ความยั่งยืนทางพลังงาน มาตรฐานจากธุรกิจดิจิทัลระดับโลก
พลังงานหมุนเวียนที่สะอาด (Clean and Renewable Energy) คือ พลังงานที่ทั้งเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
และสร้างจากวัตถุดิบที่สามารถเติมเต็มตัวเองได้อยู่ตลอดเวลา โดยไม่สามารถเผาผลาญให้หมดไปภายในช่วงเวลาของมนุษยชาติ
ในต่างประเทศ Clean and Renewable Energy มักหมายถึง พลังงานจาก แสงอาทิตย์ ลม ฝน กระแสน้ำ คลื่น หรือความร้อนจากผิวโลก
ปัจจุบัน มีหลายประเทศ ที่ใช้ Clean and Renewable Energy เกินกว่ากึ่งหนึ่งของการกำเนิดไฟฟ้าที่มีใช้ในประเทศ โดยมีประเทศที่พัฒนาแล้ว เช่น นอร์เวย์ สวิตเซอร์แลนด์ สวีเดน ออสเตรีย ไอซ์แลนด์ และประเทศที่กำลังพัฒนา เช่น บราซิล เนปาล ภูฏาน ลาว เอธิโอเปีย และอีกหลากหลายประเทศในแอฟริกา ในประเทศเหล่านี้ มีหลายประเทศที่ใช้ Clean and Renewable Energy ในการกำเนิดไฟฟ้า ถึง 100%
อย่างไรก็ดี สหรัฐ มีการใช้งาน Clean and Renewable Energy เพียง 12.2% (ข้อมูลปี 2016) และคมนาคมเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่ใช้พลังงานอย่างมหาศาล โดยรถยนต์ใช้ไฟฟ้าของเทสล่า แม้จะไม่ได้ใช้น้ำมันเป็นเชื้อเพลิง ก็ได้ถูกโจมตีจากนักวิทยาศาสตร์ว่า ไฟฟ้าที่ใช้ชาร์จรถเทสล่า มาจากโรงผลิตไฟฟ้าที่ใช้แก๊สธรรมชาติหรือถ่านหิน รถที่ใช้ไฟฟ้า เลยถูกกล่าวหาว่าเป็นการย้ายมลพิษจากบนท้องถนน ไปสู่บริเวณโรงผลิตไฟฟ้า ในปริมาณที่ไม่แตกต่างกัน
ท่ามกลางข้อกล่าวหาดังกล่าว อีลอน มัสก์ ผู้ก่อตั้งบริษัทเทสล่า จึงได้ออกมาประกาศว่าศูนย์ชาร์จรถเทสล่า ต่อไปจะต้องใช้ Clean and Renewable Energy อย่างแท้จริง แม้จะต้องผลิตไฟฟ้าด้วยตนเอง
ดิจิทัล ก็เป็นอีกหนึ่งอุตสาหกรรม ที่ใช้ไฟฟ้าในการขับเคลื่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งดาต้าเซ็นเตอร์ของระบบคลาวด์คอมพิวติ้ง ที่อาศัย 1. คอมพิวเตอร์นับล้านเครื่องในการประมวลผลทั้งบิ๊กดาต้า เอไอ หรือ บล็อกเชน 2. ระบบฮาร์ดดิสก์สำหรับบรรจุข้อมูล และ 3. ระบบทำความเย็นที่ไม่มีวันล่มสลาย
ธุรกิจดิจิทัลระดับโลก ที่มีการลงทุนทั้งสำนักงานและดาตาเซ็นเตอร์อยู่ในหลากหลายประเทศ ต่างก็มีนโยบายด้านความยั่งยืนทางพลังงาน ที่น่าสนใจ
แอปเปิล ได้ประกาศความภาคภูมิใจ ว่า 100% ของดาต้าเซ็นเตอร์ของแอปเปิลที่มีอยู่ทั่วโลก ได้ใช้ Clean and Renewable Energy เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งหากรวมสำนักงานด้วย ก็จะลดลงมาเป็น 96% ขณะนี้แอปเปิลกำลังสนับสนุนให้ซัพพลายเออร์ทั้ง 100% มีมาตรการเช่นเดียวกัน
กูเกิล ก็เป็นอีกบริษัทหนึ่ง ที่ประกาศความภูมิใจที่ได้ใช้ Clean and Renewable Energy ถึง 100% โดยรวมทั้งดาต้าเซ็นเตอร์และสำนักงาน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพลังงานจากลมและแสงอาทิตย์
เฟสบุ๊ค ได้วางเป้าหมายจะใช้ Clean and Renewable Energy ให้ได้ถึง 100% และภายในสิ้นปีนี้ มีเป้าหมายจะใช้ถึง 50% ซึ่ง Clean and Renewable Energy ของเฟสบุ๊คมาจากลม
อเมซอน ได้วางเป้าหมายจะใช้ Clean and Renewable Energy ให้ได้ถึง 100% ของการใช้พลังงานโดยดาต้าเซ็นเตอร์
เหล่านี้คือ มาตรฐานจากธุรกิจดิจิตอลระดับโลกด้านความยั่งยืนทางพลังงาน ซึ่งไม่ว่าจะเป็นการวางเป้าหมายเพื่อจะใช้ Clean and Renewable Energy ให้ได้ถึง 100% หรือจะใช้ ถึง 100% ไปแล้วก็ตาม ล้วนเป็นการตอกย้ำถึงความเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง ที่ธุรกิจเหล่านี้จะนำพาชาวโลกในยุคดิจิตอลไปสู่โลกแห่ง Clean and Renewable Energy
อย่างไรก็ดี ความสำเร็จของธุรกิจชั้นนำ ย่อมเกิดขึ้นไม่ได้ หากขาดการสนับสนุนจากนโยบายภาครัฐ ธุรกิจเหล่านี้ มีการลงทุนอยู่ทั่วโลก ไม่ได้จำกัดอยู่เฉพาะในสหรัฐ ดังนั้นกลยุทธ์ที่สำคัญ คือการเลือกลงทุนอย่างเชิงรุกในประเทศที่รัฐบาลมีมาตรการสนับสนุน Clean and Renewable Energy ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของภาษี หรือการสนับสนุนการลงทุนอื่นๆ
สำหรับประเทศที่ไม่มีความชัดเจนทางด้าน Clean and Renewable Energy ก็จะทวีความเสียเปรียบ เมื่อธุรกิจชั้นนำที่มีนโยบายด้านความยั่งยืน ก็จะไม่สามาถเลือกลงทุนในประเทศเหล่านั้นได้อีกต่อไป
ข้อมูลปี 2015 ประเทศไทย มีการ Clean and Renewable Energy ในการกำเนิดไฟฟ้าเพียง 9% ซึ่งถือว่าอยู่ในอันดับที่ต่ำของโลก
ปัจจุบัน ข้อถกเถียงในระดับสากล อาจไม่ได้อยู่ที่การสร้างโรงกำเนิดไฟฟ้าที่ใช้ แก๊สธรรมชาติ VS ถ่านหิน อีกต่อไปแล้ว เพราะ ธุรกิจดิจิทัลโลก ได้เปลี่ยนมาใช้เฉพาะ ลม และแสงอาทิตย์แล้ว