ปัจจัยรุมเร้าหุ้นผันผวน จัดพอร์ตอย่างไรดี ..?  

ปัจจัยรุมเร้าหุ้นผันผวน จัดพอร์ตอย่างไรดี ..?   

ปัจจัยรุมเร้าหุ้นผันผวน จัดพอร์ตอย่างไรดี ..?  

ภาวะการลงทุนในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาตลาดหุ้นทั่วโลกมีความผันผวนตามที่ผมได้เขียนไว้ในตอนที่แล้ว โดยได้เตือนนักลงทุนไว้พร้อมกับแนะนำการการจัดสรรการลงทุนเพื่อลดความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนตั้งแต่ต้นเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งความผันผวนดังกล่าวน่าจะมีต่อเนื่องในเดือนมีนาคมนี้นะครับ โดยจะเห็นได้ว่าตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ถึง ณ ปัจจุบัน (8 มี.ค.) ตลาดหุ้นของแต่ละภูมิภาคมีการปรับตัวลงไม่ว่าจะเป็นตลาดหุ้นสหรัฐฯ(S&P500) ปรับตัวลงไป -3.37%  ญี่ปุ่น - 9.51% ยุโรป  จีน -4.93%  ส่วนตลาดหุ้นไทยปรับตัวลง -2.83%      

และเมื่อเข้าสู่เดือนมีนาคมมานี้ตลาดมีปัจจัยใหม่เพิ่มเข้ามาให้มีความผันผวนต่อเนื่องไปอีก ทั้งปัจจัยต่างประเทศและในประเทศ โดยที่ปัจจัยต่างประเทศหลักๆ คือนโยบายเรื่องดอกเบี้ยประธาน Fed คนใหม่จะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 4 ครั้งในปีนี้ เริ่มครั้งแรกในเดือนมีนาคมนี้ และตามมาด้วยเรื่องมาตรการการตั้งกำแพงภาษีนำเข้าเหล็ก – อลูมิเนียมของทรัมป์ ที่ตลาดทั่วโลกต่างจับตามองกันว่าหากเกิดขึ้นจริงจะมีผลตามมาอย่างไรบ้าง นอกจากนั้นยังมีปัจจัยในประเทศไทยคือเรื่องการเมืองที่ยังไม่ชัดเจนนักว่าจะมีการเลือกตั้งขึ้นเมื่อไรเป็น รวมไปถึงประเด็นของการแตกราคาพาร์ของหุ้น PTT ซึ่งส่งผลให้ราคาหุ้น PTT ปรับขึ้นผิดปกติ

อย่างไรก็ตามแม้ตลาดโดยรวมจะมีความผันผวนมากขึ้นต่อเนื่อง แต่อย่างไรก็ดีตลาดโลกได้ปรับตัวลดลงมาจุดหนึ่งแล้วเช่นกัน ผมมองว่านี่น่าจะเป็นโอกาสการปรับพอร์ตลงทุนให้เหมาะสมไม่ใช่จังหวะการการถือเงินสด แต่กรอบการลงทุนและการซื้อขาย แคบและเร็วมากขึ้น ดังนั้นหากมองถึงเรื่องของการลงทุนที่แนะนำแล้ว สำหรับนักลงทุนแบบระยะยาวตามหลัก Strategy Asset Allocation (SAA) และแบบระยะสั้นตามหลัก Tactical Asset Allocationgs (TAA) ทั้ง 2 กลยุทธ์ ควรมีพอร์ตการลงทุนในลักษณะดังต่อไปนี้ครับ

ปัจจัยรุมเร้าหุ้นผันผวน จัดพอร์ตอย่างไรดี ..?     

ผมขอแนะนำว่าอีกด้วยว่าในภาวะที่มีความผันผวนและมีการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วเช่นนี้ นักลงทุนควรใช้กองทุนรวมมาช่วยด้านการลงทุนเพื่อเป็นการลดความผันผวนและกระจายความเสี่ยงในการลงทุนได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักลงทุนมือใหม่ รวมถึงนักลงทุนระยะยาว หรือนักลงทุนที่ไม่ค่อยมีเวลาลงทุน ดังนั้นจึงต้องใช้การลงทุนในแบบ SAA ที่ใช้กองทุนรวมเป็นหลัก ขณะที่พอร์ตลงทุนแบบ TAA เหมาะสำหรับการลงทุนผสมระหว่างกองทุนรวมและการลงทุนด้วยตนเอง อย่างไรก็ตามในการลงทุนทั้ง 2 แบบ นักลงทุนต้องมีที่ปรึกษาการลงทุนที่ในการช่วยให้พอร์ตลงทุนได้ผลตอบแทนที่ดีในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนได้ ซึ่งทาง บริษัทหลักทรัพย์เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด เรามีบริการด้านการลงทุนในกองทุนรวมไว้คอยให้คำแนะนำและช่วยวางแผนการลงทุนกับนักลงทุนทุกท่านครับ สามารถขอคำปรึกษาการลงทุนได้ที่ KTBST 02-648 1449 / 02- 648 -1747

 

ติดตามข่าวสารเรื่องการลงทุนที่น่าสนใจจาก KTBST Private Wealth Management ได้ที่

www.facebook.com/ktbst.channel