อะไรก็เกิดขึ้นได้ ถ้ามี‘สนช.’
มาถึงจุดนี้ก็รู้แล้วว่าสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ส่งหนังสือขอให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว.
หลังจากที่ “มีชัย ฤชุพันธุ์” ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ออกมาเตือนว่าขัดกันแน่ๆ ก็ถือว่าเรื่องนี้กระจ่างกันไป ไม่ต้องเดาอะไรกันอีกในประเด็นนี้ เรื่องของเรื่องคือ ถ้าติดตามการทำงานของ สนช. ดีๆ เราอาจจะพบกับความพยายามบางอย่าง อันน่าจะเล็งผลบางประการ และสัญญาณที่ส่งผ่านออกมาก่อนนั้นมักจะเป็นจริงเสมอ
ไม่ว่าจะเป็นการเลื่อนการบังคับใช้กฎหมายเลือกตั้งส.ส. จากเดิมที่ให้ใช้ทันทีหลังประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็นการให้มีผลบังคับใช้หลังการประกาศ 90 วันโดย แน่นอนก่อนเรื่องจะถึงที่สุดก็มีคนออกมาโยนหินปูทาง และในอีกไม่กี่วัน สนช.ก็กระโดดออกมารับลูกทำให้เรื่องเป็นจริง ด้วยเสียงท่วมท้น 196 ต่อ 12 กับกฎหมายเลือก ส.ว. ก็ผ่านด้วยเสียงก็ท่วมท้นเช่นกัน 202 ต่อ 1 เสียง ไม่ต่างจากที่ผ่านๆมา ทั้งๆที่ ในชั้นกรรมาธิการร่วม กรธ. - สนช. ก็มีการติงกันแล้ว
แต่มาวันนี้กลับมารู้สึกกับคำทักท้วงของ“มีชัย ฤชุพันธุ์” ประธาน กรธ. เอาง่ายๆ ทำเหมือนจะเพิ่งเคยคิดเคยได้ยินกัน เลยตัดสินใจส่งศาล รธน. ตีความโดยอ้างว่าจะได้ไม่เป็นปัญหาในอนาคตแถมคนยื่นตีความก็มี 30 ชื่อ ช่างพอเหมาะพอเจาะกับคนที่ขาดการประชุมในวันดังกล่าว แต่อะไรก็ตามที่ตรงแบบพอดีเกินไป ก็ชวนสงสัยได้ไม่น้อยว่าอะไรเป็นเหตุให้เห็นตรงกัน ทำไมถึงต้องเป็น 30 คนนี้ และทำไม 30 คนนี้ต้องขาดประชุม
น่าจับตามองว่า ศาลจะพิจารณาอย่างไร และใช้เวลาเท่าไหร่ หากเห็นว่าเป็นเรื่องเล็กน้อยคงพอทน แต่หากเห็นว่าขัดสาระหลัก กฎหมายอาจคว่ำทั้งฉบับ และโรดแมพต้องเขยื้อน เอาเป็นว่า ถ้าระหว่างนี้บังเอิญมีข่าวลือเรื่องโรคเลื่อนออกมาอีกก็ทำใจไว้เนิ่นๆได้เลย เพราะที่ผ่านมาก็พิสูจน์ชัดแล้วว่าข่าวลือแบบนี้มัก“จริง” ยิ่งมีข่าว “สมชาย แสวงการ” รองเลขาวิปสนช. ขอให้พรรคการเมืองทำสัตยาบัน ยอมรับการเลื่อนเลือกตั้งไปอีก 3 เดือน พร้อมกับ “บิ๊กตู่-ประยุทธ์ จันทร์โอชา” บอกกับคนไทยที่ออสเตรเลียว่าช่วง มิ.ย. เตรียมเรียกพรรคการเมืองคุย ยิ่งเข้าเค้าเข้าไปกันใหญ่
โดย... กลิ่นมังกร