโม้ต่อ

นักลงทุนที่ดีควรจำไว้ บริษัทที่น่าลงทุน ผู้บริหารต้องรับผิดชอบต่อทุกการกระทำ ทุกคำพูดของตัวเอง หาผู้บริหารอย่าง เดนนิส มัดด์ ให้เจอ แค่นี้ก็สบายใจไปกว่าครึ่งแล้ว