กระแสย้อนยุค

กระแสย้อนยุค

กระแสย้อนยุค

กระแสตื่นตัวสนใจประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมไทย รวมถึงโบราณราชพิธี ถูกจุดประกาย ตั้งแต่การเตรียมการในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในปี 2560

งาน "อุ่นไอรัก" ที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงมีพระราชดำริ และทรงโปรดเกล้าฯให้จัดขึ้นในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ถึงเดือนมีนาคม 2561 ถือเป็นการจุดพลุให้คนไทยลุกขึ้นมาสนใจแต่งกายย้อนยุค หรือแต่งชุดไทย เพื่อให้ถ่ายรูปเข้ากับบรรยากาศในงาน และทำให้ชาวต่างชาติตื่นตาตื่นใจกับรูปถ่ายคนไทยในชุดไทยตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 จนถึงชุดไทยยุคปัจจุบัน ซึ่งสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถในรัชกาลที่ 9 ทรงพระราชทานไว้หลายแบบ

หลังจากกระแสย้อนยุคและความสนใจในประวัติศาสตร์และความเป็นไทยถูกจุดติดแล้ว ละครเรื่อง "บุพเพสันนิวาส" ยิ่งช่วยเสริมให้ผู้คนกล้าที่จะแต่งชุดไทยสมัยต่างๆ ออกไปถ่ายรูปตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆมากขึ้น โดยเฉพาะตามโบราณสถาน ซึ่งเป็นกระแสที่มาแรงอย่างยิ่ง

ดิฉันจึงอยากเสนอให้ทุกหน่วยงาน ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงพาณิชย์ ฯลฯ ช่วยกันต่อยอดกระแสนี้ เพื่อประโยชน์ต่อประเทศไทย

ดร.ดิภัค ซี. เจน อดีตคณบดี โรงเรียนบริหารธุรกิจเคลลอกก์ ซึ่งเป็นอดีตผู้อำนวยการสถาบันบริหารธุรกิจศศินทร์ ด้วย เคยกล่าวว่า จุดเด่นของประเทศไทย คือ “ความเป็นไทย” หรือ Thainess ซึ่งมีความเป็นเอกลักษณ์ ด้วยความเป็นคนไทยที่เป็นมิตร อบอุ่น และมีจิตใจดี

สิ่งเหล่านี้ เมื่อผสมผสานกับความหลากหลายทางวัฒนธรรมของท้องถิ่นต่างๆ ทั้งความแตกต่างของภูมิประเทศ อาหารการกิน ประเพณีท้องถิ่น ทำให้เมืองไทย “มีเสน่ห์”ค่ะ

จริงๆแล้วคำว่า “Amazing Thailand” ใช้อธิบายความเป็นไทยได้ดีมาก เพราะเมืองไทยมีสิ่งที่ทำให้ผู้มาเยือนแปลกใจ ประหลาดใจได้ทุกวัน แต่เราก็ใช้มาเกิน 10 ปีแล้ว  หากจะขยับไปตลาดบนที่มีกำลังซื้อสูง ต้องจูงใจด้วยการ “เป็นไปตามความคาดหมาย” หรือ “เหนือความคาดหมาย” ไม่ต้องการความตื่นเต้นจากความประหลาดใจมากนัก เพราะความประหลาดใจมีได้ทั้งที่เป็นบวกและลบ

เสนอว่าถึงเวลาที่จะต้องขาย “Charming Thailand” เมืองไทยที่มีเสน่ห์ มาแล้วหลงรัก มาแล้วประทับใจ และทำให้อยากกลับมาอีก

การมีนักท่องเที่ยวไทยแต่งตัวแบบย้อนยุคไปถ่ายรูปตามสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญต่างๆ  ไปวัดวาอาราม หรือแม้ไปเดินซื้อของ รับประทานอาหารตามที่ต่างๆ ถือเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของเมือง

ในบรรดาประเทศที่พัฒนาแล้ว ญี่ปุ่นถือเป็นประเทศที่ผู้คนนิยมแต่งชุดประจำชาติในเทศกาลและวันสำคัญต่างๆมากที่สุด  เช่น วันเด็กผู้หญิง วันเด็กผู้ชาย งานแต่งงาน เทศกาลฤดูร้อน เทศกาลชมดอกไม้ในฤดูใบไม้ผลิ ฯลฯ และการแต่งกายด้วยขุดประจำชาตินี้ ถือเป็นเสน่ห์ เป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติให้ไปเยือน เพื่อเก็บรูปถ่ายของสถานที่สวยๆของญี่ปุ่น พร้อมบรรยากาศผู้คนในชุดกิโมโนหรือยูกาตะ

สมัยก่อน ชาวเอเชียจะต่างกับชาวยุโรปและอเมริกันซึ่งชอบถ่ายรูปวิวทิวทัศน์โดยไม่มีคนอยู่ในรูป จริงๆแล้วดิฉันว่ามีสาเหตุจากการที่ไม่อยากรบกวนให้คนอื่นถ่ายรูปให้ตัวเอง แต่พอเทคโนโลยีปรับเปลี่ยนไป มีกล้องที่สามารถหันมาถ่ายตัวเองได้ (selfie) ปัจจุบันนี้ ไม่ว่าจะเป็นชาวยุโรป อเมริกันหรือเอเชีย ล้วนแต่ชอบถ่ายรูปตัวเองกับสถานที่ต่างๆทั้งสิ้น

กลุ่มที่ไปแบบสุดโต่งเลย คือนักท่องเที่ยวชาวจีนค่ะ บางครั้งไม่ได้สนใจดูวิวหรือฟังเรื่องราวอะไรเลย ไปเพื่อถ่ายรูปไปลงโซเชียลมีเดียไว้อวดชาวบ้านว่า “ได้ไปแล้ว” หรือที่เป็นสำนวนว่า “Been There” “ไปมาแล้วจ้า”

การปลุกกระแสย้อนยุค นอกจากจะช่วยเรื่องการดึงดูดให้ผู้คนไปท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆมากขึ้นแล้ว ชุมชนยังสามารถได้ประโยชน์จากการขายสินค้า ให้เช่าชุด หรือขายชุดไทยประจำถิ่น สินค้าที่ระลึก อาหารการกินแบบไทยๆก็จะขายดีขึ้น และการขายจะมีมูลค่าเพิ่มมากขึ้น  ผ้าไหมไทยสวยๆก็จะมีตลาดกว้างขึ้น คนจะนำมาใช้สวมในวันต่างๆบ่อยขึ้น

ยกตัวอย่าง ค่าเช่าชุดยูกาตะ (เสื้อผ้าฝ้ายสำหรับใส่แบบไม่เป็นทางการและสวมในฤดูร้อน) ใส่เดินไปมาครึ่งวันในเมืองเกียวโตราคาประมาณ 2,000 เยน (ประมาณ 600 บาท) มีร้านค้าบางแห่ง นำชุดยูกาตะแบบง่ายๆมาขายในราคา 2,500 ถึง 3,500 เยน (ประมาณ 750 ถึง 1,050 บาท) บางคนจึงซื้อใส่ถ่ายรูป แทนที่จะเช่า  ใช้งานเสร็จแล้วยังได้ชุดกลับบ้านไปเป็นที่ระลึกด้วย

พิสูจน์ได้ชัดเจนว่าการแต่งกายสวยงามดึงดูดผู้คน  สัปดาห์ที่ผ่านมา ดิฉันกับสามีและเพื่อนๆแต่งกายย้อนยุคเพื่อไปแสดงในงาน คืนเหย้าจุฬาฯร้อยเอ็ดปี แน่นอนเพื่อนๆต้องมาถ่ายรูปด้วยกันอยู่แล้ว แต่การแต่งกายดึงดูดคนที่ไม่รู้จักด้วยค่ะ  ตลอดงาน จนกระทั่งตอนเดินกลับหลังเลิกงาน มีคนที่เราไม่รู้จักมาขอถ่ายรูปด้วยมากมาย เขาไม่ได้ถ่ายรูปเพราะอยากถ่ายกับดิฉัน แต่เขาถ่ายรูปเพราะอยากถ่ายกับคนแต่งตัวแบบย้อนยุคค่ะ

เริ่มเลยค่ะ สงกรานต์นี้ สวมชุดไทยท้องถิ่น อนุรักษ์ประเพณีไทย  ตามด้วยชุดชาวนาในวันพืชมงคล  ชุดไทยในวันสำคัญทางศาสนาทุกวัน คือ มาฆบูชา วิสาขบูชา อาสาฬหบูชา เข้าพรรษา ออกพรรษา และวันสำคัญที่จะทำให้ชุดไทยสวยในช่วงกลางคืน คือ วันลอยกระทง