ขาลง...กู่ไม่กลับ

ขาลง...กู่ไม่กลับ

ภาวะขาลงของ "รัฐนาวา คสช." เป็นที่รู้กันมาระยะหนึ่งแล้ว ที่ต้องใช้คำว่า "รัฐนาวา" เพราะนาทีนี้ไม่ใช่ "ขาลง"

 เฉพาะรัฐบาล แต่ยังลามไปถึง สนช. กรธ. และองค์กรแม่น้ำ 4 สาย 5 สายอื่นๆ ที่แตกลูกออกจาก คสช.ด้วย

กระจกสะท้อน "ขาลงแบบกู่ไม่กลับ" ที่มองเห็นชัดเจนที่สุดก็คือ ความน่าเชื่อถือของ "วาทะผู้นำ" ที่เกือบจะไม่มีเหลืออยู่เลย ขนาด "นายกฯลุงตูู่" ที่ว่ายังมีคนรักมากกว่าคนเกลียด ออกมาประกาศวันเลือกตั้งไม่เกิน ก.พ.ปีหน้า ยังแทบไม่มีคนเชื่อ แถมถูกล้อเลียนกลับว่าเป็น "พีน็อคคิโอบ้าง "เด็กเลี้ยงแกะ" บ้าง

สาเหตุที่กระแสนิยมดิ่งลงเร็วเป็นพิเศษ หนีไม่พ้นปม "แหวนเพชรแทงตา นาฬิกาสุดหรูของ "พี่ใหญ่บูรพาพยัคฆ์" เพราะการปล่อยให้ปัญหานี้คาราคาซัง ทำให้สังคมตระหนักว่า รัฐบาลนี้ก็ไม่ได้แตกต่างอะไรจากรัฐบาลนักการเมือง คือตัวผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีก็ไม่ได้มีสปิริตหรือจริยธรรมอะไรสูงกว่า ขณะที่หัวหน้ารัฐบาลก็อุ้มกระเตงคนที่สังคมไม่ต้องการ

เหตุนี้เอง "กระแสอยากเลือกตั้ง" จึงจุดติด แม้แต่ในวงประชุมลับของฝ่ายความมั่นคงเองก็ประเมินว่าม็อบน่าจะจุดติด ในช่วงครบ 4 ปีการยึดอำนาจ เดือน พ.ค.นี้ และหากมีเงื่อนไขอะไรเพิ่ม สถานการณ์อาจลามไปถึงขั้น "เอาไม่อยู่"

นี่เองจึงกลายเป็นแรงกดดันให้ "นายกฯลุงตู่ต้องปรับท่าที สั่ง สนช.ห้ามคว่ำกฎหมายลูก (ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้บอกแทรกแซงไม่ได้) และล่าสุดก็คือประกาศกำหนดวันเลือกตั้ง (อีกรอบ) แบบไม่ให้ถามซ้ำ

แต่สถานการณ์นับจากนี้ก็ยังไม่น่าไว้วางใจ เพราะทุกองคาพยพของ “รัฐนาวา” มีเดิมพันอำนาจรออยู่ จึงเริ่มออกอาการ "พาลอย่าว่าแต่ดึงศัตรูมาเป็นมิตร ซึ่งไม่เคยทำอยู่แล้ว แต่หลังๆ ยังถีบมิตรไปเป็นศัตรูด้วย อย่างกรณี คุณต่อตระกูล ยมนาค ยื่นหนังสือให้หัวหน้า คสช.ปลด "พี่ใหญ่" ออกจากคณะกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (คตช.) ก็ยังโดนท่านผู้นำตำหนิแทบเสียคน

หรืออย่างกรณี กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ที่รับผิดชอบปัญหาชายแดนใต้ เปิดศึกกับสื่อมวลชน เอ็นจีโอ และภาคประชาสังคม แจ้งจับสื่อที่เสนอข่าวว่ามีซ้อมทรมาน พอฝ่ายประชาสังคมเขาแถลงคัดค้าน มองว่าเป็นการ "ฟ้องปิดปาก" ก็ออกแถลงการณ์ด่ากลับถึงขั้นเป็น "องค์กรลวงโลก" (อะไรจะขนาดนั้น)

หรือนี่คือการแก้เกม หลังจากประธานองคมนตรีออกมาเตือนว่า "กองหนุนตู่เกือบหมดแล้ว"