เตรียมพอร์ตลงทุนรับปัจจัยไตรมาส 2

เตรียมพอร์ตลงทุนรับปัจจัยไตรมาส 2

เตรียมพอร์ตลงทุนรับปัจจัยไตรมาส 2

สวัสดีท่านผู้อ่านทุกท่าน เวลาก็เดินทางเข้าสู่เดือนเมษายนกันแล้วนะครับและก็เข้าสู่ไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ ตลาดหุ้นไทยในปัจจุบันเคลื่อนไหวขึ้นๆลงๆที่ระดับประมาณ 1,750-1,800 จุด แต่มีความกังวลจากสถานการณ์ทั้งในและต่างประเทศ  ซึ่งปัจจัยต่างๆที่เกิดขึ้นในช่วงไตรมาสที่ 1 ทั้งในและต่างประเทศ ส่งผลให้ตลาดหุ้นทั่วโลกเคลื่อนไหวในเชิงและน่าจะมีผลต่อเนื่องต่อบรรยากาศการลงทุนในไตรมาสที่ 2 นี้ด้วยเช่นกัน  ดังนั้น การจัดพอร์ตการลงทุนให้เหมาะสมนั้นในไตรมาสที่ 2 นี้  ผมเห็นว่าต้องเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์สำคัญๆ ต่างๆ ที่ยังคอยกดดันตลาดและการลงทุน ดังนี้

ประเด็นแรก คือ การขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในปีนี้ที่คาดว่าจะขึ้นถึง 3 ครั้ง ซึ่งหากมีการปรับขึ้นเร็วเกินไป ทำให้ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯปรับขึ้นส่งผลให้เงินไหลออกจากตลาดเกิดใหม่และทำให้ตลาดผันผวน ขณะเดียวกัน การที่ธนาคารกลางยุโรปและญี่ปุ่นเริ่มส่งสัญญาณการลด QE ซึ่งนั่นจะส่งผลต่อสภาพคล่องในตลาดโลกได้ 

ประเด็นที่ 2 คือเรื่องสงครามการค้าของสหรัฐฯ ที่ขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนหลายรายการ และทำให้จีนตอบโต้สหรัฐฯกลับด้วยการขึ้นภาษีสินค้าจากสหรัฐฯ เช่นกัน เป็นปัจจัยที่ทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯและเอเชียรวมทั้งไทยเกิดความผันผวน และจะเป็นประเด็นสำคัญที่ตลาดจับตามองกันต่อเนื่องในช่วงไตรมาสที่ 2 นี้

ประเด็นที่ 3  คือ ปัญหาความขัดแย้งของรัสเซียกับอังกฤษและสหรัฐฯ ในกรณีที่มีการฆ่าสายลับรัสเซียในอังกฤษ จนทำให้มีการขับเจ้าหน้าที่การฑูตออกนอกประเทศระหว่างกัน ซึ่งเป็นประเด็นที่ต้องจับตามองหากเกิดสถานการณ์ที่รุนแรงอาจกระทบต่อตลาดหุ้นกับบรรยากาศการลงทุนของยุโรปและส่งผลไปสู่ภูมิภาคอื่นได้

ประเด็นสุดท้าย คือ สถานการณ์ของราคาสินทรัพย์เสี่ยงในปัจจุบัน โดยราคาหุ้นในหลายๆตลาดรวมทั้งหุ้นไทยที่ปรับขึ้นอยู่ในระดับที่สูง (P/E 18 เท่า) ทำให้เกิดมีแรงเทขายออกมาเป็นระยะ ดัชนีหุ้นไทยจึงไปต่อได้ไม่มากเพราะกังวลจะเกิดแรงเทขาย

โดยสรุปแล้วการจัดพอร์ตลงทุนในไตรมาสที่ 2 นี้ มีคำถามและมุมมองสำคัญๆ นั่นคือ ราคาน้ำมันจะขึ้นหรือลง.? ผมมองว่าราคาน้ำมันยังเคลื่อนไหวในอยู่ในระดับกลางๆ (Neutral) คำถามต่อมาคือผลกระทบจากสงครามการค้าจบหรือยัง..? ตอบว่าตอนนี้ยังไม่จบ และสุดท้ายคือ แรงกดดันด้านอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯหมดลงหรือยัง..? ผมมองว่ายังมีแรงกดดันอยู่ในระดับกลางๆ (Neutral)

ดังนั้นแล้วด้วยสถานการณ์กับปัจจัยสำคัญข้างต้นที่ผมบอกไป พอร์ตลงทุนที่น่าสนใจและกลยุทธ์ที่ผมอยากแนะนำในช่วงไตรมาสที่ 2 นี้ มีดังนี้ครับ ..

แม้ตลาดหุ้นอาจจะมีความผันผวนจากปัจจัยต่างประเทศแต่นักลงทุนสามารถจัดพอร์ตกระจายการลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีได้ โดยเฉพาะสินทรัพย์ประเภทตราสารหนี้ที่ให้ผลตอบแทนดีและมีหลักประกันป้องกันความเสี่ยง (Collateral) จากทาง KTBST  ที่เปิดขายอย่างต่อเนื่องเหมาะกับกลุ่มนักลงทุนที่มีความมั่งคั่งสูง (High Net Worth) ซึ่ง นอกเหนือจากตราสารหนี้ นักลงทุนสามารถขอคำปรึกษาการลงทุนในสินทรัพย์อื่นๆได้จาก KTBST Wealth Management ที่คอยให้คำปรึกษาและช่วยวางแผนการลงทุนสำหรับทุกท่านครับ ... ติดต่อขอคำปรึกษาการลงทุนได้ที่ KTBST 02-648 1449 / 02- 648 -1747

ติดตามข่าวสารเรื่องการลงทุนที่น่าสนใจจาก KTBST Private Wealth Management ได้ที่

www.facebook.com/ktbst.channel