Feedback 4.0

Feedback 4.0

1% Rule of Open Source era บอกเราว่า ใคร ๆ ก็ทำได้

คุณผู้อ่านคิดว่าตัวเองถนัดการเป็น ‘ผู้ให้’ feedback หรือเป็น ‘ผู้ขอ’ feedback มากกว่ากันครับ?

หนึ่งในคุณค่าองค์กรของ Iclif คือ Give and Get Feedback หมายความว่าเขาต้องการให้สมาชิกทุกคนมีนิสัยการให้ข้อมูลย้อนกลับซึ่งกันและกัน รวมถึงการขอข้อมูลย้อนกลับจากกันและกันด้วย เช่น เมื่อทำงานอะไรเสร็จสักชิ้น เราควรเดินไปหาผู้รับ แล้วถามว่าเห็นอะไรไม่ถูกใจ หรือมีข้อแนะนำที่อยากให้เราปรับปรุงบ้างไหม?

โดยส่วนตัว ผมทำได้ดีกับการรับ feedback หากใครเดินมาหาและมีข้อเสนอ ผมสามารถรับฟังได้โดยไม่ด่วนตัดสิน พร้อมนำไปพิจารณาแก้ไข

สิ่งที่ยากคือการเดินไปขอ feedback อาจจะด้วยความเป็นคนไทย ผมยังตะขิดตะขวงใจที่จะไปเอ่ยปากขอให้คนวิจารณ์ตัวเอง สังเกตว่าเพื่อนร่วมงานที่เป็นฝรั่งอเมริกันหรือออสเตรเลียดูจะทำสิ่งนี้ได้สะดวกปากกว่าผมมาก

และแน่นอน เมื่อการประเมิน 360 องศาสิ้นปีออกมา คะแนนข้อที่ผมได้น้อยที่สุดคือพฤติกรรมการข้อ feedback นี่แหละ จนต้องนำมาตั้งเป็นเป้าหมายในปีนี้ว่าจะทำให้ดีขึ้น แต่ก็ยังไม่ดีเท่าไหร่

แต่ตอนนี้ผมมีตัวช่วยใหม่ นั่นคือ Feedback Loyalty Card ผมตั้งโปรโมชั่นตลอดปี 2561 ว่า “If you give me constructive feedback to help me learn and grow, then you will earn yourself a smiley” ทุกครั้งที่คุณให้ข้อมูลย้อนกลับที่เป็นประโยชน์กับผม คุณจะได้รับตราประทับ 1 ดวง สะสมให้ครบ 5 ครั้ง 5 ดวง แล้วนำมาแลก ข้าวเหนียวมะม่วง จากเมืองไทย!

ที่สำคัญ ผมนำฟังชั่น Loyalty Card นี้ไปใส่ไว้ใน mobile application ซึ่งผมเขียนเองชื่อ DrThun แล้วให้เพื่อนร่วมงานที่บริษัทโหลดไว้ในโทรศัพท์ของพวกเขา พอให้ feedback ผมเสร็จปั๊บก็งัดขึ้นมาจิ้มแสตมป์ตราประทับได้เลย สะดวก ไม่หาย พกไปได้ทุกที่

ข้อคิดของผู้นำสมอง

1. Use BASE to change ปรับสมองเปลี่ยนชีวิตพิชิตเป้าหมาย เมื่อพูดถึงการเปลี่ยนแปลง หลายคนมีวินัยและจิตใจอันแข็งกล้าที่จะบังคับตนเองให้ปรับตามที่ต้องการได้ แต่ผมไม่ใช่คนเหล่านั้น การเปลี่ยนด้วย Belief เป็นวิธีที่แย่สำหรับผม เช่น จะให้รวบรวมความกล้า หรือคอยเตือนตัวเองให้เดินไปขอ feedback จากคนอื่นเป็นประจำนั้นผมทำไม่ค่อยได้ ผมจึงใช้วิธีใหม่ นั่นคือการใช้เจ้า Loyalty Card นี้มาช่วย มันเป็นวิธีส่งสารถึงเพื่อนร่วมงานในบริษัทอีกทางหนึ่ง แม้จะไม่ได้กล่าวด้วยวาจา แต่การตั้งโปรโมชั่นแบบนี้บอกเขาว่าผมอยากได้ความคิดเห็นของพวกเขานะ เดินมาบอก (พร้อมรับตราประทับ) ได้เสมอ เป็นการ lead change ด้วย Social และ Environment

2. Everyone can innovate 1% Rule of Open Source era บอกเราว่า ใคร ๆ ก็ทำได้ กฎ 20/80 ในยุค 20th Century ถูกทดแทนด้วยกฎ 1/99 แห่งโลก 4.0 ในปัจจุบัน เมื่อก่อนหากผมอยากนำไอเดียเรื่อง Feedback Loyalty Card นี้ไปใส่ในแอพพลิเคชั่นโทรศัพท์ ผมคงต้องรอให้มีบริษัทไหนทำมันขึ้นมา เพื่อสั่งซื้อดาวน์โหลดทาง Apple Store หรือ Google Play หรือถ้ามุ่งมั่นอยากทำจริง ๆ อาจต้องลงทุนเรียนวิธีเขียนโค้ดเพื่อสร้างแอพฯดังกล่าวขึ้นมาเอง ซึ่งก็คงใช้เวลานานจนท้อไปเสียก่อน แต่ตอนนี้ ผมสามารถกดหาบริการสร้างแอพฯโดยไม่ต้องใช้โค้ดได้ เพียงแค่ไม่ถึง 2 ชั่วโมง ผมก็สร้างแอพพลิเคชั่นดังกล่าวพร้อมให้คนในทีมโหลดใช้ได้ แค่แชร์ QR code

3. Don’t be a lurker จงสร้างโอกาสในการเป็นผู้นำของคุณ มนุษย์ทำงานหลายคนบอกตัวเองว่าไม่สามารถสร้างสิ่งใหม่ได้เพราะ 1) ไม่มีเวลา 2) ไม่มีความรู้ 3) ไม่มีคนช่วย และ 4) ไม่มีอะไรเหลือให้ทำ ลองพิจารณาดูว่าข้ออ้างที่เราบอกตัวเองเหล่านี้จริงไหม ในยุค 4.0 นี้เรามีตัวช่วยด้านเวลามากมาย ข่าวอ่านได้ผ่านมือถือ หนังสือใช้ฟังผ่านหู กูเกิลได้ทุกคำถาม ผมไม่มีความรู้เรื่องการทำ mobile application แม้แต่นิดเดียว แต่นั่งดู YouTube เพียงไม่ถึงชั่วโมง ก็สามารถสร้างอะไรบางอย่างที่ตัวเองเคยคิดว่าเป็นไปไม่ได้ หากไม่แน่ใจเพียงเดินไปถามทีมไอที ชวนเขามานั่งหน้าจอ แป๊บเดียวเคลียร์ทุกเรื่อง

ที่สำคัญ นวัตกรรมเล็ก ๆ ของผมอันนี้ น่าจะช่วยทำให้พฤติกรรมตัวเองเรื่อง Get feedback พัฒนาอย่างก้าวกระโดด ดูจากจำนวนตราประทับ smiley ที่ผมแจกจ่ายไปตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ใครเห็นหน้ารีบวิ่งมาขอวิจารณ์ จนอยากจะปิดโปรโมชั่นนี้เสียแล้วสิ

ว่าแต่ ตอนนี้ผมขอตัวก่อน ต้องวิ่งออกไปหาซื้อข้าวเหนียวมะม่วงแล้วครับ!