สตอรี่(ใหม่) คดีเปรมชัย

สตอรี่(ใหม่) คดีเปรมชัย

ใครหลายคนถามผมว่า คดีเสือดำ จะจบแบบไหน? ถ้าเป็นก่อนหน้านี้ ผมเชื่อมั่น 100% ว่า จากพยานหลักฐาน ‘เสือดำจะไม่ตายฟรี’

เท่าที่ทราบมาตอนนี้ มีความพยายามบิดเบือนความจริง ด้วยการสร้างสตอรี่เรื่องนี้ขึ้นมาใหม่ มีตัวละครใหม่

ตัวละครใหม่ ที่ชื่อ “พรานบุญ”

พรานบุญ” พรานหนุ่มวัย 46 ปี แห่งบ้านทุ่งเสือโทน หรือบ้านคลิตี้ ต.ชะแล อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี

พรานบุญ” เข้าป่าล่าสัตว์ตามปกติพรานป่าแห่งทุ่งใหญ่นเรศวร ช่างบังเอิญว่า ในวันที่ 3 ก.พ. พรานบุญ ยิงเสือดำได้ และนำมาขายให้คนในกลุ่มของเปรมชัย แต่ในช่วงซื้อขาย เปรมชัย ไม่รู้ไม่เห็นเพราะไม่อยู่ในเหตุการณ์

แล้วนายเปรมชัย ไปไหน ไปดูสัตว์ป่า ที่เซซาโว หรือใจกลางป่าทุ่งใหญ่ อยู่ห่างจากด่านหน่วยห้วยมหาราช 26 กม. และได้กลับออกมาช่วงบ่ายวันที่ 4 ก.พ.จนถูกจับกุม

ครั้งแรกๆ “พรานบุญ” ยังไม่รับสมอ้างว่าเป็นคนยิงเสือดำ เพราะวันที่ 3 และ 4 ก.พ. มีคนหลายคน พบเห็นตัวเขาในหมู่บ้าน

แต่วันที่ 6 กุมภาพันธ์ วันที่ส่งตัว เปรมชัย กับพวกให้ตำรวจทองผาภูมิ “พรานบุญ” มาปรากฏตัวที่สภ.ทองผาภูมิ วันนั้น มีสื่อหลายสำนักไปทำข่าว ต้องมีสักสำนักที่ถ่ายภาพเห็น “พรานบุญ”

ในสตอรี่ใหม่ “อาวุธปืน” เปรมชัย ไม่รู้เรื่องเพราะคนจัดรถ เตรียมอุปกรณ์ และซุกซ่อนปืนในรถ คือ “ยงค์ โดดเครือ”

อาวุธปืน ในสตอรี่ใหม่ จึงต้องทำให้สังคมไขว้เขวว่าสะเก็ดลูกปืนซึ่งพบที่หางเสือดำมาจากกระสุนลูกซองคู่ แต่กำลังจะมีการให้ข่าวใหม่ ว่า เสือดำ ถูกยิงจากปืนไรเฟิล หรือปืนกระบอกอื่น

พร้อมกับชี้ว่าการพิสูจน์กระสุนปืนลูกซอง เบอร์ 20 ตรวจดีเอ็นเอ ไม่ได้เพราะปลอกโดนความร้อนสูง

ทั้งที่ทำไม่ยาก คือการตรวจลำกล้องปืนลูกซองแฝด ถ้าสะเก็ดในลำกล้องเป็นชนิดเดียวกัน กับสะเก็ดกระสุนที่หางเสือดำ ก็จบ

นอกจากนี้ ตรวจเพิ่มไปหน่อย ถ้าโก่งไกปืนลูกซอง มีลายมือใคร คนนั้นคือผู้ยิง

ดังนั้น จึงมีความพยายามเบี่ยงชนิดปืนที่ยิงเสือดำ จากลูกซองแฝดเป็นไรเฟิล หรือปืนกระบอกอื่น ซึ่งโก่งไกปืนไม่มีลายนิ้วมือเปรมชัย

แต่หากตรวจปืนลูกซองแฝด สะเก็ดลูกปืนที่หางเสือดำ ตรงกัน กับอุจจาระบริเวณลำห้วยปะชิ ถ้าเป็นของ เปรมชัย ก็ไม่ต้องไปหาหลักฐานอื่นให้ยาก

ถ้าไม่ทำวิธีนี้ “เปรมชัย” หลุดคดียิงเสือดำ 100%