ส่งออกออนไลน์อย่างไร เมื่อจีนครองตลาดโลก(1)

ส่งออกออนไลน์อย่างไร เมื่อจีนครองตลาดโลก(1)

การส่งออกไปต่างประเทศมีขั้นตอน กฎระเบียบ วิธีการที่ซับซ้อนกว่า ทำให้ผู้ประกอบการไทยน้อยคนนักที่จะทำการค้าแบบนี้

การส่งออกออนไลน์ในประเทศไทยนั้นถือว่ายังมีไม่มาก ในวงการอีคอมเมิร์ซ การส่งออกแบบ “cross-border” หรือการขายข้ามระหว่างประเทศถือว่าเป็นจุดสูงสุด เพราะส่วนใหญ่เราจะขายกันแบบภายในประเทศ(domestic) มากกว่าซึ่งจะได้ราคาไม่ดีเท่าใดนัก 

แต่หากเป็นการค้าขายข้ามแดน จะทำให้ได้ราคาที่ดีมากกว่า แต่ส่วนใหญ่ยังคงติดปัญหาในเรื่องของภาษาและช่องทางที่จะส่งออกไปยังต่างประเทศ ดังนั้นก่อนที่จะส่งออกไปต่างประเทศจำเป็นต้องมีความเข้าใจในสินค้าของตนให้ดีเสียก่อน แล้วจึงค่อยๆ ขยายออกไป

เพราะการส่งออกไปต่างประเทศนั้นจะมีเรื่องของขั้นตอนต่างๆ มีกฎระเบียบ วิธีการต่างๆ ที่ซับซ้อนกว่า ทำให้ผู้ประกอบการไทยน้อยคนนักที่จะทำการค้าแบบนี้ มาดูว่าเราต้องเตรียมพร้อมรับมือในเรื่องใดบ้าง

คำถามแรก “สินค้าประเภทใดที่นิยมส่งออก” ประเทศไทยสามารถที่จะส่งออกได้เกือบทุกอย่าง แต่ต้องรู้เสียก่อนว่าจะส่งไปที่ไหนซึ่งแต่ละที่จะมีความต้องการที่แตกต่างกัน ที่ผ่านมาไทยเรามีสินค้าที่ส่งออกหลักๆ คือกลุ่มอาหาร เสื้อผ้า วิธีการเข้าไปสมัยก่อนจะไปตามอีเวนท์เทรดโชว์ ตามงานเอ็กซ์โป ไปขายตรง หรืออาจหาตัวแทนในประเทศนั้นๆ ซึ่งมักต้องใช้เวลามาก 

ทว่าการส่งออกในรูปแบบใหม่นั้นเปลี่ยนไปแล้ว แทนที่จะต้องเดินทางไปเองก็เริ่มมีช่องทางออนไลน์เข้าไปค้าขายได้ เช่น มีเว็บที่เป็นมาร์เก็ตเพลสให้บริการ หากเรามีสินค้าก็สามารถนำสินค้าไปวางประกาศขายได้ และส่วนใหญ่มักเป็นในรูปแบบธุรกิจสู่ธุรกิจ (บีทูบี)

อย่างไรก็ดี แต่ละประเทศจะมีมาร์เก็ตเพลสของตัวเอง ซึ่งแบ่งออกเป็นหลายเทียร์ เทียร์แรกคือแบบ “country base” เช่น หากต้องการไปขายที่ประเทศอินเดียก็จะมี India Mart เป็นมาร์เก็ตเพลสที่รวมบริษัทต่างๆ ของอินเดียเอาไว้ ซึ่งผู้ค้าสามารถที่จะนำเอาสินค้าหรือบริการไปลิสต์ไว้หรือเอาไปเปิดขายได้ หรือที่จีนก็มีอาลีบาบา หรือ Global Sources ที่เป็นมาร์เก็ตเพลสระดับโลก 

แบบที่สองก็คือมาร์เก็ตเพลสที่เป็น “vertical base” หรือ “Industry base” ที่จะรวมบรรดาคนที่ขายแบบเฉพาะอย่างเช่น อาหาร เนื้อสัตว์ สินค้าการเกษตร หรือที่เป็นสินค้าโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งขณะนี้จะมี vertical marketplace แบบบีทูบีที่เจ้าของสามารถเข้าไปลิสต์เองได้ ยิ่งเปิดตัวเองด้วยการเอาตัวเองไปไว้ในมาร์เก็ตเพลสเหล่านี้ได้มากเท่าไหรเท่ากับได้เปิดสาขาเพิ่มโอกาสเข้าถึงกลุ่มคนได้มากขึ้นเท่านั้น

สิ่งแรกที่หากคิดจะเริ่มต้นทำก็คือ ควรที่จะมีคนที่รับผิดชอบในเรื่องนี้โดยตรง เป็นเหมือน virtual sales ที่สามารถจะเปิดร้านค้าได้เองทั่วโลก และมีแคตตาล็อกที่สามารถทำให้คนสนใจ ขอย้ำว่า “ต้องทำแคตตาล็อกให้ดูน่าสนใจและดึงดูดคนได้จริงๆ”

คอนเทนต์ทางธุรกิจต้องให้ความสำคัญมากในเรื่องของความน่าเชื่อถือ เช่น เราเป็นใคร เปิดมานานเท่าใด ผ่านการตรวจสอบมาตรฐานใดบ้าง รายละเอียดสินค้าต้องใส่ให้ครบ ฯลฯ โดยข้อมูลเหล่านี้สามารถที่จะนำไปโพสต์ไว้ในแหล่งอื่นๆ ได้ด้วย 

จากนั้นเมื่อมีช่องทางแล้วก็ต้องกลับมาที่การทำการตลาด ว่าจะทำอย่างไรถึงจะดึงคนเข้ามาซื้อสินค้าของเรา สิ่งสำคัญคือหากมีกลยุทธ์แล้วแต่คุณได้ทำมันหรือยัง สิ่งที่ควรคำนึงถึงอย่างยิ่งก็คือ หนึ่งควรที่จะมีคนที่มาดูแลเรื่องของ online trading จริงๆ สองควรที่จะมีการกำหนดตัวชี้วัด(เคพีไอ) อย่างชัดเจน ต้องมีเป้าหมายที่ชัดเจน