การเปลี่ยนแปลงในโลกธุรกิจ ปี2020

การเปลี่ยนแปลงในโลกธุรกิจ ปี2020

การเปลี่ยนแปลงในโลกธุรกิจ ปี2020

เมื่อประมาณ 4ปีที่แล้ว ผมได้ฟังเรื่องธุรกิจว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมหาศาลในโลกธุรกิจปี2020 ในงานประชุมวิชาการณ์ ณ ประเทศสหรัฐอเมริกา ในงานนั้นผมได้ยินเรื่อง FinTechจะมาเปลี่ยนโลกการเงินให้เปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิม เรื่องRobotics and AI และอีกเรื่องหนึ่งที่เป็นสิ่งใหม่ และแอบแปลกใจเล็กๆว่ามันจะเป็นจริงแบบนั้นหรือไม่? เพราะสิ่งหนึ่งในการประชุมนั้นเขาได้กล่าวไว้ว่า ธุรกิจในปี2020 จะมีการร่วมมือกันระหว่างธุรกิจที่มีลักษณะแตกต่างกันหลายอย่าง เพื่อเสริมพลังของธุรกิจ มีการCo-Servicesให้ลูกค้า มีการสร้างประสบการณ์ในการขายมติใหม่ๆให้ลูกค้า เน้นความสะดวกสบายในการซื้อและการรับบริการ ตัวอย่างหนึ่งที่เขาได้ยกตัวอย่าง คือ ธุรกิจทันตกรรม(Dental Business) จะมีการร่วมมือกับธุรกิจตกแต่งภายใน(Interior) ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมประหลาดใจ!!! ว่ามันจะเป็นไปได้อย่างไรที่ธุรกิจที่มีความต่างขนาดนั้นจะมีการร่วมมือกันได้ แต่ในการประชุมนั้นได้อธิบายไว้ว่า การที่ธุรกิจที่มีความแตกต่างจนลูกค้า แทบจะเป็นคนละกลุ่มกันทำให้เมื่อเกิดการรวมตัวกันจะสามารถขยายการบริการลูกค้าในวงกว้างขึ้น และครบวงจรในการบริการที่ครอบคลุมไปในทุกๆ Life Style ของลูกค้า และธุรกิจที่อยู่คนเดียวก็จะเข้าถึงลูกค้าได้ยากลำบากมากขึ้น ในตัวอย่างนี้ เขาได้ให้แนวคิดว่าลูกค้าที่มาทำฟันบางรายก็อาจจะกำลังมองหา Interior ที่เก่งในการเข้าไปตกแต่งบ้าน และอาคาร เมื่อวันที่ลูกค้ามารับบริการทันตกรรม เมื่อได้รับ Offer พิเศษในร้านทันตกรรมที่เขาไว้ใจ ก็เป็นเหมือนประตูผ่านแรกที่จะได้ฟังและได้ลองพิจารณา(จากสถิติว่าไว้เมื่อลูกค้าเปิดใจ หรือTrust จนมาเลือกใช้สินค้าหรือบริการแล้วนั้น เมื่อได้รับเสนอบริการเสริมจากบริษัทหรือห้างร้านเดิมก็จะง่ายในการเปิดใจรับฟัง ยิ่งถ้าเป็นธุรกิจทันตกรรมแล้ว ลูกค้ายอมเปิดปากให้คุณหมอได้เป็นชั่วโมงๆ ก็แสดงว่าเขาเชื่อใจและไว้ใจมาก) ทำให้การเปิดใจรับฟังเกิดขึ้นทันที และยิ่งถ้าลูกค้ามีความต้องการเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ก็ง่ายมากที่จะมีการซื้อซ้ำหรือซื้อเพิ่มเติมกับ สินค้า หรือบริการ ยิ่งถ้าได้ Co-Promotion ส่งเสริมไปอีกยิ่งทำให้การตัดสินใจเกิดได้ทันที เช่น ถ้าคุณมาดัดฟันกับทางเรา เราจะมีส่วนลดพิเศษให้คุณเมื่อมีการตกแต่งบ้านกับบริษัท Partner ของเรา

วันนั้นเรื่องที่ผมได้ฟัง ดูเป็นเรื่องที่ตลกสำหรับผม แต่มาวันนี้เราเริ่มเห็นธุรกิจหลายๆ ธุรกิจเริ่มมีการรวมตัวกันเพื่อเสริมศักยภาพในการดูแลลูกค้าให้ทั่วถึงและดีที่สุด เช่น เราเห็นผู้ผลิตโดนัทร่วมมือกับร้านสะดวกซื้อ เราเห็นธุรกิจWealth Managementร่วมมือกับร้านกาแฟแบบLife Style(WCI and Casa Lapin) เราเห็นBNK48ร่วมมือกับทีมฟุตบอลทีมชาติไทย นี้เป็นตัวอย่างที่จะมีมากขึ้นทุกวันในโลกธุรกิจสมัยใหม่

และการร่วมมือทางธุรกิจล่าสุด ที่เป็นการร่วมกันระหว่างธุรกิจที่ถูกขนานนามว่า King of Retail อย่าง Jaymart Group กับธุรกิจประกันภัย อย่าง บริษัท ฟีนิกซ์ประกันภัย (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ที่มีผู้บริหารคนรุ่นใหม่ที่มาจากสายเทคโนโลยี จนเกิดนวัตกรรมใหม่ในโลกการประกันภัย(InsurTech) สู่ บริษัท เจพี ประกันภัย จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการการประกันภัยที่สามารถเข้าถึงได้ง่ายโดยใช้เทคโนโลยี โดยการสร้างInsurTech Ecosystem ให้Partner ตัวแทน/นายหน้า และInsurTech Company ร่วมกันสรรสร้างสินค้า และบริการ ที่สามารถให้บริการลูกค้าได้ทุกระดับ ตอบความต้องการการประกันภัยได้อย่างทั่วถึง และเหมาะสม เพื่อให้คนไทยทุกคนได้รับประโยชน์จากการประกันภัยอย่างเต็มที่ด้วยแนวคิด “ไปด้วยกัน เร็วกว่า ดีกว่า และถูกลง (Faster, Better, Cheaper, Together)

ต่อจากนี้ไปเราคงเห็นการร่วมมือกันอีกหลายบริษัท หลายProject สุดท้ายมันก็ขึ้นอยู่ว่าเราจะเลือกที่จะปรับตัว หรือถูกสถานการณ์บังคับให้ปรับตัว คุณเป็นคนที่เลือกได้เองครับ