โรงเรียนของเรา ครูของเรา

โรงเรียนของเรา ครูของเรา

อ่านบทความอดีตนักเรียนเตรียมอุดมศึกษารุ่นพี่ เรื่อง “80 ปีเตรียมอุดมศึกษา” ของ “อาจารย์โกร่ง” วีรพงษ์ รามางกูร

แล้วก็หวนนึกถึงเหตุการณ์หลายอย่างเป็นเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยที่อยู่ในความทรงจำ

อาจารย์โกร่ง เป็นรุ่น 23 เราเป็นรุ่น 29 จึงเป็นรุ่นพี่ถึง 6 ปี เป็นหกปีที่หลายอย่างเปลี่ยนแปลง สมัยอาจารย์โกร่ง ตึก 1 เป็นที่เรียนแผนกวิทย์ แต่สมัยผมเป็นของเด็กศิลป์ ส่วนเด็กวิทย์นั้นไปเรียนตั้งแต่ตึก 2, 3 และอาคารอรชร

ไม่แน่ใจว่าสมัยอาจารย์โกร่งมีจัดเป็นห้อง King, Queen หรือยัง แต่สมัยผมนั้นมีเรียกกันแล้ว ทั้งแผนกวิทย์ และศิลป์ ใครที่ได้อยู่สองห้องนี้ ถือว่าเป็นสุดยอดของแผนก

สมัยอาจารย์โกร่ง แผนกวิทย์มีเรียนภาษาต่างประเทศนอกจากภาษาอังกฤษ มีทั้งเยอรมัน ฝรั่งเศส แต่สมัยผมนั้น เด็กวิทย์ไม่เรียนภาษา มีแต่เด็กศิลป์ที่จะต้องเรียน แต่ทราบว่าเดี๋ยวนี้เด็กวิทย์ก็สามารถมาเรียนภาษาต่างประเทศได้เหมือนสมัยอาจารย์โกร่ง ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี

ผมเรียนไม่เก่งเท่าอาจารย์โกร่ง มาจากต่างจังหวัด สอบเข้าแผนกวิทย์ไม่ได้ แต่มาติดสำรองแผนกศิลป์คำนวณ (ซึ่งเพิ่งตั้งก่อนหน้ารุ่นผมสักสองสามปี) เลยไม่กล้าเรียน แล้วตัดสินใจเปลี่ยนมาเรียนแผนกศิลป์ฝรั่งเศส ทั้งๆ ที่ไม่เคยมีพื้นฐาน อา เบ เซ เด สักตัว จำได้ว่าเรียนแผนกศิลป์ฝรั่งเศส แต่ภาษาไม่ค่อยดีนี่ หนักหนาสาหัสเหมือนกัน ถึงขนาดสอบภาษาอังกฤษตกคนเดียวในห้องก็เคย

แต่ที่โรงเรียนเตรียมฯ ได้เรียนกับคุณครูที่สอนเก่งและเอาใจใส่นักเรียนมาก โดยเฉพาะอาจารย์คุณหญิงพรรณชื่น รื่นศิริ ที่ผมสอบภาษาอังกฤษของท่านตกคนเดียวในห้อง เลยถูกท่านขอร้องแกมบังคับให้กินข้าวกลางวันแค่ 15 นาที แล้วมาเรียนเพิ่มเติมกับท่านในห้องพักครูคนเดียวเป็นเดือนๆ ท่านก็ทานข้าวไปสอนผมไป 

จากเด็กที่สอบภาษาอังกฤษตกคนเดียวในห้อง พอสอบ ม..5 กลายเป็นที่หนึ่งของห้อง แล้วก็ติดบอร์ดแห่งประเทศไทยคนเดียวของห้องอีกต่างหาก เป็นที่แปลกใจของเพื่อนทั้งห้องอย่างมาก

จำได้ว่าสมัยนั้น การประกาศผลสอบ ม..5 จะประกาศทางสถานีวิทยุประเทศไทย หลังสอบเสร็จได้เดินทางกลับบ้านต่างจังหวัดที่ชัยนาท วันประกาศผลสอบ นั่งรถเมล์จากชัยนาทมาที่ตาคลี เพื่อนั่งรถไฟจากสถานีตาคลี เข้ากรุงเทพฯเจอเพื่อนที่เรียนมัธยมต้นที่นครสวรรค์ด้วยกันบนรถไฟ 

เพื่อนบอกว่า เราสอบติดบอร์ดด้วยนะ...ฟังแล้วก็ไม่แน่ใจ ก็เราเพิ่งสอบตกคนเดียวในห้องตอนสอบกลางเทอม ม..5 ไม่กี่เดือนมานี้เอง

ชีวิตเด็กต่างจังหวัดที่ไม่เคยเข้ากรุงเทพฯ นั้น ต้องร่อนเร่พเนจรพักหอพัก เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาหลายแห่งกว่าจะจบมหาวิทยาลัย แต่ก็ต้องต่อสู้ เพราะคุณแม่พูดบ่อยๆ ว่าถ้าไม่เรียนหนังสือก็ไม่มีสมบัติอะไรจะให้นะ

เพิ่งรู้เหมือนกันว่าอาจารย์โกร่งเป็นรุ่นพี่ที่เตรียมอุดมศึกษาจากบทความนี้ เพราะตอนหลังที่ไปทำงานสำนักงานกฎหมาย ก็เจอกับอาจารย์โกร่งในฐานะที่ปรึกษาของสำนักงาน คุยกันหลายครั้งแต่ไม่เคยถามว่าเรียนมัธยมปลายที่ไหน จนถึงวันนี้

ที่เหมือนกันกับอาจารย์โกร่งอีกอย่างคือ ลูกสองคนก็เรียนเตรียมอุดม เหมือนลูกอาจารย์โกร่งทั้งสองคน

แต่ไม่แน่ใจว่าคุณภรรยาอาจารย์โกร่งเรียนโรงเรียนเตรียมอุดม เหมือนคุณภรรยาผมหรือไม่

เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย เล่าสู่กันฟังในวันเบาๆ ครับ​