ใช้อุปสรรคเป็นพลังในการคิดหาความสำเร็จ

ใช้อุปสรรคเป็นพลังในการคิดหาความสำเร็จ

หลายคนบ่นอย่างหงุดหงิดว่า ทำไมงานของฉันเต็มไปด้วยอุปสรรค โดยลืมสังเกตว่าทุกครั้งที่เจออุปสรรค เจอข้อจำกัดต่างๆ ตนเองก็ผ่านไปจนได้

 และผ่านไปได้โดยมีคำตอบใหม่ๆ มีหนทางใหม่ๆ หรือบางที ก็ได้เพื่อนใหม่จากหนทางในการเอาชนะอุปสรรคเหล่านั้น ในทางตรงกันข้าม งานที่ว่าง่ายๆ ที่ผ่านไป กลับไม่ได้ให้อะไรใหม่ๆ กับเราแต่อย่างใด ทำแต่งานง่ายๆ สักปีสองปี ฝีมือก็หดหาย คนทำงานเก่งหลายคนกลายเป็นคนบริหารที่ย่ำแย่ เพราะไปได้ตำแหน่งที่มีแต่งานง่ายๆ ชี้นิ้วสั่งคนโน้น คนนี้ไปแต่ละวันเท่านั้น 

เล่ากันว่า สาเหตุหนึ่งที่ทำให้องค์กรของรัฐที่เคยเก่งกาจเรื่องเทคโนโลยี กลายเป็นองค์กรง่อยเปลี้ยเสียขาในด้านเทคโนโลยี ภายในเวลาไม่กี่ปี เพราะองค์กรนั้นมัวแต่มีความสุขอยู่ระยะหนึ่งกับการทำตัวเป็นเสือนอนกิน คอยเก็บแค่ค่าต๋ง ไม่ได้ลุยแก้ปัญหาเอาชนะอุปสรรคในด้านการให้บริการเทคโนโลยีเหมือนแต่เดิม หลังจากหมดค่าต๋งไม่เท่าใด ก็ทำอะไรแทบไม่ได้เลย อุปสรรคและข้อจำกัดทำให้คนเราเก่งขึ้น ถ้าเรารู้ตัวว่าเรากำลังทำอะไรกับอุปสรรคใด

ถ้าไม่อยากให้ใครเก่งขึ้น วิธีง่ายที่สุดคือให้ทำแต่งานง่ายๆ ต่อเนื่องไปนานๆ โดยไม่พานพบอุปสรรคใดๆ พักเดียวเท่านั้น ลูกเสือที่แคล่วคล่องว่องไว ก็กลายเป็นแมวอ้วนตัวโตอีกตัวหนึ่งเท่านั้น ไม่มีพิษมีภัยอีกต่อไป ดังนั้นเพื่อไม่ให้ตัวเราเปลี่ยนจากเสือที่ปราดเปรียวว่องไวในการงาน กลายเป็นแมวอ้อน รอคนมาให้ข้าวกินไปแต่ละมื้อ จงพยายามสร้างอุปสรรคให้กับงานที่ต้องทำอย่างชาญฉลาด ถ้าพบว่ามีเวลาทำงานเหลือเฟือ เกินกว่าที่ต้องการในการทำงานใดงานหนึ่ง ถ้าปล่อยเช่นนั้นไปเรื่อยๆ เราจะทำงานเดิมได้ช้าลง คือเก่งน้อยลง ดังนั้นให้ตั้งกำหนดเวลาที่งานต้องเสร็จให้กับตนเอง อย่าให้ตั้งเวลามากเกินไป หรือน้อยเกินไปจนไม่มีทางทำสำเร็จ ค่อยๆ เพิ่มข้อจำกัดเรื่องเวลาไปทีละเล็กทีละน้อย จนพบว่าเราทำงานได้เร็วขึ้นจริงๆ เราสามารถเปลี่ยนตัวเราจากการเป็นผู้ชำนาญในการทำงาน ไปเป็นผู้เชี่ยวชาญในการสร้างสรรค์งานได้ โดยการกำหนดอุปสรรคที่ทำให้เราต้องค้นหาหนทางใหม่ๆ ในการทำงานเดิมให้เสร็จทันเวลาที่ลดลง

ถ้ามีคนช่วยงานมากมายมหาศาล ชี้นิ้วไปทางไหนก็มีคนวิ่งมาช่วยทำ ถ้าไม่อยากได้ปริญญาชี้นิ้วบัณฑิต ให้ลดคนช่วยงานลงจนพบว่า น้อยกว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว โดยต้องค้นหาให้เจอว่าจำนวนคนที่ลดลงไปนั้นมีผลต่อวิธีทำงานอย่างไร หลังจากนั้นให้ลองนึกดูว่าถ้าเปลี่ยนส่วนใดของวิธีการทำงานแล้วจะสามารถลดคนช่วยงานลงไปได้อีก ถ้ารู้จักใช้ประโยชน์จากอุปสรรค เราจะคิดใหม่ได้ดีขึ้น

อย่ามัวแต่ฟูมฟายว่าลำบากเหลือเกินกับงานนี้ ซึ่งคนปกติมักมีอาการนี้เมื่อพบกับอุปสรรค ขอให้เชื่อมั่นในตนเองแล้วสักพักก็จะกลับมาหาหนทางที่จะเอาชนะอุปสรรคนั้น เรียนมามากหรือน้อยต่างกันไม่มากเท่ากับเชื่อมั่นในตนเองน้อยกับมาก ธรรมชาติของมนุษย์พยายามเอาชนะอุปสรรคทั้งปวงอยู่แล้ว เพียงแต่ถ้าอุปสรรคที่ใหญ่โตมากๆ อาจต้องใช้เวลา และความพยายามมากหน่อยกว่าจะเห็นผล ซึ่งระยะเวลาและปริมาณความพยายามนี่แหละที่บางคนทนได้ บางคนทนไม่ได้ บางคนจึงก้าวผ่านอุปสรรคไปได้ และพร้อมจะเผชิญกับอุปสรรคใหม่ๆ ได้อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย แต่บางคนกลับยอมแพ้ต่ออุปสรรคเหล่านั้น และทนอยู่กับสภาพเหมือนผู้แพ้ต่อไปเรื่อยๆ ยิ่งนานก็ยิ่งทดถอย เพราะหมดความมั่นใจในฝีมือของตนเองลงไปเรื่อยๆ

ขอให้จดจำไว้เสมอว่าผู้ที่ประสบความสำเร็จ ไม่ใช่คนโชคดี ดวงดีที่ทำงานได้โดยราบรื่น ปราศจากอุปสรรคใดๆ แต่คือคนที่รู้จักเอาชนะอุปสรรคนั้นไปได้ด้วยดี ต่างหากใครอยากให้ลูกหลานเป็นคนที่ประสบความสำเร็จ ต้องรู้จักสร้างอุปสรรคให้ลูกหลานอย่างชาญฉลาด อย่ามากไปหรือน้อยไป ลูกหลานโตขึ้นจะกลายเป็นเสือที่ปราดเปรียว ถ้ามัวแต่สร้างความง่ายสารพัดให้ลูกหลาน ท่านกำลังทำให้ลูกหลานท่านกลายเป็นแมวอ้วนที่กินเป็นนอนเป็นเท่านั้น โรงเรียนที่สร้างแต่ความสบายให้นักเรียน ที่หลายคนชื่นชอบนั้นเป็นได้แค่โรงเรียนสอนให้เป็นแมวอ้วนที่อ่อนด้อยความสามารถเท่านั้น