เมืองชาละวัน สนามเล็ก..ตระกูลใหญ่

เมืองชาละวัน สนามเล็ก..ตระกูลใหญ่

สนามเลือกตั้งเมืองชาละวัน หรือเมืองพิจิตร ไม่ใหญ่โต การเลือกตั้ง 2554 มี ส.ส.ได้ 3 คน และหลังปิดหีบนับคะแนนเหมือนล็อกผลไว้ล่วงหน้า

เพราะผู้ชนะ 3 เขตมาจาก 3 ตระกูลการเมืองคือ วินัย ภัทรประสิทธิ์, นราพัฒน์ แก้วทอง และ ศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์

ล่าสุด ศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ ลูกชาย เสธ.หนั่นหอบหิ้ว ชาติชาย เจียมศรีพงษ์ อดีตนายก อบจ.พิจิตร มาซบพรรคภูมิใจไทย เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ส่วนนราพัฒน์อยู่พรรคประชาธิปัตย์ตามเดิม แต่วินัย ภัทรประสิทธิ์ ยังไม่มีการยืนยันว่า จะอยู่พรรคชาติไทยพัฒนาต่อไปหรือไม่?

จะว่าไปแล้ว ตลอด 50 กว่าปีมานี้ สนามการเมืองพิจิตรก็วนเวียนอยู่กับคนการเมือง 3 ตระกูลดังกล่าวข้างต้น

ตระกูล “ภัทรประสิทธิ์” กับ “แก้วทอง” ออกสตาร์ททางการเมืองพร้อมกันในปี 2518

หย่งคุน แซ่เล้าวิศาล ภัทรประสิทธิ์ พ่อค้ารายย่อยตวงวัดสุราขายเป็นขวดๆ ในอดีตไต่เต้าเป็นกำนัน ต.หัวดง อ.เมือง จ.พิจิตร จนชื่อเสียงเป็นที่รู้กันทั่วไปในหมู่พ่อค้าคนจีนชาวเหนือ

กำนันหย่งคุน ตั้งพรรคพัฒนาจังหวัด เป็น ส.ส.พิจิตร 2 สมัย และตอนหลัง ได้ลูกชายคือ พระประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ สืบทอดมรดกการเมือง เป็น ส.ส.พิจิตรมาหลายสมัย

ด้าน วินัย ภัทรประสิทธิ์ เป็นลูกชายของ “เสี่ยเอียง” วิรัตน์ ภัทรประสิทธิ์ อดีตกำนัน ต.หัวดง (น้องชายของหย่งคุน)

ตระกูล แก้วทองนั้น ไพฑูรย์ แก้วทอง เจ้าของธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ลงสมัคร ส.ส.ครั้งแรกในนามพรรคพลังใหม่ ก่อนจะย้ายไปพรรคราษฎร ,พรรคความหวังใหม่ และจอดป้ายที่พรรคประชาธิปัตย์มาตั้งแต่เลือกตั้ง 2539

จะว่าไปแล้ว การเมืองพิจิตรมีสีสันมากขึ้น เมื่อ “เสธ.หนั่น” พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ อดีตนายทหารคนสนิท พล.อ.ฉลาด หิรัญศิริ ได้เป็น ส.ส.พิจิตร ปี 2526 ในสีเสื้อประชาธิปัตย์

การเลือกตั้ง 2539 และ 2544 ปรากฏว่า 3 ตระกูลคือ “แก้วทอง-ขจรประศาสน์-ภัทรประสิทธิ์” ผนึกกำลังใต้ร่มเงาประชาธิปัตย์ ก่อนที่ “เสธ.หนั่น” แยกตัวออกไปตั้งพรรคมหาชนในการเลือกตั้ง 2548 แต่พบความปราชัยยับเยิน

เลือกตั้ง 2550 สามตระกูลการเมืองพิจิตรแยกกันอยู่คนละพรรค โดย “แก้วทอง” อยู่ ปชป. ,“ภัทรประสิทธิ์” ย้ายไปตั้งพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา และ “ขจรประศาสน์” แอบไปซบชาติไทยพัฒนา

กระทั่งเลือกตั้ง 2554 ทายาท ขจรประศาสน์กับ ภัทรประสิทธิ์ยังสวมเสื้อชาติไทยพัฒนา และมาถึงวันนี้ สองตระกูลส่อเค้าแยกทางกันอีกหน

น่าสนใจ ตรงที่ “ยอด” ศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ ย้ายมาภูมิใจไทย แถมพ่วงอดีตนายกฯ ชาติชาย เจียมศรีพงษ์ ที่มีเครือข่าย สจ.อยู่ในทุกอำเภอมาร่วมทีมด้วย

การนำทีม อบจ.พิจิตร เข้ามาของภูมิใจไทย ก็เป็นไปตามยุทธศาสตร์ “อันดับ 2” ในเขตเลือกตั้ง เพื่อหวังผลคะแนนปาร์ตี้ลิสต์

สนามเลือกตั้งพิจิตรสมัยหน้า คงจะมีการต่อสู้กันดุเดือด เพราะค่ายเพื่อไทยก็เตรียมแย่งเก้าอี้ ส.ส.จาก 3 ตระกูลนี้เช่นกัน